ผู้ศึกษา นางปรียา นามเหลา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด โรงเรียนบ้านกลาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรีวงศึกษาธิการ
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกลาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกลาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 14 แผน แผนละ 1-2 ชั่วโมง รวม 20 ชั่วโมง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 6 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก (p) ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าอำนาจจำแนก (B) ระหว่าง 0.29 - 0.75 และมีค่าความเชื่อมั่น ( rcc) ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.79 ค่าความเชื่อมั่น (rα) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.76 แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pretest Posttest Design วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ก่อนและหลังการใช้รูปแบบ วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบสมมติฐาน โดยใช้สถิติทดสอบที (Dependent Samples) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05
ผลการศึกษาพบว่า
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.91/84.77 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7527 คิดเป็นร้อยละ 75.27 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 75.27
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเหมาะสมสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ ส่งผลทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และทำให้นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด