ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี
ผู้ประเมิน นายวรเชษฐ ชมพลมา
รองผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี
ปีการศึกษา 2564
บทสรุปสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา
การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ปีการศึกษา 2564 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินบริบท (Context Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี 2) ประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี3) ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี และ 4) ประเมินผลผลิต (Product Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชา นุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย ข้าราชการครู โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ปีการศึกษา 2564 จำนวน 74 คน ซึ่งใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ปีการศึกษา 2564 จำนวน 15 คน (ไม่รวมผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน) ซึ่งใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรีจำนวน 196 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากประชากรตามตารางเครจซีและมอร์แกน (Krejecie & Morgan) และ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรีจำนวน 196 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากประชากรตามตารางเครจซีและมอร์แกน (Krejecie & Morgan) รวมทั้งสิ้น จำนวน 481 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบไปด้วยแบบสอบถาม จำนวน 5 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จำนวน 2 ฉบับ แบบทดสอบ จำนวน 2 ฉบับ และแบบสังเกต จำนวน 1 ฉบับ รวม จำนวน 10 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติอ้างอิงใช้ t-Test แบบไม่อิสระ สถิติที่ใช้หาค่าความตรงของเครื่องมือใช้สูตร IOC ใช้แอลฟา หาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามและแบบทดสอบโดยใช้สูตรของครอนบาร์ค และใช้ r หาค่าความเชื่อมั่นตามสูตร KR-20 เพื่อหาค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบ
ผลการประเมิน โดยสรุปมี ดังนี้
1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้
1.1 ระดับความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
1.2 ระดับความเป็นไปได้ของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 3 ตัวชี้วัด ดังนี้
2.1 ระดับความเหมาะสมของบุคลากร พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
2.2 ระดับความเหมาะสมของงบประมาณ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
2.3 ระดับความเหมาะสมของกิจกรรม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้
3.1 ร้อยละของกิจกรรมที่ดำเนินการ พบว่า กิจกรรมที่ดำเนินการ คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมากที่สุด
3.2 ร้อยละของการติดตามโครงการ พบว่า การติดตามโครงการ คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่ามีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 6 ตัวชี้วัด ดังนี้
4.1 โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยมีกระบวนการวิธีการและเครื่องมือที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถตรวจสอบได้ พบว่า หลังจากการดำเนินโครงการแล้ว โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยมีกระบวนการวิธีการและเครื่องมือที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถตรวจสอบได้ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
4.2 นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
4.3 การส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพในการร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพในการร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
4.4 ระดับความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของนักเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
4.5 ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
4.6 ระดับความพึงพอใจของผู้บริหาร ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของผู้บริหาร ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก
ข้อเสนอแนะ
1. จากผลการประเมิน พบว่า ประเด็นการส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพใน การร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบผ่านเกณฑ์การประเมินค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ปกครองต้องทำงาน ออกจากบ้านตอนเช้าและกลับเข้าบ้านในตอนเย็น ทำให้ไม่มีเวลาในการให้ความเอาใจใส่ หรือสานต่อจากโรงเรียนเท่าที่ควร จึงควรชี้แจงให้ผู้ปกครองได้เข้าใจ และให้ความเอาใจใส่บุตรหลานในปกครองให้มากยิ่งขึ้น จึงจะสามารถส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
2. จากผลการประเมิน พบว่า ประเด็นปัจจัยนำเข้าของโครงการ ตัวชี้วัดระดับความเหมาะสมของบุคลากร ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดี จึงควรมีการชี้แจงสร้างความตระหนักให้ครูผู้รับผิดชอบให้สามารถจัดกิจกรรมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้อย่างเหมาะสมและหลากหลาย สร้าง ความตระหนัก และให้บุคลากรทุกคนเห็นความสำคัญของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้งหาแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ