การวิจัยเรื่องนี้มีจุดประสงค์เพื่อ1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (6PS Model) 2) เปรียบเทียบสมรรถภาพทางกายของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (6PS Model)
3) เปรียบเทียบความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (6PS Model) 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (6PS Model) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (สังขวิทย์) ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนทั้งหมด 26 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มด้วยการจับสลาก จำนวน 1 ห้องเรียนจากห้องเรียนทั้งหมด 3 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย แบบประเมินความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา พบว่า
1. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการเรียนรู้โดยใช้รู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (6PS Model) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผลการเรียนรู้หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
( = 16, S.D. = 1.16) สูงกว่าก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ( = 11,19 S.D. = 1.35)
2. ผลการเปรียบเทียบระดับสมรรถภาพทางกายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลท์ (6 PS Model)เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีสมรรถภาพทางกายสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .05
3.ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (6PS Model) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า ระดับความสามารถในการคิดสร้างสรรค์หลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ( = 9.61 , S.D. = 0.63 ) สูงกว่าก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ( = 4.3, S.D. = 0.76) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (6PS Model) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด( = 4.76, S.D. = 0.42)