ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมโดยใช้รูปแบบการประเมินซิป (CIPP Model) ของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางกุฬา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรีเขต 1

ผู้รายงาน นายสายัณห์ นาคราช

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา

ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมโดยใช้รูปแบบการประเมินซิป (CIPP Model) ของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางกุฬา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินความเหมาะสมของบริบทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมของปัจจัยนำเข้าที่ใช้ในการดำเนินงานตามโครงการ 3) เพื่อประเมินความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินงานของโครงการ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการในเรื่อง 4.1) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน จำนวน 8 ด้าน คือรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ 4.2) ประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ ประชากรที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ประกอบด้วย ครูผู้สอน 4 คน นักเรียน 40 คน ผู้ปกครองนักเรียน 40 คน คณะกรรมการสถานศึกษา 7 คนของโรงเรียนบ้านบางกุฬา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1 ปีการศึกษา 2564 รวมประชากรที่ให้ข้อมูล จำนวน 91 คน เป็นการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะเวลาในการศึกษา ปีการศึกษา 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการเป็นแบบสอบถามที่ผู้รายงานสร้างขึ้น จำนวน 4 ฉบับ ดังนี้ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อบริบทของโครงการจำนวน 10 ข้อ ฉบับที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อปัจจัยนำเข้าของโครงการจำนวน 10 ข้อ ฉบับที่ 3 แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อกระบวนการดำเนินงานตามโครงการจำนวน 10 ข้อ ฉบับที่ 4 แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อผลผลิตของโครงการด้านพฤติกรรมการแสดงออกถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน จำนวน 49 ข้อ และแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อผลผลิตของโครงการด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า

การประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมโดยใช้รูปแบบการประเมินซิป (CIPP Model) ของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางกุฬา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.40 , σ = 0.41 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านกระบวนการอยู่ในระดับมาก รองลงมาด้านสภาพแวดล้อม ด้านผลผลิตและด้านปัจจัย ตามลำดับ แยกเป็นรายด้านดังนี้

1. บริบทของโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (μ = 4.40) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสูด ได้แก่ โรงเรียนมีการกำหนดนโยบายของโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมได้อย่างชัดเจน (μ = 5.00) รองลงมา ได้แก่ กิจกรรมของโครงการสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง (μ = 4.75) รองลงมา ได้แก่ โครงการสอดคล้องกับความต้องการของครู ผู้ปกครองและชุมชน (μ = 4.50) กิจกรรมของโครงการสามารถช่วยให้นักเรียนมีการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนให้ดีขึ้น (μ = 4.50) รองลงมา ได้แก่ โครงการมีความเหมาะสมในการแก้ปัญหาคุณธรรม จริยธรรม (μ = 4.25) โครงการสามารถแก้ปัญหาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนได้ (μ = 4.25) หลักการและเหตุผลของโครงการมีความสอดคลองกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน (μ = 4.25) วัตถุประสงค์ของโครงการมีความชัดเจนสอดคล้องกับวิธีดำเนินการ (μ = 4.25) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีดำเนินโครงการ (μ = 4.25) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ สภาวะแวดล้อมของโรงเรียนมีความเหมาะสมและเอื้อต่อการดำเนินโครงการ (μ = 4.00)

2. ปัจจัยนำเข้าของโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (μ = 4.20) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุดได้แก่ มีแผนการดำเนินงานโครงการอย่างชัดเจน (μ = 4.75) รองลงมา ได้แก่ กิจกรรมในโครงการมีความเหมาะสมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ (μ = 4.50) รองลงมา ได้แก่ ระยะเวลาในการดำเนินโครงการมีความเหมาะสม (μ = 4.25) ผู้บริหารและครูผู้รับผิดชอบมีความรู้ความเข้าใจและมีความสามารถในการดำเนินโครงการ (μ = 4.25) รองลงมา ได้แก่ มีอาคารสถานที่ในการปฏิบัติกิจกรรมของโครงการอย่างเหมาะสมและเพียงพอ (μ = 4.20) รองลงมา ได้แก่ ผู้บริหารและครูผู้รับผิดชอบมีความพร้อมในการดำเนินโครงการ (μ = 4.00) บุคลากรในการดำเนินโครงการมีจำนวนเพียงพอและเหมาะสม (μ = 4.00) มีวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในโครงการอย่างเพียงพอ (μ = 4.00) เอกสารที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรมในโครงการมีความเหมาะสมและเพียงพอ (μ = 4.00) ข้อที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ งบประมาณในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ (μ = 3.75)

3. กระบวนการดำเนินงานตามโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (μ = 4.47) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสูด ได้แก่ มีการกำหนดขั้นตอน รายละเอียดและวิธีดำเนินโครงการอย่างชัดเจนและเหมาะสม (μ = 5.00) รองลงมา ได้แก่ มีการวางแผนการดำเนินงานโครงการสู่การปฏิบัติ (μ = 4.75) มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบแก่บุคลากรในการดำเนินโครงการ (μ = 4.75) รองลงมา ได้แก่ มีการประชุมให้ความรู้ชี้แจงสื่อสารประชาสัมพันธ์ ผู้รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องเข้าใจขั้นตอนและวิธีดำเนินการ (μ = 4.50) กิจกรรมในโครงการช่วยให้นักเรียนบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ (μ = 4.50) ดำเนินกิจกรรมโครงการตามแผนและขั้นตอนการดำเนินการที่กำหนดไว้ในโครงการ (μ = 4.50) รองลงมา ได้แก่ มีการนิเทศกำกับติดตามและควบคุมการดำเนินงานตามโครงการ (μ = 4.25) มีการกำหนดหลักเกณฑ์ ระยะเวลาและผลการปฏิบัติงานในการประเมิน ผลโครงการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องด้วยวิธีการที่หลากหลายครบทุกกิจกรรม (μ = 4.25) ขณะดำเนินงานตามโครงการมีการแก้ไขปรับปรุงวิธีการดำเนินโครงการเมื่อพบว่าบกพร่อง (μ = 4.25) ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ โรงเรียนมีการเผยแพร่และขยายผลการปฏิบัติกิจกรรมสู่ชุมชน

(μ = 4.00)

4. ด้านผลผลิตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (μ =4.28) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสูด คือรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (μ = 4.44) รองลงมา ได้แก่ ซื่อสัตย์ สุจริต (μ = 4.29) ใฝ่เรียนรู้ (μ = 4.29) รองลงมา ได้แก่ มีวินัย (μ = 4.27)รักความเป็นไทย (μ = 4.27) รองลงมา ได้แก่ อยู่อย่างพอเพียง (μ = 4.30) รองลงมา ได้แก่ มีจิตสาธารณะ (μ = 4.22) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ มุ่งมั่นในการทำงาน (μ = 4.21)

5. ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (μ =4.42) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ สามารถเลือกแนวทางและการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม (μ =4.56) รองลงมา คือ สามารถนำความรู้ที่ได้จากโครงการไปใช้กับปฏิบัติงานที่รับผิดชอบ (μ =4.52) รองลงมา คือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น (μ =4.50) รองลงมา คือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติ ตนให้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน (μ =4.47) รองลงมา คือ สามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ และนำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆ (μ =4.45) รองลงมา คือ สามารถนำหลักการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน (μ =4.43) รองลงมา คือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น (μ =4.38) รองลงมา คือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองและครอบครัว

(μ =4.29) รองลงมา คือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมและระเบียบข้อบังคับต่างๆ (μ =4.27) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการเวลา (μ =4.18)

โพสต์โดย คนเสมา : [19 ส.ค. 2565 เวลา 12:08 น.]
อ่าน [3511] ไอพี : 101.109.251.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 34,454 ครั้ง
วิธีทำกระทง
วิธีทำกระทง

เปิดอ่าน 51,274 ครั้ง
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน

เปิดอ่าน 19,048 ครั้ง
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า

เปิดอ่าน 67,492 ครั้ง
การอ่านแบบ Scanning
การอ่านแบบ Scanning

เปิดอ่าน 3,224 ครั้ง
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี

เปิดอ่าน 14,825 ครั้ง
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา

เปิดอ่าน 34,922 ครั้ง
50 สำนวนอังกฤษไม่ธรรมดาที่ใช้บ่อย และ 111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา
50 สำนวนอังกฤษไม่ธรรมดาที่ใช้บ่อย และ 111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา

เปิดอ่าน 12,730 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี

เปิดอ่าน 13,724 ครั้ง
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ

เปิดอ่าน 16,332 ครั้ง
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด

เปิดอ่าน 9,815 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 11,606 ครั้ง
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก

เปิดอ่าน 19,025 ครั้ง
เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!
เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!

เปิดอ่าน 22,406 ครั้ง
สรรพากร เผย รายการลดหย่อนภาษี ปี 2559 "ชุดใหญ่ ไฟกระพริบ"
สรรพากร เผย รายการลดหย่อนภาษี ปี 2559 "ชุดใหญ่ ไฟกระพริบ"

เปิดอ่าน 29,360 ครั้ง
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยสุโขทัย
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยสุโขทัย

เปิดอ่าน 13,112 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
เปิดอ่าน 9,468 ครั้ง
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
เปิดอ่าน 18,254 ครั้ง
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม
เปิดอ่าน 34,922 ครั้ง
50 สำนวนอังกฤษไม่ธรรมดาที่ใช้บ่อย และ 111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา
50 สำนวนอังกฤษไม่ธรรมดาที่ใช้บ่อย และ 111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา
เปิดอ่าน 12,354 ครั้ง
หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ
หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ