|
|
ชื่อวิจัย : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การวัดการกระจายสัมบูรณ์ รายวิชาคณิตศาสตร์6 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6
ชื่อผู้วิจัย : นางปาณัฏฐ์ศิญา จารุจารย์
สถานที่ทำงาน : โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังจากใช้ชุดฝึกเสริมทักษะเรื่อง การวัดการกระจายสัมบูรณ์ ในรายวิชาคณิตศาสตร์6 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โดยเลือกแบบเจาะจงที่ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80% จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นชุดฝึกเสริมทักษะเรื่อง การวัดการกระจายสัมบูรณ์ รายวิชาคณิตศาสตร์6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6 แบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าร้อยละและค่าเฉลี่ยผลการวิจัยพบว่า การเปรียบเทียบของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การวัดการกระจายสัมบูรณ์ ในรายวิชาคณิตศาสตร์6 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6 ซึ่งผู้เรียนมีผลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
สรุปผลการวิจัย
จากผลการวิเคราะห์พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6 ระหว่างก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย (𝑥̅) = 2.74 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.96 และหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย (𝑥̅) = 7.10 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.87 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ดังนั้น การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6 หลังจากที่มีการใช้กิจกรรมชุดฝึกเสริมทักษะเรื่อง การวัดการกระจายสัมบูรณ์ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อภิปรายผล
การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะเรื่อง การวัดการกระจายสัมบูรณ์ สำหรับระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ระหว่างวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมชุดฝึกเสริมทักษะ ซึ่งสามารถอภิปรายผลการวิจัยได้ดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนหลังเรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะเรื่อง การวัดการกระจายสัมบูรณ์ จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์6 ระดับระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6 พบว่า ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของและสอดคล้องกับตะวัน ทองสรรค์ (2556 : บทคัดย่อ) ได้พัฒนาชุดฝึกทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนารีนุกูล ผลการศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.27/77.13 , ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้ปัญหา เรื่องวิธีเรียง สับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 , นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 จากคะแนนเต็ม 5 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ .37 และสอดคล้องกับนิตยา อินทรชุมนุม (2557:บทคัดย่อ) ได้ทำการศึกษาเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะโดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมายของการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา จำนวน 42 คน ผลการศึกษาพบว่า 1) แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 83.21/82.95 2) นักเรียนที่เรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
ข้อเสนอแนะ
1. ควรศึกษาความพึงพอใจในการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ เพื่อให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม
2. ผู้สอนสามารถนำแนวทางการสอนนี้ไปใช้กับผู้เรียนระดับชั้นอื่น โดยอาจจะกำหนดเนื้อหาสาระที่ต้องการตามเนื้อหาที่ใช้ในการเรียนการสอน
|
โพสต์โดย ญา : [18 ก.ย. 2565 เวลา 14:09 น.] อ่าน [2339] ไอพี : 110.78.136.32
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 104,683 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,866 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,437 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,982 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,067 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,587 ครั้ง
| เปิดอ่าน 103,150 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,169 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,617 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,485 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,428 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,919 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,136 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,735 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,675 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 7,821 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,086 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,399 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,082 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,469 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|