|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา โรงเรียนหนองบัวใน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3
ผู้วิจัย นางสาวจิตรลดา พลเยี่ยม
หน่วยงาน โรงเรียนหนองบัวใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา โรงเรียนหนองบัวใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ใน 5 ด้าน คือ ด้านอาคารสถานที่ ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ ปลอดภัย ด้านการให้บริการความปลอดภัย ด้าน การจัดสวัสดิศึกษา และด้านสุขภาพอนามัย โดยใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory action research : PAR) และใช้กระบวนการ PAOR ตามแนวคิดของ เคมมิส และแม็คแท็กการ์ท (Kemmis & Mc Taggart, 1988) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือ กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 15 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัย และครูผู้ร่วมวิจัย จำนวน 14 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 31 คน ประกอบด้วยตัวแทนคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 2 คน เครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 11 คน และตัวแทนนักเรียน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการประชุม แบบบันทึกการนิเทศและแบบสังเกต ใช้การตรวจสอบข้อมูลหลายมิติ ข้อมูลเชิงปริมาณนำเสนอ โดยใช้ตารางเปรียบเทียบ และนำเสนอผลการวิจัยแบบพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์ การประชุมกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม กิจกรรมต่อเนื่องที่ได้จากการใช้กลยุทธ์ในการพัฒนา คือ การประชุมเชิงปฏิบัติการ ทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาดีขึ้น แต่ครูบางส่วนยังไม่สามารถดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาได้สมบูรณ์ครบทั้ง 5 คือ 1) ด้านอาคารสถานที ทั้งนี้เพราะสถานศึกษาหลายแห่งได้ก่อตั้งมา เป็นเวลานับสิบปี ซึ่งมีความชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากการใช้งาน 2) ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ทั้งนี้ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด บริเวณอาคารต่าง ๆ ได้เปิดใช้มานานหลายปี ทำให้มีความชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากการใช้งาน 3) ด้านการให้บริการความปลอดภัย การติดไฟฟ้าให้สว่างยังไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอต่อการใช้งาน 4) ด้านการจัดสวัสดิศึกษา มีการปฏิบัติน้อยที่สุดจากทั้งหมด 5 ด้าน เนื่องจากการจัดสวัสดิศึกษาเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากภัย อันตรายต่าง ๆ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการถ่ายทอดความรู้ ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องที่นักเรียนไม่เคยประสบเหตุ จึงทำให้เกิดความประมาท และ 5) ด้านสุขภาพอนามัย มีปัญหาด้านสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงของนักเรียน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจาก 3 ส่วน คือ จากครูประจำชั้น/ครูที่ปรึกษา จากผู้ปกครองนักเรียนและจากนักเรียน เพื่อให้การพัฒนาได้ผลตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา
2. การพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์ การนิเทศแบบมีส่วนร่วม โดยครูทุกคนได้เสนอผลการดำเนินงานตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และการกำกับติดตามให้มากขึ้น ทำให้ครูที่ปรึกษาทุกคนสามารถดำเนินงานตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ได้ครบกระบวนการทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านอาคารสถานที่ มีการปรับปรุงซ่อมแซม อาคารสถานที่ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ปรับปรุงซ่อมแซมประตู หน้าต่าง และพัดลมของห้องเรียน ให้มีสภาพการใช้งานได้ดี สำหรับใช้ปิด - เปิดให้อากาศถ่ายเทสะดวก 2) ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด บริเวณอาคารต่าง ๆ รอบโรงเรียนให้มีความสะอาดปลอดภัย มีบรรยากาศที่ดี เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนจะช่วยให้ผู้เรียนมุ่งมั่นในการเรียนรู้ และสร้างศักยภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น 3) ด้านการให้บริการความปลอดภัย มีการจัดบริการ เอื้ออำนวยความสะดวกในการส่งเสริมความรู้ การให้ประสบการณ์นอกเหนือจากการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมในการเรียน รู้สึกปลอดภัย และเกิดความพึงพอใจจากสิ่งอำนวยความสะดวก การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เหมาะสมให้นักเรียนได้มีศักยภาพที่สูงมากขึ้น เช่น มีการจัดโต๊ะเรียน เก้าอี้นั่งเรียน ที่นั่งในโรงอาหาร ที่นั่งพัก โดยจัดเว้นระยะห่าง ระหว่างกัน อย่างน้อย 1-2 เมตร มีการทำสัญลักษณ์แสดงจุดตำแหน่งชัดเจนในการจัดเว้นระยะห่างระหว่างกัน ติดไฟฟ้าให้สว่างทั่วถึงและเพียงพอ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) รวมถึง สื่อและเทคโนโลยีก็มีผลต่อความมั่นคงปลอดภัย 4) ด้านการจัดสวัสดิศึกษา มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ฝึกให้นักเรียนเกิดความระมัดระวังตนได้ดี โดยเริ่ม จากการฝึกปฏิบัติจริง การให้ความรู้เรื่องใกล้ตัว เช่นเครื่องหมายและกฎจราจรหรือการให้สวัสดิศึกษา เกี่ยวกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย การหลีกเลี่ยงจากแหล่งมั่วสุม อบายมุข และ 5) ด้านสุขภาพอนามัย มีการตรวจสุขภาพประจำปี มีการเฝ้าระวังภาวะสุขภาพและการบริการรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่นักเรียน การเสริมสร้างสุขนิสัยที่ดีแก่นักเรียน การบริการอาหารกลางวันที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ส่งเสริมการออกกำลังกาย การเล่นกีฬาและนันทนาการในโรงเรียน การประกันอุบัติเหตุของบุคลากรและผู้เรียน และห้องพยาบาลมียาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ปฐมพยาบาล ที่เพียงพอ มีการประเมินพัฒนาการและสุขภาพอนามัยของผู้เรียน
โดยสรุป การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาโดยใช้กลยุทธ์ กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม ทำให้ครูมีการพัฒนาดีขึ้นจึงควรสนับสนุนส่งเสริมกลยุทธ์ดังกล่าว ไปใช้ตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาต่อไป
|
โพสต์โดย สมาย : [11 ก.ย. 2565 เวลา 09:28 น.] อ่าน [3273] ไอพี : 110.49.114.154
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 23,187 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,897 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,805 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,057 ครั้ง
| เปิดอ่าน 78,717 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,261 ครั้ง
| เปิดอ่าน 47,361 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,138 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,839 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,802 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,226 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,193 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,826 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,046 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,504 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 23,236 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,016 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,864 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,688 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,525 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|