ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยแนวทางสะเต็มศึกษา(STEM Education) สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
ผู้รายงาน นายคมกฤช แผนเสือ
ตำแหน่ง ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
ปีที่รายงาน 2563
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยแนวทางสะเต็มศึกษา(STEM Education) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42 มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมิน สภาวะแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลผลิตของโครงการ โดยใช้การประเมินตามรูปแบบจำลองซิปป์ (CIPP Model) ประชากร ที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหาร และ ครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42 จำนวน 2,461 คน กลุ่มตัวอย่าง จำแนกเป็นผู้บริหาร 51 คน และ ครู จำนวน 294 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ และสุ่มอย่างง่ายตามสัดส่วนของจำนวนผู้บริหารและครูเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบประเมินโครงการ จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งผ่าน การตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และหาคุณภาพของเครื่องมือด้านความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการแปลความหมายตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ผลการประเมิน พบว่า
การประเมินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยแนวทางสะเต็มศึกษา(STEM Education) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42 สรุปผล การดำเนินงานได้ดังนี้
ด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการ (Context) มีความสอดคล้องอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดสามลำดับแรก คือ ข้อ 11 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการมีส่วนร่วมมีความสอดคล้องนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (x̄ = 4.48) รองมาคือ ข้อ 8 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เป็นประโยชน์ในการนำทรัพยากรทางการศึกษามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ( x̄= 4.42) และ ข้อ 5 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ มีส่วนช่วยส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ( x̄= 4.25)
ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ (Input) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณา เป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดสามลำดับแรก คือ ข้อ 5 ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีโอกาสการประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจและดำเนินงานตามโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเป็นระบบ ( x̄= 4.56) รองลงมา คือ ข้อ 7 ภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุนในการจัดการเรียนการสอน ด้วยแนวทางสะเต็มศึกษา(STEM Education) ( x̄= 4.50) และ ข้อ 9 มีงบประมาณในการจัดกิจกรรมโครงการจัดการเรียนรู้ด้วยแนวทางสะเต็มศึกษา(STEM Education) ( x̄= 4.35)
ด้านกระบวนการของโครงการ (Process) พบว่ามีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดสามลำดับแรก คือ ข้อ 5 มีการบูรณาการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางสะเต็มศึกษาในกลุ่มสาระต่างๆ ( x̄= 4.71) รองลงมา คือ ข้อ 8 ได้รับความร่วมมือจากครู และนักเรียน ในการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางสะเต็มศึกษา ( x̄= 4.43) และข้อ 9 โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางสะเต็มศึกษา ( x̄= 4.31)
ด้านผลผลิตของโครงการ (Product) พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อ
พิจารณา เป็นรายข้อ พบว่า ด้านที่มีระดับความพึงพอใจสูงสุดคือ ด้านคุณภาพผู้เรียน (x̄ = 4.41) รองลงมา คือ ด้านการจัด การเรียนการสอน ( x̄= 4.32) และด้านการบริหารจัดการ ( x̄= 4.28) ตามลำดับ