ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ผู้ประเมิน นายวรเชษฐ ชมพลมา รองผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ปีกา

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี

ผู้ประเมิน นายวรเชษฐ ชมพลมา

รองผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี

ปีการศึกษา 2564

บทสรุปสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา

การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ปีการศึกษา 2564 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินบริบท (Context Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี 2) ประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี3) ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี และ 4) ประเมินผลผลิต (Product Evaluation) โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนราชประชา นุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย ข้าราชการครู โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ปีการศึกษา 2564 จำนวน 74 คน ซึ่งใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ปีการศึกษา 2564 จำนวน 15 คน (ไม่รวมผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน) ซึ่งใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรีจำนวน 196 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากประชากรตามตารางเครจซีและมอร์แกน (Krejecie & Morgan) และ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรีจำนวน 196 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากประชากรตามตารางเครจซีและมอร์แกน (Krejecie & Morgan) รวมทั้งสิ้น จำนวน 481 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบไปด้วยแบบสอบถาม จำนวน 5 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จำนวน 2 ฉบับ แบบทดสอบ จำนวน 2 ฉบับ และแบบสังเกต จำนวน 1 ฉบับ รวม จำนวน 10 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติอ้างอิงใช้ t-Test แบบไม่อิสระ สถิติที่ใช้หาค่าความตรงของเครื่องมือใช้สูตร IOC ใช้แอลฟา หาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามและแบบทดสอบโดยใช้สูตรของครอนบาร์ค และใช้ r หาค่าความเชื่อมั่นตามสูตร KR-20 เพื่อหาค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบ

ผลการประเมิน โดยสรุปมี ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

1.1 ระดับความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

1.2 ระดับความเป็นไปได้ของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 3 ตัวชี้วัด ดังนี้

2.1 ระดับความเหมาะสมของบุคลากร พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

2.2 ระดับความเหมาะสมของงบประมาณ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

2.3 ระดับความเหมาะสมของกิจกรรม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

3.1 ร้อยละของกิจกรรมที่ดำเนินการ พบว่า กิจกรรมที่ดำเนินการ คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมากที่สุด

3.2 ร้อยละของการติดตามโครงการ พบว่า การติดตามโครงการ คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมากที่สุด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่ามีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 6 ตัวชี้วัด ดังนี้

4.1 โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยมีกระบวนการวิธีการและเครื่องมือที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถตรวจสอบได้ พบว่า หลังจากการดำเนินโครงการแล้ว โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยมีกระบวนการวิธีการและเครื่องมือที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถตรวจสอบได้ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.2 นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.3 การส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพในการร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพในการร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.4 ระดับความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของนักเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.5 ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

4.6 ระดับความพึงพอใจของผู้บริหาร ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ความพึงพอใจของผู้บริหาร ครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับมาก

ข้อเสนอแนะ

1. จากผลการประเมิน พบว่า ประเด็นการส่งเสริมครู ผู้ปกครอง ให้มีศักยภาพใน การร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบผ่านเกณฑ์การประเมินค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ปกครองต้องทำงาน ออกจากบ้านตอนเช้าและกลับเข้าบ้านในตอนเย็น ทำให้ไม่มีเวลาในการให้ความเอาใจใส่ หรือสานต่อจากโรงเรียนเท่าที่ควร จึงควรชี้แจงให้ผู้ปกครองได้เข้าใจ และให้ความเอาใจใส่บุตรหลานในปกครองให้มากยิ่งขึ้น จึงจะสามารถส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนดีมีความสุข มีความสามารถทางสติปัญญาเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมและดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

2. จากผลการประเมิน พบว่า ประเด็นปัจจัยนำเข้าของโครงการ ตัวชี้วัดระดับความเหมาะสมของบุคลากร ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดี จึงควรมีการชี้แจงสร้างความตระหนักให้ครูผู้รับผิดชอบให้สามารถจัดกิจกรรมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้อย่างเหมาะสมและหลากหลาย สร้าง ความตระหนัก และให้บุคลากรทุกคนเห็นความสำคัญของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้งหาแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย vorrachom : [19 ก.ย. 2565 เวลา 16:02 น.]
อ่าน [3346] ไอพี : 223.206.236.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,606 ครั้ง
อาหารที่ควรทาน และ หลีกเลี่ยงก่อน เข้าห้องสอบ !!
อาหารที่ควรทาน และ หลีกเลี่ยงก่อน เข้าห้องสอบ !!

เปิดอ่าน 8,892 ครั้ง
ทางออกในการบริหารคุณภาพการศึกษา : การบริหารผู้ประเมินภายนอกแนวใหม่
ทางออกในการบริหารคุณภาพการศึกษา : การบริหารผู้ประเมินภายนอกแนวใหม่

เปิดอ่าน 11,030 ครั้ง
รถอัจฉริยะ-ไร้คนขับ
รถอัจฉริยะ-ไร้คนขับ

เปิดอ่าน 10,336 ครั้ง
แก๊สโซฮอล์ปล่อยสารก่อมะเร็ง
แก๊สโซฮอล์ปล่อยสารก่อมะเร็ง

เปิดอ่าน 12,363 ครั้ง
การถ่ายภาพอาหารด้วยสมาร์ทโฟนช่วยลดน้ำหนักได้
การถ่ายภาพอาหารด้วยสมาร์ทโฟนช่วยลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 11,037 ครั้ง
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย

เปิดอ่าน 37,262 ครั้ง
ทำไมพระเรียกผู้หญิงว่า "สีกา"
ทำไมพระเรียกผู้หญิงว่า "สีกา"

เปิดอ่าน 3,214 ครั้ง
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี

เปิดอ่าน 19,253 ครั้ง
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย

เปิดอ่าน 1,811 ครั้ง
เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป
เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป

เปิดอ่าน 27,763 ครั้ง
งูพิษกัด
งูพิษกัด

เปิดอ่าน 10,972 ครั้ง
ขับรถอย่างฉลาด ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน
ขับรถอย่างฉลาด ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 8,915 ครั้ง
ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์
ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์

เปิดอ่าน 16,334 ครั้ง
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal

เปิดอ่าน 16,541 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า

เปิดอ่าน 29,000 ครั้ง
กฎ  ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)
เปิดอ่าน 42,951 ครั้ง
กฎหมายตราสามดวง
กฎหมายตราสามดวง
เปิดอ่าน 17,689 ครั้ง
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
เปิดอ่าน 34,105 ครั้ง
วิธีปลูก "ต้นหอม" ทานเอง
วิธีปลูก "ต้นหอม" ทานเอง
เปิดอ่าน 12,755 ครั้ง
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ