ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูลสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3
ผู้ศึกษา นายนพดล ฐานสินเพิ่ม
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3
ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2565
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อประเมินความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของการจัดทำโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล 2) เพื่อประเมินความพร้อมด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล 3) เพื่อประเมินความเหมาะสมด้านกระบวนการของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล และ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล การประเมินใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ของแดเนียล สตัฟเฟิลบีม (Daniel L. Stufflebeam) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล ปีการศึกษา 2565 จำนวน 180 คน ประกอบด้วย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 จำนวน 102 ครูและบุคลากรทางการศึกษา คน จำนวน 26 คน ผู้ปกครอง จำนวน 43 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสอบถาม จำนวน 4 ฉบับ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสอบถาม ทั้งก่อนดำเนินโครงการ ระหว่างดำเนินโครงการและหลังดำเนินโครงการ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินและข้อเสนอแนะสรุปได้ดังนี้
ผลการศึกษา
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของการจัดทำโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล
อยู่ในระดับ มากที่สุด ( =4.62 , S.D.=0.42)
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพร้อมด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล
อยู่ในระดับ มากที่สุด ( =4.57 , S.D.=0.57)
3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความเหมาะสมด้านกระบวนการของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล
อยู่ในระดับ มากที่สุด ( =4.54 , S.D.=0.65)
4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินผลผลิตของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจัตุรัสวิทยานุกูล
อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.59 , S.D.= 0.51)
5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านความพึงพอใจโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยภาพรวม
อยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( =4.59 , S.D.= 0.51)
เมื่อพิจารณาตามสภาพของกลุ่มเป้าหมาย พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( =4.56 , S.D.= 0.78)
ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ย ( =4.61 , S.D.= 0.73) ผู้ปกครองมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ย
( =4.58 , S.D.= 0.71) และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด ( =4.60 , S.D.= 0.57) แสดงว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน
ข้อเสนอแนะ
1. ด้านบริบทของโครงการ ควรชี้แจงทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครองถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรอง การส่งเสริมและพัฒนา การช่วยเหลือแก้ไข และการส่งต่อ ซึ่งเป็นการดูแลนักเรียนรอบด้าน รวมถึงด้านผลการเรียน ดังนั้น จึงสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนได้ และควรชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และควรกำกับติดตามการดำเนินงานตามโครงการโดยต่อเนื่อง
2. ด้านปัจจัยนำเข้า ควรเพิ่มจำนวนบุคลากรโดยรับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรภายนอก หรือพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ให้คำแนะนำช่วยเหลือ และติดตามผลในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และควรจัดงบประมาณสนับสนุนนแต่ละกิจกรรมให้เพียงพอเพื่อให้การดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ด้านกระบวนการ ควรปรับปรุงวิธีการและเครื่องมือในการเก็บข้อมูลให้สอดคล้องกับกิจกรรม สรุปผลและจัดทำสารสนเทศ และเพิ่มกิจกรรมให้สอดคล้องกับกระบวนการการดูแลช่วยเหลือนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. ด้านผลผลิต ควรกำหนดวัตถุประสงค์ค่าเป้าหมายและตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับกระบวนการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อการขับเคลื่อนโครงการอย่างถูกทิศทางและประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้
5. ควรหาข้อมูลหรือทำวิจัยเชิงสำรวจเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียนต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับมากที่สุด จึงควรจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะกับความต้องการและสภาพปัญหาของนักเรียนเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และครู ให้มากยิ่งขึ้นไป