ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว โดยใช้รูปแบบ CIPP Model
ผู้ศึกษา นายมานพ ศรีขัติย์
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว โดยใช้รูปแบบ CIPP Model มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลการดำเนินโครงการตามรูปแบบการประเมินแบบ CIPP และเพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องโครงการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว ประชากรที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว ปีการศึกษา 2564 ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 3 คน ครูผู้สอน ในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว จำนวน 46 คน ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 281 คน ผู้ปกครองผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 281 คน ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 248 คน ผู้ปกครองผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 248 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน รวม 1,122 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม แบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบสอบถามเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Checklist) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว โดยใช้แบบ Rating Scale 5 ระดับของ Likert และตอนที่ 3 แบบสอบถามความพึงพอใจ เกี่ยวกับการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว โดยใช้แบบ Rating Scale 5 ระดับ ของ Likert ข้อมูลที่ผู้ศึกษาได้รับกลับคืนมารวมทั้งสิ้น 1,122 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้วิธีหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วนำผลการเปรียบเทียบเสนอในรูปตารางพร้อมคำอธิบายประกอบ
สรุปผลการศึกษา
1. ผลการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านใหม่หนองบัว โดยใช้รูปแบบ CIPP Model โดยภาพรวมพบว่า ด้านความยั่งยืนของผลที่เกิดขึ้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ในขณะที่ข้อมูลความคิดเห็นด้านผลผลิต ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านผลกระทบ ด้านการถ่ายโยงความรู้ ด้านกระบวนการ ด้านประสิทธิผล มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
2. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทุกด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ในประเด็นด้านการนิเทศภายในมีความคิดเห็นว่าเป็นกิจกรรมการนิเทศภายในอย่างมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ในขณะที่ด้านวัตถุประสงค์ของโครงการ โครงสร้างของโครงการ และการนิเทศจากหน่วยงานภายนอก มีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมในระดับมากทุกข้อ
3. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ด้านการวางแผนดำเนินโครงการ ด้านบุคลากร ด้านวัสดุอุปกรณ์ ด้านอาคารสถานที่ และด้านงบประมาณมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทุกด้าน
4. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า การดำเนินงานตามแผน และการปฏิบัติกิจกรรมของโครงการโดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
5. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่าด้านผู้เรียน ด้านครูผู้สอน ด้านคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และด้านผู้บริหารสถานศึกษามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้บริหารมีการประชุมชี้แจงให้บุคลากรรับทราบเกี่ยวกับโครงการนิเทศ มีการจัดทำตารางกำหนดการติดตามอย่างชัดเจน และเอาใจใส่ ดูแลการสอนของครู และจัดดำเนินการวัดผลการเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบ โดยมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ครูมีความเข้าใจบทบาท และหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ และงบประมาณ และผู้เรียนสามารถกำหนดเป้าหมายในการทำงานได้
6. การประเมินความพึงพอใจของผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้ง 8 ด้าน พบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
7. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีผลการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เฉลี่ย 4.80 ผ่านเกณฑ์การประเมินความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
8. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 มีผลการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เฉลี่ย 4.80 ผ่านเกณฑ์การประเมินความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด