การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education เพื่อส่งเสริมทักษะด้านการจัดการเรียนรู้และนวัตกรรม โครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
สมศักดิ์ ไชยโสดา
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education ที่มีประสิทธิผลของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education ที่มีประสิทธิผล ของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 3) ตรวจสอบและยืนยันรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education ที่มีประสิทธิผล โครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education โดยการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญ ประเมินองค์ประกอบและตัวชี้วัดการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดSTEAM Education โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน19 คน ได้แก่ อาจารย์สถาบันอุดมศึกษาที่เป็นภาคีเครือข่ายในพื้นที่เป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงให้การสนับสนุนเป็นที่ปรึกษาร่วมพัฒนาหลักสูตร ที่ปรึกษาด้านวิชาการ โครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผู้บริหารและครูผู้สอนโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่มีประสบการณ์ มากกว่า 8 ปี ระยะที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education ที่มีประสิทธิผล ของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ศึกษาสภาพปัจจุบันและ สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education ของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา การวิจัยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการศึกษาขั้นตอนนี้ ได้แก่ ผู้บริหารและครูผู้สอน ที่จัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Educationโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ปีการศึกษา 2564 จำนวน 62 คน นำข้อมูล ที่ได้มาสร้างและพัฒนารูปแบบ ระยะที่ 3 การตรวจสอบและยืนยันรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ ตามแนวคิด STEAM Education ที่มีประสิทธิผลของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาโดยดำเนินการจัดการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลการวิจัย ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง แบบสอบถามชนิด มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) แบบประเมินรูปแบบการบริหาร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. องค์ประกอบหลักและองค์ประกอบย่อยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคิด STEAM Education ของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบหลัก 23 องค์ประกอบย่อย 77 ตัวชี้วัด ดังนี้
1) ด้านการวางแผนบริหารมี 4 องค์ประกอบย่อย 15 ตัวชี้วัด
2) ด้านการพัฒนาบุคลากร มี 3 องค์ประกอบย่อย 11 ตัวชี้วัด
3) ด้านการพัฒนาหลักสูตร มี 4 องค์ประกอบย่อย 13 ตัวชี้วัด
4) ด้านการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา มี 5 องค์ประกอบย่อย 17 ตัวชี้วัด
5) ด้านการนิเทศการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคิด STEAM Education มี 4 องค์ประกอบย่อย 12 ตัวชี้วัด
6) ด้านการสร้างเครือข่าย การเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education มี 3 องค์ประกอบย่อย 9 ตัวชี้วัด
2. รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคิด STEAM Education ที่มีประสิทธิผล ของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีองค์ประกอบของรูปแบบ ดังนี้
1) หลักการของรูปแบบ 2) จุดมุ่งหมายของรูปแบบ 3) เนื้อหา 4) กระบวนการดำเนินการตามรูปแบบบริหารแนวคิด STEAM Education เพื่อส่งเสริมทักษะด้านการจัดการเรียนรู้และนวัตกรรมฯ LIS Model 5) การติดตามและประเมินผล
3. ประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคิด STEAM Education ที่มีประสิทธิผล ของโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พบว่า มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( X-bar =4.52, S.D.=0.76) มีความเป็นไปได้โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.50, S.D.=0.67)
คำสำคัญ: การพัฒนารูปแบบ, การบริหาร, การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education