ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถ

ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นายบัญญัติ บุตรนอก

โรงเรียนหนองขามพิทยาคม อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา

ปี พ.ศ. 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิดของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถ ในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ศึกษาผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียน แบบเพื่อนคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ที่มีต่อการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิดกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 27 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นการสุ่ม ด้วยการจับฉลาก จำนวน 1 ห้องเรียน ประกอบด้วยนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน คละกันทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง ซึ่งถือว่าเป็นว่าเป็นตัวแทนของนักเรียนส่วนใหญ่ได้ ตัวแปรอิสระ ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความสามารถทางการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถใน การเรียนแบบเพื่อนคู่คิด และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ที่มีต่อการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ใช้ระยะเวลาในการทดลองสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 สัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 14 ชั่วโมง โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 7 แผน ใช้เวลา 14 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และความต้องการในการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับ การเรียนการสอน กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking) ด้วยการวิเคราะห์ ประเมินค่าและสร้างสรรค์ไม่เพียงแต่เป็นผู้ฟัง ผู้เรียนต้องอ่าน เขียน ตั้งคำถามและถาม อภิปรายร่วมกัน ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริง และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมให้นักเรียนช่วยเหลือกัน และฝึกทักษะการทำงานร่วมกัน

2. รูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ดำเนินการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ มีชื่อเรียกว่า “2W3P MODE” มีองค์ประกอบคือ 1) หลักการ แนวคิด ทฤษฎี 2) สาระสำคัญ 3) มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 4) จุดประสงค์ 5) สาระการเรียนรู้/เนื้อหาภาษา 6) กิจกรรมการเรียนรู้ 7) บทบาทครู 8) บทบาทนักเรียน 9) สมรรถนะของผู้เรียน 10) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 11) ชิ้นงานและภาระงาน 12) แหล่งเรียนรู้ 13) การวัดและประเมินผล ในส่วนของกิจกรรมการเรียนรู้มี 5 ขั้นตอน ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm Up: W) ขั้นที่ 2 ขั้นนำเสนอ (Presentation: P) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก (Practice: P) ขั้นที่ 4 ขั้นนำไปใช้ (Production: P) ขั้นที่ 5 ขั้นสรุปและประเมิน (Wrap up: W) ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.92 ซึ่งมีความเหมาะสม และสอดคล้องกัน และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.86/81.57 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า การทดสอบค่าสถิติ t = 12.93, df = 27 ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 21.52 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 4.93 และหลังเรียนมีมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 32.92 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.87

4. ผลของการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ที่มีต่อการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการเรียนแบบเพื่อนคู่คิด พบว่า ความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( = 4.29, S.D.= 1.19) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านสามารถเรียงลำดับได้ดังนี้ ด้านประโยชน์ของรูปแบบการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุดเป็นลำดับที่ 1 ( = 4.39, S.D. = 1.11) รองลงมาคือ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ( = 4.36, S.D.= 1.12) ลำดับที่ 3 คือ ด้านครูผู้สอน ( = 4.30, S.D.= 1.17) และลำดับที่ 4 ด้านการวัดประเมินผล ( = 4.12, S.D. = 1.34) เป็นลำดับสุดท้าย

โพสต์โดย แจ็ค : [24 ส.ค. 2565 เวลา 05:57 น.]
อ่าน [2911] ไอพี : 171.101.99.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,747 ครั้ง
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ

เปิดอ่าน 19,016 ครั้ง
คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน
คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน

เปิดอ่าน 13,823 ครั้ง
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์

เปิดอ่าน 27,292 ครั้ง
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย

เปิดอ่าน 11,885 ครั้ง
ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน
ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน

เปิดอ่าน 14,061 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 31,487 ครั้ง
"วาสนา" ดีจากไหน ลองดูที่ "เส้นวาสนา" จากลายมือกัน
"วาสนา" ดีจากไหน ลองดูที่ "เส้นวาสนา" จากลายมือกัน

เปิดอ่าน 19,248 ครั้ง
วิธีกินอย่างฉลาด
วิธีกินอย่างฉลาด

เปิดอ่าน 11,700 ครั้ง
ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข
ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข

เปิดอ่าน 14,907 ครั้ง
ประโยชน์ของ "กล้วยหอมทอง" ที่มีต่อสุขภาพ
ประโยชน์ของ "กล้วยหอมทอง" ที่มีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 11,686 ครั้ง
ตรวจสอบฮวงจุ้ยที่บ้านคุณ
ตรวจสอบฮวงจุ้ยที่บ้านคุณ

เปิดอ่าน 51,114 ครั้ง
เผยสูตรสร้างครอบครัว 4.0 สังคมเป็นสุข
เผยสูตรสร้างครอบครัว 4.0 สังคมเป็นสุข

เปิดอ่าน 12,211 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย

เปิดอ่าน 62,146 ครั้ง
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 111,750 ครั้ง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เปิดอ่าน 16,050 ครั้ง
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก
เปิดอ่าน 30,503 ครั้ง
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เปิดอ่าน 13,835 ครั้ง
เคล็ด(ไม่)ลับ
เคล็ด(ไม่)ลับ'หัวกะทิ'
เปิดอ่าน 14,249 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
เปิดอ่าน 12,089 ครั้ง
9 อันดับโน้ตบุ๊กเริ่ม"เอ๋อ"ภายใน 3 ปี
9 อันดับโน้ตบุ๊กเริ่ม"เอ๋อ"ภายใน 3 ปี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ