ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
นวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะของครูโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมแบบ AIC โรงเรียนวัดตโปทาราม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสมรรถนะที่จำเป็นต้องพัฒนาของครูโรงเรียนวัดตโปทาราม และ 2) สร้างและประเมินผลนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะของครูโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมแบบ AIC โรงเรียนวัดตโปทาราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 แหล่งข้อมูลใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 9 คน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสถานศึกษาที่นำนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม ไปใช้ในสภาพจริง จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การสังเกต วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะที่จำเป็นต้องพัฒนาของครู โรงเรียนวัดตโปทาราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 ประกอบด้วย สมรรถนะการพัฒนาตนเอง สมรรถนะการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ และสมรรถนะการวิเคราะห์สังเคราะห์และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน 2) ผลการสร้างนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครู โรงเรียนวัดตโปทาราม โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมแบบ AIC พบว่า มีกระบวนการ 5 ขั้นตอน คือ (1) ประเมินความต้องการจำเป็น (2) วัตถุประสงค์การพัฒนา (3) วิธีการพัฒนา (4) แนวทางการดำเนินการพัฒนา และ (5) ประเมินผลการพัฒนา ผลการทดลองใช้นวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครู โรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่า นำไปใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานครูมีผลการประเมินประสิทธิผล ทั้ง 3 สมรรถนะอยู่ในระดับมาก และผลการประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทารามภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด

ผลการวิจัย

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่า สมรรถนะที่จำเป็นต้องพัฒนาของครู โรงเรียนวัดตโปทาราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 ประกอบด้วย สมรรถนะการพัฒนาตนเอง สมรรถนะการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ และสมรรถนะการวิเคราะห์สังเคราะห์และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน

2. ผลการสร้างนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครู โรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่า มีกระบวนการ 5 ขั้นตอน คือ 1) ประเมินความต้องการจำเป็น 2) วัตถุประสงค์การพัฒนา 3) วิธีการพัฒนา 4) แนวทางการดำเนินการพัฒนา และ 5) ประเมินผลการพัฒนา

3. ผลการทดลองใช้ นวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่า ประสิทธิผลทั้ง 3 สมรรถนะอยู่ในระดับมาก

4. ผลการประเมินผลการใช้นวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่า ความเหมาะสมของนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครู โรงเรียนวัดตโปทาราม ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅= 4.68, S.D. = 0.59)

อภิปรายผลการวิจัย

จากผลการดำเนินการวิจัยตามขั้นตอน 4 ขั้นตอน ผู้วิจัยได้อภิปรายผลตามลําดับ ดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทารามพบว่า ครูโรงเรียนวัดตโปทาราม มีความต้องการในการพัฒนาสมรรถนะสมรรถนะการพัฒนาตนเอง สมรรถนะการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้และสมรรถนะการวิเคราะห์สังเคราะห์และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนสอดคล้องกับ ผลการศึกษาของ นพดลย์ เพชระ(Petchara, Nopadon. 2009) ที่ศึกษาพบว่า สมรรถนะที่จำเป็นต้องพัฒนาของครูโรงเรียนวัดโคกทราง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 ประกอบด้วย สมรรถนะการพัฒนาตนเอง สมรรถนะการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ และสมรรถนะการวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน

2. ผลการสร้างนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่ามีกระบวนการ 5 ขั้นตอน คือ 1) ประเมินความต้องการจำเป็น 2) วัตถุประสงค์การพัฒนา 3) วิธีการพัฒนา 4) แนวทางการดำเนินการพัฒนา และ 5) ประเมินผลการพัฒนาซึ่งสอดคล้องกับซึ่งสอดคล้องกับ กมลรัตน์ แก่นจันทร์ (Kaenchan, Kamonlrat. 2017 : 17) ได้ทำการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 3 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กลไกของรูปแบบ 4) วิธีดำเนินงานของรูปแบบ 5) แนวการประเมินรูปแบบ และ6) เงื่อนไขความสำเร็จของรูปแบบ

3. ผลการทดลองใช้นวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่า นำไปใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดีเพราะมีกระบวนการปฏิบัติงานอย่างมีขั้นตอน ชัดเจน และง่ายต่อการปฏิบัติ ทำให้เกิดประสิทธิผลของงานได้จริง จึงได้นวัตกรรมที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาสมรรถนะครูซึ่งมีผลการรับรองประสิทธิภาพของนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประสิทธิผลดังผลการเปรียบเทียบการศึกษาบริบทก่อนและหลังการนำนวัตกรรมไปใช้ และผลการประเมินด้านประสิทธิผลซึ่งเปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังการนำนวัตกรรมไปใช้โดยมีผลการประเมินบริบทหลังจากนำนวัตกรรมไปใช้แล้วมีการพัฒนาขึ้นทุกด้าน และผลการประเมินประสิทธิผลทั้ง 3 สมรรถนะอยู่ระดับมากสอดคล้องกับผลการวิจัยของ ธริศร เทียบปาน (Tharisorn Tiebpan. 2019 : 118) ได้พัฒนารูปแบบบริหารงานวิชาการเพื่อยกระดับคุณภาพนักเรียนโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนาในเขตจังหวัดภาคใต้ ผลการวิจัยพบว่า ผลการนำรูปแบบไปทดลองใช้ โดยการนำคู่มือรูปแบบการบริหารงานวิชาการไปทดลองใช้กับโรงเรียนแจ้งวิทยา ได้ผลการประเมินคุณภาพการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการมีตัวบ่งชี้รายการประเมินทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับคุณภาพดีและดีมาก

4. ผลการประเมินผลการใช้นวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม พบว่า ความเหมาะสมของนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทาราม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ปริชาติ ชมชื่น (Chomchuen, Parichat. 2012 : 287-288) พบว่า รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนที่มีประสิทธิผลในสถานศึกษามีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้

1.1 หน่วยงานต้นสังกัดควรส่งเสริมการนำนวัตกรรมไปใช้ในสถานศึกษาโดยเน้นการขับเคลื่อนการพัฒนาตามกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ (PAOR) และดำเนินการตามกรอบวงจรคุณภาพ PDCA ซึ่งใช้กระบวนการประชุมแบบ AIC มาร่วมในการบริหารงานวิชาการ จะทำให้เกิดผลของการนำนวัตกรรมไปใช้ได้เหมาะสม เป็นประโยชน์และเกิดประสิทธิผลของงานได้จริง

1.2 สถานศึกษาและผู้ที่มีส่วนร่วมที่จะนำนวัตกรรมไปใช้ให้เกิดประสิทธิผล

ควรต้องศึกษาเกี่ยวกับวิจัยปฏิบัติการ วงจรคุณภาพ PDCA อย่างชัดเจนเพื่อการนำมาบูรณาการการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสมรรถนะครูและเป็นแบบอย่างให้กับสถานศึกษาข้างเคียงได้ต่อไป

1.3 นำนวัตกรรมไปใช้ในสถานศึกษาอื่น เพื่อสร้างแนวการพัฒนาสมรรถนะครูที่เป็นระบบสามารถปฏิบัติได้จริงและเกิดประสิทธิผลในด้านการพัฒนาสมรรถนะครูในสถานศึกษา

2. ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษาประสิทธิผลที่นำนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครู ไปใช้ในสถานศึกษา

ทุกระดับ

2.2 ควรศึกษาความพึงพอใจในการนำนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียน

วัดตโปทาราม ไปใช้ในสถานศึกษาทุกระดับ

2.3 ควรศึกษานวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนวัดตโปทารามสามารถ

ประยุกต์ใช้ให้เกิดนวัตกรรมใหม่ที่สร้างประสิทธิผลเพิ่มขึ้นในสถานศึกษาทุกระดับ

โพสต์โดย Thammasuk : [27 ส.ค. 2565 เวลา 21:32 น.]
อ่าน [1905] ไอพี : 1.46.19.39
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,338 ครั้ง
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?

เปิดอ่าน 19,420 ครั้ง
ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....
ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....

เปิดอ่าน 122,096 ครั้ง
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!

เปิดอ่าน 13,924 ครั้ง
ชีวิตหลังเกษียณ (1)
ชีวิตหลังเกษียณ (1)

เปิดอ่าน 1,588 ครั้ง
"ขุนหลวงท้ายสระ" พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา
"ขุนหลวงท้ายสระ" พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา

เปิดอ่าน 9,808 ครั้ง
ลดการสอบเพื่ออะไร ?
ลดการสอบเพื่ออะไร ?

เปิดอ่าน 21,502 ครั้ง
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!

เปิดอ่าน 87,387 ครั้ง
โคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติ

เปิดอ่าน 3,042 ครั้ง
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"

เปิดอ่าน 14,400 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558

เปิดอ่าน 57,374 ครั้ง
เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ

เปิดอ่าน 10,663 ครั้ง
ดูเป็นแสน!นร.อ่านอังกฤษฮา ครูหล่อเผยไม่ดุนร.เก่งขึ้น
ดูเป็นแสน!นร.อ่านอังกฤษฮา ครูหล่อเผยไม่ดุนร.เก่งขึ้น

เปิดอ่าน 2,908 ครั้ง
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT

เปิดอ่าน 393,258 ครั้ง
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก

เปิดอ่าน 16,827 ครั้ง
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก

เปิดอ่าน 23,926 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
เปิดอ่าน 24,039 ครั้ง
แบบธรรมเนียม ประเพณีไทย
แบบธรรมเนียม ประเพณีไทย
เปิดอ่าน 14,887 ครั้ง
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
เปิดอ่าน 85,097 ครั้ง
Adjectives ( articles -a/an )
Adjectives ( articles -a/an )
เปิดอ่าน 55,089 ครั้ง
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ