ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาผลการเรียนรู้และความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้

การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) เพื่อศึกษาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์”

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน

4 ห้องเรียน มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 70 คน กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนทั้งสิ้น

21 คน โดยการสุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ใน

การวิจัยครั้งนี้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 8 แผน

2) แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก จำนวน 1 ฉบับ (Pretest – Posttest) เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการการจัดกิจกรรมการเรียนรูู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบชุดกิจกรรม จำนวน 15 ข้อ

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรูู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้นมี สามารถนำไปทดลองใช้ได้ และผลการหาประสิทธิภาพ (E1/E2) โดยการทดลองภาคสนาม (Field Tryout) ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยภาพรวมเท่ากับ 87.44 / 87.08 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยข้อที่ 1

2. ผลการเรียนรู้ เรื่องกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยหลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (x̄ = 35.38, S.D. = 0.74) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนผลการเรียนรู้เรื่อง กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกของนักเรียนก่อนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ความรู้ ( x̄=17.76,S.D.=0.77) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่

ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 2

3. นักเรียนมีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ ในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ระดับดี ( x̄=8.87, S.D. = 0.61) เมื่อพิจารณาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์เป็นรายด้าน อยู่ในเกณฑ์ระดับดีทุกด้าน เรียงลำดับจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุดดังนี้ นักเรียนมีความสามารถด้าน

การวิเคราะห์การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ( x̄ =8.95, S.D. = 0.59) รองลงมาคือการวิเคราะห์เชิงหลักการ ( x̄=8.90, S.D. = 0.62) ลำดับที่สามคือ ด้านการวิเคราะห์ความสำคัญหรือเนื้อหา ( x̄=8.76, S.D. = 0.62) ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 3

4. ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด (x̄ = 4.64 S.D. = 0.47) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า นักเรียนมีความเห็นด้วยมากที่สุด 3 ด้านเรียงตามลำดับดังนี้ นักเรียนส่วนใหญ่เห็นด้วยมากที่สุด ด้านประโยชน์ที่ได้รับ (x̄ = 4.79 S.D. =0.41) รองลงมา ด้านบรรยากาศในการจัดการเรียนรู้ (x̄ =4.75 S.D.= 0.44) รองลงมา ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ( x̄=4.59, S.D. =0.49) และนักเรียนมีความเห็นด้วยมาก 1 ข้อ คือ ด้านเนื้อหา (x̄ =4.43, S.D. = 0.50) ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 4

โพสต์โดย ปัท : [31 ส.ค. 2565 เวลา 11:56 น.]
อ่าน [64834] ไอพี : 1.179.143.138
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,888 ครั้ง
ขนมปังป้องกันผู้ชายเป็นหมันได้
ขนมปังป้องกันผู้ชายเป็นหมันได้

เปิดอ่าน 17,241 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2552

เปิดอ่าน 18,003 ครั้ง
สมุนไพรพิชิตหน้าหนาว
สมุนไพรพิชิตหน้าหนาว

เปิดอ่าน 18,720 ครั้ง
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า

เปิดอ่าน 10,605 ครั้ง
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ

เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา

เปิดอ่าน 20,527 ครั้ง
เกมส์วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN
เกมส์วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN

เปิดอ่าน 17,920 ครั้ง
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ

เปิดอ่าน 819 ครั้ง
5 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ Macbook ในราคานักเรียน
5 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ Macbook ในราคานักเรียน

เปิดอ่าน 23,405 ครั้ง
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า

เปิดอ่าน 63,973 ครั้ง
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย

เปิดอ่าน 16,130 ครั้ง
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม

เปิดอ่าน 37,396 ครั้ง
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก

เปิดอ่าน 22,267 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม

เปิดอ่าน 3,468 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 607 ครั้ง
4 โครงการทาวน์โฮมพร้อมอยู่ในทำเลดัง มีหลายช่วงราคาให้เลือก
4 โครงการทาวน์โฮมพร้อมอยู่ในทำเลดัง มีหลายช่วงราคาให้เลือก
เปิดอ่าน 1,381 ครั้ง
แคลเซียมโบรอน มีประโยชน์ต่อพืชและผลผลิตอย่างไร ?
แคลเซียมโบรอน มีประโยชน์ต่อพืชและผลผลิตอย่างไร ?
เปิดอ่าน 13,326 ครั้ง
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"
เปิดอ่าน 17,357 ครั้ง
เทควันโด : อวัยวะของร่างกายที่ใช้เป็นอาวุธ
เทควันโด : อวัยวะของร่างกายที่ใช้เป็นอาวุธ
เปิดอ่าน 61,984 ครั้ง
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ