|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนสายธารวิทยา
ผู้วิจัย นายสมยศ นุชใหม่
ปีที่ทำวิจัย 2563-2564
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนสายธารวิทยา 2) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนสายธารวิทยา ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน และสามารถทำวิจัยในชั้นเรียนได้ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูโรงเรียนสายธารวิทยา ที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โดยใช้กระบวนการวิจัยปฏิบัติการดำเนินการ 2 วงรอบ แต่ละวงรอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการวางแผน (Planning) ขั้นตอนการปฏิบัติ (Action) ขั้นตอนการสังเกต (Observation) และขั้นตอนการสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มผู้ร่วมวิจัยมีจำนวน 13 คน เป็นครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 13 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัย ศึกษานิเทศก์และวิทยากรร่วม จำนวน 2 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบบันทึกการประชุมการสนทนากลุ่ม แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบบันทึกการประชุม แบบบันทึกการนิเทศ แบบประเมินเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน แบบประเมินผลงานการวิจัยในชั้นเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจ ข้อมูล เชิงคุณภาพใช้ตรวจสอบคุณภาพและความถูกต้องของข้อมูลโดยใช้เทคนิค การตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation Technique) นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มจัดกลุ่มให้เป็นหมวดหมู่ตามกรอบการวิจัยประมวลผลและสรุปผลการวิจัย ผู้วิจัยนำเสนอผลการวิจัยในรูปแบบขอการบรรยาย (Narrative From) ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ โดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินการรูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนสายธารวิทยา ในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ครูผู้ร่วมวิจัย จำนวน 13 คนมีความรู้ ความเข้าใจและเกิดทักษะในการทำวิจัยในชั้นเรียน และนำไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนตามเนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย 5 ขั้นตอน มีคะแนนจากการทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง
การวิจัยในชั้นเรียน มีคะแนนเฉลี่ย 26.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.67 จากคะแนนเต็ม มีผลงานการวิจัย ในชั้นเรียนเป็นของตนเองคนละ 1 เรื่อง สามารถเขียน เค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับ ดีมาก (X-bar = 4.54) มีผลการประเมินผลงานการวิจัยในชั้นเรียน โดยรวมอยู่ในระดับดี (X-bar = 3.55) เมื่อพิจารณาเป็นรายบุคคลพบว่าอยู่ในระดับ ดี จำนวน 9 คน ปานกลาง จำนวน 4 คน จึงดำเนินการต่อในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นลง พบว่า กลุ่มผู้ร่วมวิจัยจำนวน 4 คน มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะสามารถปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียนสูงขึ้นและเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน ได้สำเร็จบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างดีและมีผลงานการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวม อยู่ในระดับดีมาก (X-bar = 4.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายบุคลพบว่า มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นจากวงรอบที่ 1 ทุกคนโดยมีผลงานการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับ ดีมาก จำนวน 9 คน และอยู่ในระดับ ดี จำนวน 4 คน
โดยสรุปรูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนสายธารวิทยา โดยใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาคือการประชุมเชิงปฏิบัติการ การนิเทศภายในและการนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเป็นกลยุทธ์ที่มีความเหมาะสม สามารถพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถเขียนเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียนและสามารถเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการทุกคนดังนั้นจึงควรส่งเสริม สนับสนุนให้นำกลยุทธ์ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาครูในสถานศึกษาอื่น ๆ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียนต่อไป
|
โพสต์โดย สมยศ : [30 ส.ค. 2565 เวลา 10:07 น.] อ่าน [3885] ไอพี : 183.89.87.172
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 38,465 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,798 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 73,641 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,547 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,861 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,405 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 43,737 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,013 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 33,938 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,362 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,999 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,072 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 40,028 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,744 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,666 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 31,440 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,197 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,318 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,700 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,769 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|