ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์

เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้รายงาน กฤติยา มานะเปรมชัย

ปีที่ศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ 2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการเรียนรู้ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ และ 4) เพื่อประเมินผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนเทศบาล 7 (ศิรินาวินวิทยา) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลนครลำปาง จำนวน 32 คน ใช้เวลาในการทดลอง 14 ชั่วโมง โดยประยุกต์ใช้กระบวนการเรียนการสอนและสืบสอบแสวงหาความรู้เป็นกลุ่ม 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ 2) ขั้นพากเพียรเพื่อเรียนรู้ 3) ขั้นมุ่งสู่การตัดสินใจ 4) ขั้นบอกไปให้ได้รู้ และ 5 ) ขั้นเผยแพร่ให้ได้ใช้จริง ประเมินผลรูปแบบโดยการสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสถิติด่วยค่าที

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการสำรวจสภาพปัจจุบันของความรอบรู้ด้านสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

พบว่า ส่วนใหญ่มีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพด้านทักษะความรู้ความเข้าใจทางสุขภาพ ทักษะการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ ทักษะการจัดการตนเอง ทักษะการรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ ทักษะการตัดสินใจและเลือกปฏิบัติที่ถูกต้อง อยู่ในระดับไม่ดีพอ ยกเว้นทักษะการสื่อสารสุขภาพ อยู่ในระดับพอใช้

2. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า รูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าดัชนีประสิทธิผลของเท่ากับ 0.5227 หรือคิดเป็นร้อยละ 52.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นตํ่าที่กำหนด คือ ร้อยละ 50 หรือ ค่าดัชนีประสิทธิผลมากกว่า 0.50 ขึ้นไป ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนรู้นั้นเป็นการจัดกิจกรรมโดยประยุกต์ใช้กระบวนการเรียนการสอนและสืบสอบแสวงหาความรู้เป็นกลุ่ม 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ 2) ขั้นพากเพียรเพื่อเรียนรู้ 3) ขั้นมุ่งสู่การตัดสินใจ 4) ขั้นบอกไปให้ได้รู้ และ 5 ) ขั้นเผยแพร่ให้ได้ใช้จริง ประเมินผลรูปแบบโดยการสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เมื่อเปรียบเทียบระดับพฤติกรรมความรอบรู้ด้านสุขภาพระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ในภาพรวม พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีระดับพฤติกรรมความรอบรู้ด้านสุขภาพหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินผลรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง ระบบร่างกายของมนุษย์ เพี่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53, = 0.65)

โพสต์โดย กฤติยา มานะเปรมชัย : [31 ส.ค. 2565 เวลา 15:20 น.]
อ่าน [3385] ไอพี : 124.122.36.45
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,694 ครั้ง
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567

เปิดอ่าน 41,394 ครั้ง
ไขคำตอบ "โรงเรียน ครู อยู่อย่างไรในยุค4.0?"
ไขคำตอบ "โรงเรียน ครู อยู่อย่างไรในยุค4.0?"

เปิดอ่าน 22,338 ครั้ง
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!

เปิดอ่าน 38,944 ครั้ง
Verbs: Active/Passive Voices
Verbs: Active/Passive Voices

เปิดอ่าน 10,155 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 2 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 2 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม

เปิดอ่าน 9,828 ครั้ง
ฟังกันหรือยัง? เพลง "ครูเงินกู้" เพลงสะท้อนส่วนหนึ่งของชีวิตครู
ฟังกันหรือยัง? เพลง "ครูเงินกู้" เพลงสะท้อนส่วนหนึ่งของชีวิตครู

เปิดอ่าน 62,623 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น

เปิดอ่าน 15,014 ครั้ง
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม

เปิดอ่าน 71,556 ครั้ง
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย

เปิดอ่าน 19,562 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

เปิดอ่าน 31,509 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 96,855 ครั้ง
99 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
99 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 12,860 ครั้ง
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!

เปิดอ่าน 17,398 ครั้ง
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?

เปิดอ่าน 16,175 ครั้ง
มากกว่านี้มีอีกไหม! พบคู่แฝด 29 คู่เรียนในโรงเรียนเดียวกันที่อุดรธานี
มากกว่านี้มีอีกไหม! พบคู่แฝด 29 คู่เรียนในโรงเรียนเดียวกันที่อุดรธานี

เปิดอ่าน 20,014 ครั้ง
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน
เปิดอ่าน 27,235 ครั้ง
"ฟักทอง"ป้องเบาหวาน-บำรุงหัวใจ
"ฟักทอง"ป้องเบาหวาน-บำรุงหัวใจ
เปิดอ่าน 16,600 ครั้ง
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)
เปิดอ่าน 134,200 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 1 สนามแข่งขัน (The Pitch)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 1 สนามแข่งขัน (The Pitch)
เปิดอ่าน 19,195 ครั้ง
รูปแบบการสอนวิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
รูปแบบการสอนวิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ