ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ผู้ศึกษา นายวงศ์วัฒน์ พรอนุวงศ์ ตำแหน่ง รองผู้อำนวย

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model)

ผู้ศึกษา นายวงศ์วัฒน์ พรอนุวงศ์

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคอลอมุดอ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3

ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ปีการศึกษา 2564 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ รวมทั้งทราบปัญหาเพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะ ปรับปรุง พัฒนาการดำเนินงานของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) และ ด้านผลผลิต (Product Evaluation) ประชากรที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 1,716 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 3 คน ครูผู้สอน จำนวน 57 คน นักเรียนโรงเรียนบ้านคอลอมุดอ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 821 คน ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านคอลอมุดอ จำนวน 821 คน และคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 14 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ จำนวน 612 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 3 คน ครูผู้สอน จำนวน 57 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 14 คน โดยวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง นักเรียนโรงเรียนบ้านคอลอมุดอ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 269 และผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านคอลอมุดอ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 269 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากประชากรตามตารางเครจซีและมอร์แกน (Krejecie & Morgan) เครื่องมือที่ใช้ประกอบไปด้วยแบบสอบถาม จำนวน 10 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จำนวน 2 ฉบับ และแบบสังเกต จำนวน 1 ฉบับ รวม จำนวน 13 ฉบับ สถิติที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้หาค่าความตรงของเครื่องมือใช้สูตร IOC ใช้แอลฟา หาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามและแบบสังเกตโดยใช้สูตรของครอนบาร์ค

ผลการประเมิน โดยสรุปมี ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

1.1 ระดับความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

1.2 ระดับความเป็นไปได้ของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 3 ตัวชี้วัด ดังนี้

2.1 ระดับความเหมาะสมของบุคลากร พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

2.2 ระดับความเหมาะสมของงบประมาณ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

2.3 ระดับความเหมาะสมของกิจกรรม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

3.1 ร้อยละของกิจกรรมที่ดำเนินการ พบว่า กิจกรรมที่ดำเนินการ คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมากที่สุด

3.2 ร้อยละของการติดตามโครงการ พบว่า การติดตามโครงการ คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมากที่สุด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่ามีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 6 ตัวชี้วัด ดังนี้

4.1 โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยมีกระบวนการวิธีการและเครื่องมือที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถตรวจสอบได้ พบว่า หลังจากการดำเนินโครงการแล้ว โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยมีกระบวนการวิธีการและเครื่องมือที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถตรวจสอบได้ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.2 นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.3 การส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพในการร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพในการร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.4 ระดับความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของนักเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.5 ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.6 ระดับความพึงพอใจของผู้บริหาร ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของผู้บริหาร ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

ข้อเสนอแนะ

1. จากผลการประเมิน พบว่า ประเด็นการส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพใน การร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบผ่านเกณฑ์การประเมินค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ปกครองต้องทำงาน ออกจากบ้านตอนเช้าและกลับเข้าบ้านในตอนเย็น ทำให้ไม่มีเวลาในการให้ความเอาใจใส่ หรือสานต่อจากโรงเรียนเท่าที่ควร จึงควรชี้แจงให้ผู้ปกครองได้เข้าใจ และให้ความเอาใจใส่บุตรหลานในปกครองให้มากยิ่งขึ้น จึงจะสามารถส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

2. จากผลการประเมิน พบว่า ประเด็นปัจจัยนำเข้าของโครงการ ตัวชี้วัดระดับความเหมาะสมของบุคลากร ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดี จึงควรมีการชี้แจงสร้างความตระหนักให้ครูผู้รับผิดชอบให้สามารถจัดกิจกรรมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้อย่างเหมาะสมและหลากหลาย สร้าง ความตระหนัก และให้บุคลากรทุกคนเห็นความสำคัญของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้งหาแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย wongwatwong : [19 ก.ย. 2565 เวลา 16:33 น.]
อ่าน [2339] ไอพี : 223.206.236.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,302 ครั้ง
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน

เปิดอ่าน 75,398 ครั้ง
กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ
กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ

เปิดอ่าน 69,107 ครั้ง
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต

เปิดอ่าน 2,127 ครั้ง
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเรารั่วไหล เราจะรับมือแล้วป้องกันอย่างไร?
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเรารั่วไหล เราจะรับมือแล้วป้องกันอย่างไร?

เปิดอ่าน 19,245 ครั้ง
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี

เปิดอ่าน 11,508 ครั้ง
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล

เปิดอ่าน 18,180 ครั้ง
แฉกลโกง40ขายตรงตุ๋นผู้บริโภคหมื่นล.
แฉกลโกง40ขายตรงตุ๋นผู้บริโภคหมื่นล.

เปิดอ่าน 25,130 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?

เปิดอ่าน 14,843 ครั้ง
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ

เปิดอ่าน 13,614 ครั้ง
การบวกเมตริก
การบวกเมตริก

เปิดอ่าน 17,428 ครั้ง
กลับบ้านก่อนเวลา ปีนผ้าหนีแทบไม่ทัน
กลับบ้านก่อนเวลา ปีนผ้าหนีแทบไม่ทัน

เปิดอ่าน 107,846 ครั้ง
รายชื่อโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 4,000 คนขึ้นไป ปีการศึกษา 2559 (เรียงลำดับตามจำนวนนักเรียนจากมากไปน้อย)
รายชื่อโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 4,000 คนขึ้นไป ปีการศึกษา 2559 (เรียงลำดับตามจำนวนนักเรียนจากมากไปน้อย)

เปิดอ่าน 41,348 ครั้ง
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน

เปิดอ่าน 11,611 ครั้ง
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ

เปิดอ่าน 36,242 ครั้ง
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ

เปิดอ่าน 10,930 ครั้ง
รู้จัก "ไวรัสไข้หวัดหมู" มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!
รู้จัก "ไวรัสไข้หวัดหมู" มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!
เปิดอ่าน 16,333 ครั้ง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง
เปิดอ่าน 15,988 ครั้ง
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์
เปิดอ่าน 20,890 ครั้ง
คลิปโฆษณาไทย ที่ซึ้งกินใจคนทั่วโลก
คลิปโฆษณาไทย ที่ซึ้งกินใจคนทั่วโลก
เปิดอ่าน 106,527 ครั้ง
ครูกับการจัดการเรียนการสอน
ครูกับการจัดการเรียนการสอน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ