ชื่อผลงาน การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ อำเภอเวียงสระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร
ผู้ประเมิน นายณัฏฐชัย รักแก้ว รองผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนเวียงสระ
ปีการศึกษา 2564
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ อำเภอเวียงสระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานีชุมพร ครั้งนี้มี วัตถุประสงค์ดังนี้1) เพื่อประเมินความเหมาะสมด้านบริบทของความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของการจัดทำโครงการระบบดูแลช่วยเหลือ
นักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ 2)เพื่อประเมินความพร้อมด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model
โรงเรียนเวียงสระ 3)เพื่อประเมินความเหมาะสมด้านกระบวนการของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ 4)เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ 5)เพื่อประเมินด้านผลกระทบของโครงการเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อผลการจัดโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระโดยการประเมินใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model ของแดเนียล สตัฟเฟิลบีม (Daniel L. Stufflebeam) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 462 คน ครูประจำชั้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 22 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 462 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน รวมทั้งสิ้น 961 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสอบถาม จำนวน 4 ฉบับเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสอบถาม ทั้งก่อนดำเนินโครงการ ระหว่างดำเนินโครงการและหลังดำเนินโครงการ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินและข้อเสนอแนะสรุปได้ดังนี้
ผลการประเมิน
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของการจัดทำโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ อยู่ในระดับ มากที่สุด
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพร้อมด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ อยู่ในระดับ มากที่สุด
3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความเหมาะสมด้านกระบวนการของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ มากที่สุด
4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินผลผลิตของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วย i-CARE Model โรงเรียนเวียงสระ อยู่ในระดับ มากที่สุด
สรุปผล การประเมินโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ข้อเสนอแนะ
1. ด้านบริบทของโครงการ ควรชี้แจงทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครองถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรอง การส่งเสริมและพัฒนา การช่วยเหลือแก้ไข และการส่งต่อ ซึ่งเป็นการดูแลนักเรียนรอบด้าน รวมถึงด้านผลการเรียน ดังนั้น จึงสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนได้ และควรชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และควรกำกับติดตามการดำเนินงานตามโครงการโดยต่อเนื่อง
2. ด้านปัจจัยนำเข้า ควรเพิ่มจำนวนบุคลากรโดยขอความร่วมมือผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรภายนอก หรือพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ให้คำแนะนำช่วยเหลือ และติดตามผลใน การดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และควรจัดงบประมาณสนับสนุนนแต่ละกิจกรรมให้เพียงพอเพื่อให้การดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ด้านกระบวนการ ควรปรับปรุงวิธีการและเครื่องมือในการเก็บข้อมูลให้สอดคล้องกับกิจกรรม สรุปผลและจัดทำสารสนเทศ และเพิ่มกิจกรรมให้สอดคล้องกับกระบวนการการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
4. ด้านผลผลิต ควรกำหนดวัตถุประสงค์ค่าเป้าหมายและตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับกระบวนการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อการขับเคลื่อนโครงการอย่างถูกทิศทางและประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้
5. ควรหาข้อมูลหรือทำวิจัยเชิงสำรวจเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียนต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับมากที่สุด จึงควรจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะกับความต้องการและสภาพปัญหาของนักเรียนเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และครู ให้มากยิ่งขึ้น