งานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง
ชื่อผู้วิจัย : นางวิภา ศรีม่วงกลาง
ปี : 2564
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ดังนี้ 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.2) เปรียบเทียบทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการปฏิบัติการสร้างชิ้นงานของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.3) เปรียบเทียบพฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน จากการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.4) เปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.5) เปรียบเทียบเจตคติของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.6) ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ (สาระทัศนศิลป์) เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.7) ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อครูที่จัดการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง และ 2.8) ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อพฤติกรรมของนักเรียน หลังจากนักเรียนได้เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง 2) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง
เครื่องมือประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ซึงมีเอกสารประกอบ คือ คู่มือ การใช้รูปแบบและแผนการจัดการเรียนรู้การใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะ การเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบสอบถามและแบบประเมินรวมจำนวน 14 ฉบับ ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ เน้นความตรงเชิงเนื้อหา สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติทดสอบที (t-test) ผลการศึกษา พบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ที่ผู้ศึกษาพัฒนา มีชื่อว่า CPS-learning plus model: Creative Process Self-Learning Plus Model มีองค์ประกอบของรูปแบบ คือ 1) หลักการของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบ 4) การวัดและประเมินผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และ 5) ปัจจัยสนับสนุน
การจัดการเรียนรู้ ซึ่งกระบวนการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบ มีกระบวนการ 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 สร้างบรรยากาศดึงความสนใจในการเรียน ขั้นที่ 2 คำถามสร้างพลังคิด (เชื่อมโยงสู่ หัวข้อการเรียน) ขั้นที่ 3 เรียนรู้และค้นหา เพื่อออกแบบสร้างชิ้นงาน ขั้นที่ 4 นำเสนอผลงาน ขั้นที่ 5 สรุปและประเมินผลตามเกณฑ์ที่กำหนดร่วมกัน และในส่วนของปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ การจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อม มี 5 บรรยากาศ ดังนี้ 1) ครูสร้างบรรยากาศเชิงบวก และให้อิสระในการเรียน 2) ครูทำหน้าที่เป็นโค้ช Coaching และเป็น facilitator เน้นให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง 3) ครูกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้จากสื่อที่หลากหลาย เพื่อนำองค์ความรู้มาออกแบบและสร้างชิ้นงาน 4) ครูกระตุ้นให้นักเรียน เน้นการใช้ศิลปะในการออกแบบและการสร้างสรรค์ชิ้นงาน 5) ครูและนักเรียนประเมินผลร่วมกัน และแจ้งผลการประเมินเมื่อกิจกรรมเสร็จสิ้น ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการรับรองรูปแบบก่อนนำไปใช้ด้วยการยืนยันตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) ใน 3 ด้าน คือ ด้านความเหมาะสมด้านความเป็นไปได้ และด้านความเป็นประโยชน์ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า รูปแบบมีคุณภาพมีความสอดคล้องกับทฤษฎีและเหมาะสมในการนำไปใช้ และหลังจากทดลองไปใช้พบว่าครูได้รับประโยชน์จากการทดลองใช้รูปแบบและนักเรียนมีพัฒนาด้านทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง และมีผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนสูงขึ้น
2. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง
ที่ชื่อว่า CPS-Learning Plus Model มีดังนี้ 2.1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าคะแนนสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2 ผลการเปรียบเทียบทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการปฏิบัติ การสร้างชิ้นงานของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า คะแนนทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการปฏิบัติการสร้างชิ้นงานของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าคะแนนสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.3 ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน จากการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า พฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง แต่หลังการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.4 ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับน้อย แต่หลังการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.5 ผลการเปรียบเทียบเจตคติของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า เจตคติของนักเรียน ก่อนการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับไม่เห็นด้วย แต่หลังการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับเห็นด้วย 2.6 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ (สาระทัศนศิลป์) เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.7 ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อครูที่จัดการสอนด้วยรูปแบบการจัดการ เรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่างพบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 2.8 ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อพฤติกรรมของนักเรียน หลังจากนักเรียนได้เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด