บทสรุปผู้บริหาร
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของโครงการ ปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับ ความเหมาะสมของบุคลากรที่รับผิดชอบ และงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน กระบวนการของโครงการเกี่ยวกับกิจกรรมที่ดำเนินการและการติดตามโครงการ และผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การแก้ไขปัญหาของนักเรียน การส่งต่อนักเรียน การมีวินัยของนักเรียน ความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีกลุ่มตัวอย่าง 615 คน ประกอบด้วย นักเรียน 278 คน ผู้ปกครอง 278 คน และครู 59 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย โดยการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย แบบบันทึก แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้หาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ IOC หาความตรงเชิงเนื้อหาของแบบสอบถาม และสัมประสิทธิ์แอลฟา หาความเที่ยงของแบบสอบถาม ผลการประเมินโครงการสรุปได้ ดังนี้
ผลการประเมินโครงการในภาพรวม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นและ ทุกตัวชี้วัด ดังนี้
1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากทั้งตัวชี้วัดความต้องการจำเป็นในการจัดทำโครงการ และความเป็นไปได้ของโครงการ
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก ทั้งตัวชี้วัดความเหมาะสมของบุคลากรที่รับผิดชอบ และร้อยละของงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุดทั้งตัวชี้วัดร้อยละของกิจกรรมที่ดำเนินการ และร้อยละของการติดตามโครงการ
4. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด ระดับมากที่สุด ได้แก่ ได้แก่ ร้อยละของนักเรียนที่ครูรู้จักเป็นรายบุคคล ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการคัดกรอง ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการแก้ไขปัญหา ไม่สำเร็จและต้องส่งต่อ และร้อยละของนักเรียนที่มีวินัยเพิ่มขึ้น ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับมากได้แก่ ระดับความพึงพอใจของนักเรียน ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง และระดับวัดความพึงพอใจของครู
ข้อเสนอแนะ
การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลาย ๆ ฝ่าย เช่น ครูและผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนา ป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จากผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 1 จะเห็นได้ว่าควรดำเนินโครงการนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้เกี่ยวข้องควรนำ ผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินโครงการอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตามข้อเสนอแนะดังนี้
1. จากผลการประเมินประเด็นบริบท พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก แต่เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ความร่วมมือของผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา และการกำกับติดตามโครงการอยู่ในระดับปานกลาง ผู้บริหารจึงควรชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และควรกำกับติดตามการดำเนินงานตามโครงการโดยต่อเนื่อง นอกจากนี้บริบทของโครงการเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินโครงการ การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของโครงการจะเป็นเข็มทิศชี้นำการปฏิบัติไปสู่ความสำเร็จได้ดี จึงควรมีการพิจารณาถึงความต้องการจำเป็นของสภาพแวดล้อม คือ ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู และกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา นโยบายหน่วยงานต้นสังกัด และสภาพปัญหาของนักเรียน อันเป็นการตอบสนองความต้องการของนักเรียนอย่างแท้จริง
2. จากผลการประเมินประเด็นปัจจัยนำเข้าโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าความเพียงพอและความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับปานกลาง ผู้บริหารจึงควรสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ต้องใช้ในการดำเนินงานโครงการ ให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรม และควรสร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้พร้อมก่อนการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินโครงการ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
3. จากผลการประเมินประเด็นกระบวนการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของผู้รับผิดชอบโครงการซึ่งควรยึดถือปฏิบัติในการดำเนินโครงการ นอกจากนั้นการปฏิบัติตามกิจกรรมของโครงการมีหลายกิจกรรมที่ต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน เช่น นักจิตวิทยา นักสาธารณสุข ในการดูแลช่วยเหลือพัฒนานักเรียนตามสภาพปัญหาและความต้องการของแต่ละคน จึงควรขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ให้คำแนะนำช่วยเหลือ และติดตามผลในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์
4. จากผลการประเมินประเด็นผลผลิต พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด นักเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครู ทั้งตัวชี้วัดการรู้จักเป็นรายบุคคล การคัดกรองและการแก้ปัญหานักเรียน อย่างไรก็ตามครูควรพัฒนาการมองในหลาย ๆ มิติ ทั้งนี้อาจเนื่องจากนักเรียนแต่ละคนยังมีปัญหาด้านอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะสลับซับซ้อน ครูจึงควรหาข้อมูลหรือทำวิจัยเชิงสำรวจเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียนต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับสูง จึงควรจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะกับความต้องการและสภาพปัญหาของนักเรียนเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และครู ให้มากยิ่งขึ้นไป
บทสรุปผู้บริหาร
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของโครงการ ปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับ ความเหมาะสมของบุคลากรที่รับผิดชอบ และงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน กระบวนการของโครงการเกี่ยวกับกิจกรรมที่ดำเนินการและการติดตามโครงการ และผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การแก้ไขปัญหาของนักเรียน การส่งต่อนักเรียน การมีวินัยของนักเรียน ความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีกลุ่มตัวอย่าง 615 คน ประกอบด้วย นักเรียน 278 คน ผู้ปกครอง 278 คน และครู 59 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย โดยการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย แบบบันทึก แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้หาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ IOC หาความตรงเชิงเนื้อหาของแบบสอบถาม และสัมประสิทธิ์แอลฟา หาความเที่ยงของแบบสอบถาม ผลการประเมินโครงการสรุปได้ ดังนี้
ผลการประเมินโครงการในภาพรวม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นและ ทุกตัวชี้วัด ดังนี้
1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากทั้งตัวชี้วัดความต้องการจำเป็นในการจัดทำโครงการ และความเป็นไปได้ของโครงการ
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก ทั้งตัวชี้วัดความเหมาะสมของบุคลากรที่รับผิดชอบ และร้อยละของงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุดทั้งตัวชี้วัดร้อยละของกิจกรรมที่ดำเนินการ และร้อยละของการติดตามโครงการ
4. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด ระดับมากที่สุด ได้แก่ ได้แก่ ร้อยละของนักเรียนที่ครูรู้จักเป็นรายบุคคล ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการคัดกรอง ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการแก้ไขปัญหา ไม่สำเร็จและต้องส่งต่อ และร้อยละของนักเรียนที่มีวินัยเพิ่มขึ้น ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับมากได้แก่ ระดับความพึงพอใจของนักเรียน ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง และระดับวัดความพึงพอใจของครู
ข้อเสนอแนะ
การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลาย ๆ ฝ่าย เช่น ครูและผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนา ป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จากผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 1 จะเห็นได้ว่าควรดำเนินโครงการนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้เกี่ยวข้องควรนำ ผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินโครงการอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตามข้อเสนอแนะดังนี้
1. จากผลการประเมินประเด็นบริบท พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก แต่เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ความร่วมมือของผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา และการกำกับติดตามโครงการอยู่ในระดับปานกลาง ผู้บริหารจึงควรชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และควรกำกับติดตามการดำเนินงานตามโครงการโดยต่อเนื่อง นอกจากนี้บริบทของโครงการเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินโครงการ การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นและความเป็นไปได้ของโครงการจะเป็นเข็มทิศชี้นำการปฏิบัติไปสู่ความสำเร็จได้ดี จึงควรมีการพิจารณาถึงความต้องการจำเป็นของสภาพแวดล้อม คือ ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู และกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา นโยบายหน่วยงานต้นสังกัด และสภาพปัญหาของนักเรียน อันเป็นการตอบสนองความต้องการของนักเรียนอย่างแท้จริง
2. จากผลการประเมินประเด็นปัจจัยนำเข้าโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าความเพียงพอและความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับปานกลาง ผู้บริหารจึงควรสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ต้องใช้ในการดำเนินงานโครงการ ให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรม และควรสร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้พร้อมก่อนการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินโครงการ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
3. จากผลการประเมินประเด็นกระบวนการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของผู้รับผิดชอบโครงการซึ่งควรยึดถือปฏิบัติในการดำเนินโครงการ นอกจากนั้นการปฏิบัติตามกิจกรรมของโครงการมีหลายกิจกรรมที่ต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน เช่น นักจิตวิทยา นักสาธารณสุข ในการดูแลช่วยเหลือพัฒนานักเรียนตามสภาพปัญหาและความต้องการของแต่ละคน จึงควรขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ให้คำแนะนำช่วยเหลือ และติดตามผลในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์
4. จากผลการประเมินประเด็นผลผลิต พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด นักเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครู ทั้งตัวชี้วัดการรู้จักเป็นรายบุคคล การคัดกรองและการแก้ปัญหานักเรียน อย่างไรก็ตามครูควรพัฒนาการมองในหลาย ๆ มิติ ทั้งนี้อาจเนื่องจากนักเรียนแต่ละคนยังมีปัญหาด้านอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะสลับซับซ้อน ครูจึงควรหาข้อมูลหรือทำวิจัยเชิงสำรวจเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาให้แก่นักเรียนต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับสูง จึงควรจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะกับความต้องการและสภาพปัญหาของนักเรียนเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และครู ให้มากยิ่งขึ้นไป