ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาที่ 2

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาที่ 2 ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อสร้างรูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education 3.2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของกระบวนการเรียนรู้ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านมลายูบางกอก) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 19 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยการจับสลากรายชื่อห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education 2) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 40 ข้อ 3) แบบประเมินทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดยการใช้รูบริกส์ (rubrics score) และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยรูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าทีแบบไม่อิสระจากกัน (t – test Dependent) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) ผลการวิจัยพบว่า

1.รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education เป็นรูปแบบการสอนที่บูรณาการการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการสอนแบบออนไลน์กับการสอนในชั้นเรียน สื่อการสอนส่วนมากใช้วิธีการแบบออนไลน์ เช่น มีการปรึกษาหารือออนไลน์และมีการประชุมแบบเผชิญหน้ากัน ผ่านทาง Google app for education ซึ่งเป็นชุดโปรแกรมต่างๆของ google ที่เปิดให้สถาบันการศึกษาใช้สำหรับใช้เป็นเครื่องมือเสริม ประกอบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ใช้การเรียนรู้แบบมุ่งเน้นประสบการณ์ทางภาษา และหลักการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ขั้นตอนในการจัดการเรียนการสอนออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นประสบการณ์รูปธรรม ขั้นที่ 2 ขั้นไตร่ตรองและสรุปหลักการนามธรรม ขั้นที่ 3 ขั้นทดลองปฏิบัติจริง และขั้นที่ 4 ขั้นแสดงผลงานและวัดผลประเมินผล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพรูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก

2.รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education มีประสิทธิภาพ 87.04/86.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)

3.ผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education พบว่า

3.1ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่เรียนด้วย รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education มีทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

3.2ดัชนีประสิทธิผลของกระบวนการเรียนรู้ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ตาม รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education ก่อนเรียนและหลังเรียน มีค่าเท่ากับ 0.8542 หมายความว่าการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.8542 หรือคิดเป็นร้อยละ 85.42

4.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ผสมผสาน (Blended Learning) ตามแนวคิด Allen and Seaman ร่วมกับ Google app for education โดยรวมอยู่ระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูฮาซัน : [27 ส.ค. 2565 เวลา 07:03 น.]
อ่าน [3342] ไอพี : 184.22.189.202
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 50,928 ครั้ง
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร

เปิดอ่าน 85,331 ครั้ง
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 44,232 ครั้ง
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค

เปิดอ่าน 23,276 ครั้ง
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ

เปิดอ่าน 180,339 ครั้ง
เทคโนโลยี หมายถึงอะไร
เทคโนโลยี หมายถึงอะไร

เปิดอ่าน 10,787 ครั้ง
น้ำเพื่อสุขภาพ
น้ำเพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 25,017 ครั้ง
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.

เปิดอ่าน 14,893 ครั้ง
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น

เปิดอ่าน 60,243 ครั้ง
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก

เปิดอ่าน 17,573 ครั้ง
เลือกหมอนให้นอนหลับสบาย
เลือกหมอนให้นอนหลับสบาย

เปิดอ่าน 20,248 ครั้ง
4 ภาษาหลักของโลก สร้าง "โอกาส" ยุคโลกาภิวัตน์
4 ภาษาหลักของโลก สร้าง "โอกาส" ยุคโลกาภิวัตน์

เปิดอ่าน 11,893 ครั้ง
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ

เปิดอ่าน 13,812 ครั้ง
วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา

เปิดอ่าน 16,826 ครั้ง
เงิน กับ ธรรมะ
เงิน กับ ธรรมะ

เปิดอ่าน 13,114 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?

เปิดอ่าน 11,333 ครั้ง
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
เปิดอ่าน 13,633 ครั้ง
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
เปิดอ่าน 29,976 ครั้ง
"บึงกาฬ" จังหวัดที่ 77 ของไทย
"บึงกาฬ" จังหวัดที่ 77 ของไทย
เปิดอ่าน 56,733 ครั้ง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"
เปิดอ่าน 46,293 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ