การดำเนินการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) โดยใช้กระบวนการวิจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพร่วมกันในระยะต่างๆ ของการวิจัย ทั้งการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการแปลความหมายข้อมูล โดยมีขอบเขตของการวิจัยทั้งหมดเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 : เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพทำการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ครู ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 11 คน เพื่อให้ทราบองค์ประกอบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา นำผลที่ศึกษาไปใช้ในระยะที่ 2 : เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา และนำรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษาประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบก่อนไปใช้จริง โดยการจัดสนทนากลุ่ม ซึ่งในระยะที่ 3 : เพื่อศึกษาผลของรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา ดำเนินการทดลองที่โรงเรียนบ้านบางม่วง หมู่ที่ 3 บ้านบางม่วง ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ทั้งนี้เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด เป็นโรงเรียนที่ผู้บริหาร และครูยินดีเข้าร่วมดำเนินการทดลอง และระยะที่ 4. เพื่อประเมินผลของรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา โดยเป็นการประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา โดยประเมินความพึงพอใจกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรรมการสถานศึกษา ครู นักเรียน และผู้ปกครอง
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. แนวทางการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 การเป็นผู้นำสถานศึกษา องค์ประกอบที่ 2 การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและแหล่งการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 3 การพัฒนาการจัดการเรียนการสอน องค์ประกอบที่ 4 การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก
2. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา พบว่า องค์ประกอบทุกองค์ประกอบมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลของรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา ดังนี้
3.1 ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างทักษะการสอนเชิงรุกของครูก่อนและหลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา พบว่าค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (p-value=.000)
3.2 ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างทักษะอาชีพของนักเรียนก่อนและหลังใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษาพบว่ามีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 (p-value=.000)
3.3 ผลการวิจัยเชิงคุณภาพนั้นแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของครูและนักเรียน ได้แก่โรงเรียนมีแนวทางการบริหารงานวิชาการที่ชัดเจน ทั้งขอบข่าย บทบาทและหน้าที่ของแต่ละบุคคล ครูสามารถจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก (Active Learning) ส่งเสริมให้ผู้เรียนประยุกต์ใช้ทักษะและเชื่อมโยงองค์ความรู้นำไปปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาหรือประกอบอาชีพในอนาคตได้
4. การประเมินผลของรูปแบบการบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพในสถานศึกษา
4.1 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้บริหารและกรรมการสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด
4.2 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของครู มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.82 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด
4.3 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด
4.4 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด
คำสำคัญ: การบริหารงานวิชาการ; การจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก; ทักษะอาชีพ