ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาบุคลากรด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PIDRE

แบบรายงานผลงานการปฏิบัติที่ดี ด้านการบริหารจัดการศึกษา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 2 ปีงบประมาณ 2565

สรุปหัวข้อ/ประเด็นการนำเสนอวิธีปฏิบัติที่ดี ประกอบด้วย

1. ชื่อผลงาน : การพัฒนาบุคลากรด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PIDRE

( √ ) ผลงานด้าน นิเทศภายใน

( ) ผลงานด้านระบบการประกันคุณภาพการศึกษา

( ) ผลงานด้านการบริหารวิชาการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่เน้น Active Learning

2. ชื่อผู้นำเสนอผลงาน : นายศรศักดิ์ บัวผัด

ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา

โรงเรียนบ้านร้องเชียงแรง

กลุ่มโรงเรียนภูซาง

3. ความสำคัญของผลงาน นวัตกรรม หรือแนวปฏิบัติที่นำเสนอ

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๔๕ มาตรา ๒๒ การการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ซึ่งการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานและหลักการดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยครูที่มีความรู้ความสามารถอย่างหลากหลาย และเพียงพอ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๔๕ มาตรา ๕๒ กำหนดให้มีการส่งเสริมให้มีระบบกระบวนการผลิตครูและพัฒนาครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง อันจะส่งผลถึงการพัฒนาการศึกษาของชาติให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนาการเรียนการสอนเป็นไปตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง ครูและบุคลากรทางการศึกษาจึงเป็นปัจจัยการบริหารจัดการที่สำคัญยิ่งที่จะขับเคลื่อนการจัดการศึกษาสู่เป้าหมายของการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามหลักสูตรและนโยบายด้านการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมาโรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงมีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรค่อนข้างมาก มีครูและบุคลากรใหม่จากการบรรจุแต่งตั้งและการย้ายประจำปีทดแทนครูที่เกษียณอายุราชการ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นและถือเป็นภารกิจสำคัญของผู้บริหารสถานศึกษาในการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนและการปฏิบัติงานในหน้าที่

การนิเทศภายในโรงเรียน เป็นวิธีการสำคัญอย่างหนึ่งในการบริหารจัดการศึกษาที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพราะเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการที่เกี่ยวข้อง หากโรงเรียนมีระบบการนิเทศภายในที่เข้มแข็ง มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ต่อเนื่องสม่ำเสมอจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรย่อมส่งผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษา จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารโรงเรียนและบุคลากรทุกฝ่ายในโรงเรียนจะต้องร่วมร่วมใจกันดำเนินงานทั้งบทบาทผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ

โรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรและกระบวนการนิเทศภายในจึงได้ดำเนินการพัฒนารูปแบบและระบบการนิเทศภายในให้เป็นระบบ ชัดเจน เหมาะสมกับบริบทสถานศึกษาและความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน ครูและบุคลากรสามารถจัดการเรียนการสอนและปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับหลักการและแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ดังนี้

ที่มา : คู่มือการนิเทศภายในโรงเรียน กลุ่มงานนิเทศ ติดตามและประเมินผลระบบบริหารและการจัดการศึกษา

กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11

โรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงดำเนินการนิเทศภายในตามกระบวนการนิเทศแบบ PIDRE ของ ดร.สงัด อุทรานันท์ ได้กล่าวสรุปไว้ว่ากระบวนการนิเทศการศึกษา มี 5 ขั้นตอน ในการดำเนินการ คือ

ขั้นที่ 1 วางแผนการนิเทศ (Planning - P)

ขั้นที่ 2 ให้ความรู้ ความเข้าใจในการทำงาน (Informing - I)

ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติงาน (Doing-D)

ขั้นที่ 4 สร้างเสริมกำลังใจ (Reinforcing-R)

ขั้นที่ 5 ประเมินการนิเทศ (Evaluating-E)

(อ้างใน วัชรา เล่าเรียนดี 2550 : 25-26)

ซึ่งโรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงดำเนินการตามกระบวนการนิเทศภายใน โดยคำนึงถึงวิธีปฏิบัติที่ดีซึ่งเป็นวัฒนธรรมองค์กร R.C.R.S Model ดังนี้

R : Relationships = สัมพันธภาพ

C : Cooperate =สร้างความตระหนัก, ข้อตกลงร่วมกัน

R : Responsibility =ความรับผิดชอบ

S : Share =แบ่งปัน,แลกเปลี่ยนเรียนรู้

4. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

4.1 จุดประสงค์

1) เพื่อพัฒนารูปแบบและกระบวนการนิเทศภายในโรงเรียน

2) เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรให้มีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนและการปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ

3) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น

4.2 เป้าหมาย

4.2.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ

1) ครูและบุคลากรโรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ

2) ครูและบุคลากรโรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงทุกคนได้รับนิเทศภายใน อย่างน้อยภาคเรียนละ 2 ครั้ง

4.2.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ

1) ครูและบุคลากรโรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงทุกคนมีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนและการปฏิบัติงานในหน้าที่ในระดับดีเลิศ

2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

5. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขั้นตอนการดำเนินงาน

ขั้นที่ 1 วางแผนการนิเทศ (Planning - P) เป็นขั้นที่ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศจะทำการประชุมปรึกษาหารือเพื่อให้ได้มาซึ่งปัญหาและความต้องการจำเป็นที่จะต้องมีการนิเทศ รวมทั้งวางแผนถึงขั้นตอนการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการนิเทศที่จะจัดขึ้นด้วย

ขั้นที่ 2 ให้ความรู้ความเข้าใจในการทำงาน (Informing - I) เป็นขั้นตอนของการให้ความรู้ความเข้าใจถึงสิ่งที่จะดำเนินงานว่าจะต้องอาศัยความรู้ความสามารถอย่างไรบ้าง จะมีขั้นตอนในการดำเนินการอย่างไร และจะทำอย่างไรจึงจะทำให้ได้ผลงานออกมาอย่างมีคุณภาพ ขั้นนี้จำเป็นทุกครั้งสำหรับการเริ่มการนิเทศที่จัดขึ้นใหม่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม และก็มีความจำเป็นสำหรับงานนิเทศที่ยังไม่ได้ผล หรือได้ผลไม่ถึงขั้นที่พอใจ ซึ่งจำเป็นจะต้องทำการทบทวนให้ความรู้ในการปฏิบัติงานที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง

ขั้นที่ 3 การปฏิบัติงาน (Doing-D) ประกอบด้วยงานใน 3 ลักษณะ คือ

3.1 การปฏิบัติงานของผู้รับการนิเทศเป็นขั้นที่ผู้รับการนิเทศลงมือปฏิบัติงานตามความรู้ความสามารถที่ได้รับมาจากการดำเนินการในขั้นที่ 2

3.2 การปฏิบัติงานของผู้ให้การนิเทศ ขั้นนี้ผู้ให้การนิเทศจะทำการนิเทศและควบคุมคุณภาพให้งานสำเร็จออกมาทันตามกำหนดเวลาและมีคุณภาพสูง

ขั้นที่ 4 การสร้างเสริมกำลังใจ (Reinforcing-R) ขั้นนี้เป็นขั้นของการเสริมกำลังใจของผู้บริหารเพื่อให้ผู้รับการนิเทศมีความมั่นใจและบังเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ขั้นนี้อาจจะดำเนินการไปพร้อม ๆ กันกับผู้ที่รับการนิเทศกำลังปฏิบัติงานหรือการปฏิบัติงานได้เสร็จสิ้นลงไปแล้วก็ได้

ขั้นที่ 5 ประเมินการนิเทศ (Evaluating-E) เป็นขั้นที่ผู้นิเทศทำการประเมินผลการดำเนินการซึ่งผ่านไปแล้วว่าเป็นอย่างไร หลังจากการประเมินผลการนิเทศ หากพบว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทำให้การดำเนินงานไม่ได้ผลก็สมควรจะต้องทำการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขอาจจะทำได้โดยการให้ความรู้ในสิ่งที่ทำใหม่อีกครั้งหนึ่ง สำหรับกรณีที่ผลงานออกมายังไม่ถึงขั้นที่พอใจ หรือดำเนินการปรับปรุงการดำเนินงานทั้งหมดสำหรับกรณีการดำเนินงานไม่ได้ผล และถ้าหากการประเมินผลพบว่าประสบผลสำเร็จตามที่ได้ตั้งไว้หากจะดำเนินการนิเทศต่อไปก็สามารถทำไปได้เลยโดยไม่ต้องให้ความรู้เรื่องนั้นอีก

การดำเนินการนิเทศตามวัฏจักรนี้จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดนิ่งจนกว่าจะบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้ หรือพัฒนาผู้รับการนิเทศให้เป็นไปตามเป้าหมาย หากต้องการเริ่มนิเทศในสิ่งใหม่หรือตั้งเป้าหมายใหม่ ก็จะต้องดำเนินการตั้งแต่เริ่มแรกอีก

6. ผลการดำเนินการ ผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์ที่ได้รับ

1) โรงเรียนบ้านร้องเชียงแรงมีรูปแบบและกระบวนการนิเทศภายในโรงเรียนที่ชัดเจนมีการสื่อสารสร้างความเข้าใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ

2) ครูและบุคลากรได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนและการปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ

3) นักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ

7. ปัจจัยความสำเร็จ

ยุทธศาสตร์สำคัญในการดำเนินการนิเทศภายใน คือ การมีส่วนร่วมและการทำงานอย่างเป็นระบบ

การมีส่วนร่วม

1) การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศ

2) การสร้างเจตคติที่ดีต่อการนิเทศ

3) การกำหนดเป้าหมาย/ผลสำเร็จร่วมกัน

4) การพิจารณาบุคลากร/คณะบุคลากรร่วมรับผิดชอบ

5) การพิจารณา/หาวิธีการดำเนินงานร่วมกันเพื่อสู่เป้าหมายที่ต้องการ

6) การหาวิธีการเสริมแรง จูงใจ ให้รางวัล

7) การกำหนดแนวทางการนิเทศภายในติดตามประเมินผลการทำงานร่วมกัน

การทำงานอย่างเป็นระบบ

1) วิเคราะห์ปัญหาความต้องการจำเป็น

2) วิเคราะห์ทางเลือกในการแก้ปัญหา/พัฒนา

3) เลือกทางเลือกที่เหมาะสมและวางแผน

4) ดำเนินการตามแผน

5) ประเมินผลการดำเนินงาน

8. บทเรียนที่ได้รับ

แนวคิดในการปฏิบัติงานของผู้นิเทศ

ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการนิเทศภายในโรงเรียนควรเข้าใจและตระหนักเกี่ยวกับการนิเทศภายในโรงเรียน ดังนี้

1. การเริ่มต้นจัดกิจกรรมการนิเทศภายในโรงเรียนในระยะแรกควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเผชิญหน้ากัน เช่น การสังเกตการณ์สอน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเกิดความขัดแย้งได้ง่าย ควรเลือกกิจกรรที่สร้างความคุ้นเคย เช่น การให้คำปรึกษาหารือ การศึกษาเอกสารทางวิชาการหรือการศึกษาดูงาน เมื่อครูคุ้นเคยกับการนิเทศภายในโรงเรียน และมีความพร้อมจึงใช้กิจกรรมสังเกตการสอน

2. ความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การนิเทศภายในโรงเรียนประสบความสำเร็จ การใช้กระบวนการกลุ่มดำเนินงานจะทำให้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก

3. กิจกรรมที่ใช้ในการนิเทศ ควรตอบสนองต่อปัญหา ซึ่งต้องร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยผลที่เกิดจากการแก้ปัญหา ให้เน้นการพัฒนาบุคลากรและพัฒนางาน

4. คณะกรรมการนิเทศ ควรศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ เพื่อนำมาใช้ในการนิเทศครูในสถานศึกษา

5. สร้างศรัทธาและความเข้าใจอันดีกับผู้รับการนิเทศ

บทบาทของผู้รับการนิเทศ

การนิเทศภายในโรงเรียนจะประสบผลสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้รับการนิเทศจะต้องให้ความร่วมมือในการดำเนินการนิเทศ ดังนี้

1. ร่วมกิจกรรมในการเก็บรวบรวมข้อมูล และการจัดทำแผนการนิเทศภายในโรงเรียน

2. นำแนวทางที่ได้รับจากการนิเทศไปแก้ไขปัญหาหรือพัฒนางาน

3. เสนอปัญหาต่อผู้นิเทศ เมื่อพบปัญหาระหว่างการปฏิบัติงานเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไข

4. ให้ความร่วมมือในการประเมินผลการนิเทศ

9. การเผยแพร่ และการได้รับการยอมรับ (รางวัลที่ได้รับ)

แนวทางการพัฒนาบุคลากรด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PIDRE ได้เสนอเผยแพร่สู่การปฏิบัติในระดับสถานศึกษาปรากฏในบันทึกการประชุม

10. การขยายผลต่อยอด หรือประยุกต์ใช้ผลงาน นวัตกรรมหรือแนวปฏิบัติ

การพัฒนาบุคลากรด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PIDRE สามารถนำไปใช้นิเทศ กำกับ ติดตามการดำเนินงานทั้งด้านบริหารวิชาการ บริหารบุคคล บริหารงบประมาณ และบริหารทั่วไป โดยยุทธศาสตร์สำคัญในการดำเนินการนิเทศภายใน คือ การมีส่วนร่วมและการทำงานอย่างเป็นระบบ

โพสต์โดย sornsak : [19 ก.ย. 2565 เวลา 19:43 น.]
อ่าน [6693] ไอพี : 223.24.158.232
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,261 ครั้ง
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส

เปิดอ่าน 7,728 ครั้ง
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"

เปิดอ่าน 899 ครั้ง
ออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ต้องเริ่มยังไง
ออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ต้องเริ่มยังไง

เปิดอ่าน 21,423 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม

เปิดอ่าน 53,947 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่

เปิดอ่าน 55,345 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 16,674 ครั้ง
ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้
ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้

เปิดอ่าน 34,598 ครั้ง
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q

เปิดอ่าน 9,834 ครั้ง
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 17,120 ครั้ง
รับอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มพลังให้สมอง
รับอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มพลังให้สมอง

เปิดอ่าน 14,695 ครั้ง
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น

เปิดอ่าน 20,134 ครั้ง
"ข่าลิง" คืออะไร?
"ข่าลิง" คืออะไร?

เปิดอ่าน 9,314 ครั้ง
ถอดรหัสลับบิ๊ก "แอปเปิล" 6 สูตรสำเร็จที่ใคร ๆ อยากรู้ ?
ถอดรหัสลับบิ๊ก "แอปเปิล" 6 สูตรสำเร็จที่ใคร ๆ อยากรู้ ?

เปิดอ่าน 12,127 ครั้ง
อาหารที่ทำให้ดูสวย
อาหารที่ทำให้ดูสวย

เปิดอ่าน 7,014 ครั้ง
รวมสื่อการสอน Back to School 2565
รวมสื่อการสอน Back to School 2565

เปิดอ่าน 13,697 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
เปิดอ่าน 23,965 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
เปิดอ่าน 26,813 ครั้ง
ดาวน์โหลด! แบบรูปรายการก่อสร้างและหนังสือมาตรฐานประกอบแบบก่อสร้าง
ดาวน์โหลด! แบบรูปรายการก่อสร้างและหนังสือมาตรฐานประกอบแบบก่อสร้าง
เปิดอ่าน 15,805 ครั้ง
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เปิดอ่าน 27,210 ครั้ง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ