การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย (1) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active Leaming ของบุคลากรครูโรงเรียนบ้านห้วยโนนเจริญ อำเภอศีชรภูมิ สำนักงานเชตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ก่อนการฝึกอบรมกับหลังฝึกอบรม (2) เพื่อพัฒนาบุคลากรโรงเรียน
บ้านห้วยโนนเจริญ อำเภอศีชรภูมิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ให้มีความรู้ความ
เข้าใจในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning/ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของบุคลากรครูโรงเรียน
บ้านห้วยโนนเจริญ อำเภอศีชรภูมิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 โดยใช้การวิจัย
ปฏิบัติการ (Action Research) ซึ่งผู้วิจัยได้นำเอาหลักการและขั้นตอนตามแนวคิดของ Kermmis และ
McTaggart มาใช้ในการดำเนินการวิจัย โดยมีการดำเนินงาน 2 วงรอบ (Spiral) ซึ่งประกอบด้วย ขั้นการ
วางแผน (Planning) ชั้นการปฏิบัติ (Action) ขั้นการสังเกต (Observation) และชั้นการสะท้อนผล
(Reflection) โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการ การนิเทศ และการนิเทศแบบกัลยาณมิตร กลุ่มผู้ร่วม
วิจัย มีจำนวน 4 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัย และผู้ร่วมวิจัย มีความยินดีสมัครใจร่วมจำนวน 3 คน เครื่องมือ
ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบประเมิน และ
แบบสอบถามความพึงพอใจ การตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulatiom
Tech nique) และนำเสนอผลการวิจัยโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนาบุคลากรในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โรงเรียนบ้าน
ห้วยโนนเจริญ อำเภอศีชรภูมิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ในวงรอบที่ 1 โดยใช้
กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการและการนิเทศ ทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจและสามารถเขียนแผนการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning ได้อย่างดี ส่วนการนำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไปจัด
กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ปรากฎว่าครูยังมีจุดบกพร่องที่จะต้องได้รับการพัฒนา ใน
ขั้นตอนการนำเสนอผลงาน และขั้นตอนการสานองค์ความรู้ (Summarize : S) จึงมีการพัฒนาในวงรอบที่
2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศแบบกัลยาณมิตร ทำให้ครูทั้งหมดมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถเขียนแผนการ
จัดการเรียนรู้ และนำแผนการจัดการเรียนรู้ ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และบุคลากรครูโรงเรียนบ้านห้วยโนนเจริญ อำเภอศีชรภูมิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถศึกษาสุรินทร์ เขต 1 มีความพึงพอใจต่อการพัฒนาด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด
โดยสรุป การพัฒนาบุคลากรในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โรงเรียนบ้านห้วยโนน
เจริญ อำเภอศีชรภูมิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิง
ปฏิบัติการ การนิเทศ และการนิเทศแบบกัลยาณมิตร ทำให้ครูได้รับความรู้ความเข้าใจ เกิดทักษะ สามารถ
เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ได้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active
Learning) ได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ จึงควรให้นำกลยุทธ์ดังกล่าว ไปใช้ในการพัฒนาครู ใน
สถานศึกษาอื่นต่อไป