|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 (2) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 (4) เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการทดลองใช้รูปแบบ ได้แก่ ผู้บริหารจำนวน 1 คน ครู จำนวน 18 คน และนักเรียน จำนวน 247 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสอบถาม แบบประเมิน แบบสังเกตและประเด็นสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานในการสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ประกอบด้วย (1) ศตวรรษที่ 21 เป็นช่วงเวลาแห่ง การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในหลากหลายเรื่องราว ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการศึกษาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้รูปแบบการเรียนรู้และวิธีแสวงหาความรู้มีการปรับเปลี่ยนไปจากระบบการศึกษาในรูปแบบดั้งเดิม ดังนั้นครูจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาสมรรถนะให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานหรือกิจกรรมวิชาชีพครูได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความคาดหวังขององค์การทั้งระดับโรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการ (2) สมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3
ที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นประกอบด้วย 5 ด้าน จำนวน 13 ตัวบ่งชี้ จำนวน 52 พฤติกรรมบ่งชี้ และมีความเหมาะสมโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.19, S.D. = 0.70)
2. รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ สมรรถนะที่ต้องการพัฒนา วิธีการพัฒนากระบวนการพัฒนา การวัดและประเมินผล โดยกระบวนการพัฒนามี 3 ระดับ คือ ระดับโรงเรียน ระดับกลุ่ม และระดับบุคคล ซึ่งแต่ละระดับมีกระบวนการพัฒนา 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นวางแผน ขั้นดำเนินการ ขั้นตรวจสอบ ติดตาม และขั้นประเมินผล และผลการประเมินความเหมาะสมรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ด้านการใช้ประโยชน์อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.31, S.D.= 0.67) ด้านความเป็นไปได้ในการนำไปใช้อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.33, S.D.= 0.64) ด้านความเหมาะสมเชิงจริยธรรมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.36, S.D.= 0.65) และด้านความถูกต้องอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.33, S.D.= 0.64)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 พบว่า (1) ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงและผ่านเกณฑ์ที่กำหนดทุกด้าน (2) สมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงและผ่านเกณฑ์ที่กำหนดทุกด้าน (3) ผู้บริหาร ครู และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบอยู่ในระดับมาก
4. ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านโนนจาน (เนตรขันธ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.58, S.D. = 0.17) และจากการสนทนากลุ่มร่วมกันของผู้บริหารและครู หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองใช้รูปแบบผู้ร่วมสนทนากลุ่มให้ความคิดเห็นว่า องค์ประกอบของรูปแบบทุกองค์ประกอบมี ความเหมาะสม และสอดคล้องซึ่งกันและกัน เป็นกระบวนการที่มีประโยชน์มาก เป็นกระบวนการที่มีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กันของแต่ละขั้นตอน ทำให้เกิดการพัฒนางานและองค์ความรู้
|
โพสต์โดย นางสุจิรา รุ่งริตน์ตระกูล : [16 ส.ค. 2565 เวลา 01:17 น.] อ่าน [3454] ไอพี : 27.145.149.150
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 59,704 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,910 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,179 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,087 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,701 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,421 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,756 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,522 ครั้ง
| เปิดอ่าน 109,835 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,418 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,118 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,052 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,400 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,472 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,884 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 14,905 ครั้ง
| เปิดอ่าน 258,214 ครั้ง
| เปิดอ่าน 303,995 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,889 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,514 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|