ชื่อเรื่องวิจัย การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม
เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง
ผู้วิจัย นายธนาสันต์ จำนงค์
ปีที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง 2) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง โดยออกแบบการวิจัยเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การศึกษาแนวทางการบริหารจัดการศึกษา ขั้นที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบ ขั้นที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ และขั้นที่ 4 การประเมินรูปแบบ ในขั้นการทดลองใช้รูปแบบ ผู้วิจัยดำเนินการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลใน ปีการศึกษา 2563 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 75 คน ประกอบด้วย ครูผู้สอน จำนวน 4 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ของโรงเรียนวัดมะปราง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท ปีการศึกษา 2563 จำนวน 71 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบประเมินรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง พบว่า ในภาพรวมมีการดำเนินการอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีการดำเนินการอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาบุคลากรของสถานศึกษา ด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน และด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ตามลำดับ จากการสัมภาษณ์แนวทางการบริหารจัดการศึกษา พบว่า สถานศึกษาควรมีการพัฒนาบุคลากรทั้งผู้บริหาร ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้มีความรู้ ความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้มีความพร้อมในการดำเนินการ ตามระบบการบริหารจัดการที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและสามารถจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมทั้งดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง ที่พัฒนาขึ้น มี 6 องค์ประกอบหลัก คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขอบข่ายการบริหาร 4) กระบวนการบริหาร ซึ่งมี 6 ขั้นใช้ชื่อว่า 2-SCA Model 5) แนวทางในการประเมิน และ 6) เงื่อนไขความสำเร็จ และผลการตรวจสอบคุณภาพ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ในระดับมาก
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง พบว่า
3.1 คุณภาพครูในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน อยู่ในระดับการปฏิบัติมากที่สุดโดยข้อที่มีระดับการปฏิบัติมากที่สุด คือ มีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ จัดหา/ผลิต/ใช้/เผยแพร่ สื่อการเรียนรู้ เพื่อบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดการเรียนการสอน
3.2 คุณภาพนักเรียนจากการประเมินคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณลักษณะการอยู่อย่างพอเพียง พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2563 สูงกว่าปีการศึกษา 2562 ที่ผลต่างร้อยละ 10.15 และนักเรียนมีระดับการปฏิบัติด้านคุณลักษณะการอยู่อย่างพอเพียงในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านการไม่เอาเปรียบผู้อื่นและไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ด้านการรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม ด้านการใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด ด้านการวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐานของข้อมูลข่าวสาร ด้านการใช้ทรัพย์สินของตนเองอย่างประหยัด และด้านการปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบมีเหตุผล ตามลำดับ
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะปราง พบว่า ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง มีความเห็นว่ารูปแบบมีความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้อง ครอบคลุมในระดับมากที่สุด และมีความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการศึกษาในระดับมากที่สุด