ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
ร่วมกับชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้วิจัย กุสุมา ใสสะอาด
สังกัด โรงเรียนกุงเจริญพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อประเมินทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนกุงเจริญพิทยาคม ตำบลหัวนาคำ อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี จำนวน 1 ห้องเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้อง 2) รูปแบบการเรียนรู้ 3) ชุดกิจกรรม 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) แบบประเมินทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t-test Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความ
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับ ชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนและผู้เกี่ยวข้องเห็นว่า ด้านองค์ประกอบต้องให้ครบตามรูปแบบการเรียนรู้ ด้านเนื้อหาควรเป็นเนื้อหาที่นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ด้านรูปแบบ/ลักษณะของรูปแบบการเรียนรู้ ควรมีสื่อที่หลากหลายทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและต้องเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ถ้าเป็นเนื้อหาควรมีรูปภาพประกอบ ด้านวิธีการเรียนรู้/สื่อการเรียนควรใช้วิธีการเรียนรู้ที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายและใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายและกิจกรรมการเรียนการสอนควรให้นักเรียนได้ใช้สื่อทุกอย่างในกิจกรรมอย่างทั่วถึง โดยครูคอยดูแลและให้คำแนะนำนักเรียน และด้านการวัดและประเมินผลควรใช้เครื่องมือในการวัดและประเมินผลให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
2. รูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.78/83.43
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับ ชุดกิจกรรม รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23202 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก