ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์"

ชื่อวิจัย : รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์

ผู้วิจัย : กาญจนา ฮวดศรี

ปีที่วิจัย : 2564

คำสำคัญ : รูปแบบการบริหาร,ความสามารถของครู,การจัดทำวิจัยในชั้นเรียน

บทคัดย่อ

รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์ คือ 1)เพื่อศึกษาองค์ประกอบรูปแบบ ความต้องการและแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ 2)เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารฯ 3)เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารฯ 4)เพื่อประเมินความไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบการบริหารฯในการนำรูปแบบฯ โดยในขั้นตอนที่ 1 การศึกษาองค์ประกอบของรูปแบบ ความต้องการและแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ โดยดำเนินการปีการศึกษา 2563 ดังนี้ 1)การศึกษาองค์ประกอบของรูปแบบฯ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือ คือ แบบสังเคราะห์เอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา 2) การศึกษาความต้องการและแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ครู จำนวน 11 คน เครื่องมือ คือ แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา 3)การศึกษาแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เครื่องมือ คือ ประเด็นการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ โดยดำเนินการปีการศึกษา 2563 เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการจัดประชุมผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 12 คน เครื่องมือ คือ ประเด็นการตรวจสอบความเหมาะสมของร่างรูปแบบการบริหารฯ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา และค่าร้อยละ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ โดยดำเนินการปีการศึกษา 2564 กลุ่มผู้ให้ข้อมูลคือ ครู จำนวน 37 คน เครื่องมือ คือ แบบทดสอบวัดความรู้ แบบประเมินทักษะการปฏิบัติของครู แบบวัดเจตคติของครู วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 4 การประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ในการนำรูปแบบการบริหารฯไปใช้ในศูนย์การศึกษาพิเศษอื่น ในปีการศึกษา โดยดำเนินการปีการศึกษา 2564 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ จำนวน 20 คน ครู จำนวน 200 คน เครื่องมือ คือ แบบประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบการบริหารฯ วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐานค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. องค์ประกอบของรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ องค์ประกอบที่2 จุดมุ่งหมายของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 3 ปัจจัยนำเข้า องค์ประกอบที่ 4 กระบวนการ องค์ประกอบที่ 5 ผลผลิต

2. รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ ที่สร้างขึ้นภาพรวม มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด และผลจากการทดลองใช้รูปแบบการฯ ระดับความสามารถขอครู มีดังนี้

2.1 ด้านความรู้ ครูมีคะแนนจากทดสอบวัดความรู้ด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ หลังการฝึกอบรมสูงกว่าก่อนการฝึกอบรม คิดเป็นร้อยละ 91.72

2.2 ด้านทักษะ ครูมีทักษะการปฏิบัติด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในระดับดีเยี่ยม

2.3 ด้านเจตคติ ครูมีเจตคติด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในระดับค่อนข้างสูง

3. ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ในการนำรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ไปใช้ ภาพรวม มีความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย pooh : [27 ส.ค. 2565 เวลา 15:55 น.]
อ่าน [1893] ไอพี : 171.96.234.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,213 ครั้ง
พืชเศรษฐกิจ
พืชเศรษฐกิจ

เปิดอ่าน 34,399 ครั้ง
มินาโมโตะ ชิซุกะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
มินาโมโตะ ชิซุกะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 11,371 ครั้ง
เผยรายได้เฉลี่ย-สูงสุด บัณฑิตจุฬาฯ รุ่นรับปริญญา ปี 2557
เผยรายได้เฉลี่ย-สูงสุด บัณฑิตจุฬาฯ รุ่นรับปริญญา ปี 2557

เปิดอ่าน 38,019 ครั้ง
เรียบร้อยโรงเรียนจีน วลีนี้มีที่มา
เรียบร้อยโรงเรียนจีน วลีนี้มีที่มา

เปิดอ่าน 27,007 ครั้ง
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17

เปิดอ่าน 11,964 ครั้ง
5 สเต็ปคิดสักนิดก่อนตัดสินใจกู้
5 สเต็ปคิดสักนิดก่อนตัดสินใจกู้

เปิดอ่าน 2,762 ครั้ง
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 15,767 ครั้ง
การสอนภาษาอังกฤษ ในสพฐ. จุดอ่อนที่ควรคำนึง
การสอนภาษาอังกฤษ ในสพฐ. จุดอ่อนที่ควรคำนึง

เปิดอ่าน 4,149 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 7,038 ครั้ง
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7

เปิดอ่าน 43,165 ครั้ง
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน

เปิดอ่าน 8,887 ครั้ง
เชื้อโควิดอยู่ในร่างกายได้กี่วัน หายป่วยแล้วยังแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่
เชื้อโควิดอยู่ในร่างกายได้กี่วัน หายป่วยแล้วยังแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่

เปิดอ่าน 16,100 ครั้ง
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
ประโยชน์ของโยเกิร์ต

เปิดอ่าน 17,972 ครั้ง
การบริหารกล้ามเนื้อตา
การบริหารกล้ามเนื้อตา

เปิดอ่าน 20,704 ครั้ง
พ.ร.บ. ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น
พ.ร.บ. ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น

เปิดอ่าน 8,531 ครั้ง
การศึกษาปัญหาที่แก้ไม่ตก
การศึกษาปัญหาที่แก้ไม่ตก
เปิดอ่าน 69,009 ครั้ง
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
เปิดอ่าน 15,036 ครั้ง
จำนวนเต็ม (Integer) คืออะไร
จำนวนเต็ม (Integer) คืออะไร
เปิดอ่าน 17,776 ครั้ง
รู้หรือไม่ว่า "ชมพู่" เป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ
รู้หรือไม่ว่า "ชมพู่" เป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ
เปิดอ่าน 29,680 ครั้ง
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ