ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมทักษะการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีของครูและ
ผู้เรียนสู่การเรียนการสอนออนไลน์ (On-line) ในสถานการณ์โควิด-19 โรงเรียนปะทิววิทยา
ผู้ประเมิน นางสาววนิตชนัย ยังสุข
สถานศึกษา โรงเรียนปะทิววิทยา
ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2564
บทสรุปผู้บริหาร
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมทักษะการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีของครูและผู้เรียนสู่การเรียนการสอนออนไลน์ (On-line) ในสถานการณ์โควิด-19 โรงเรียนปะทิววิทยา โดยใช้รูปแบบชิปป์ (CIPP Model) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อประเมินบริบท (Context Evaluation) เกี่ยวกับความต้องการ ความจำเป็น ความเหมาะสม ของวัตถุประสงค์ และความชัดเจนของเป้าหมายของโครงการ 2. เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) เกี่ยวกับความพร้อมของสถานศึกษา ความเหมาะสมของงบประมาณ และความเหมาะสมของกิจกรรมของโครงการ 3. เพื่อประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) เกี่ยวกับกระบวนการวางแผนการดำเนินการ และการนิเทศติดตาม และประเมินผลของโครงการ 4. เพื่อประเมินผลผลิต (Product Evaluation) เกี่ยวกับ 4.1 ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีและการเรียนการสอนของครูและผู้เรียน 4.2 ระดับความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองที่ 4.3 ระดับความพึงพอใจของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้มีทั้งสิ้น 502 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
1.ผลการประเมินพบว่าด้านบริบท ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.43, S.D.=.61) รายข้อพบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.23 4.67 ข้อที่มีค่าสูงสุดคือข้อที่ 1. โครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์โควิด-19 ( = 4.67, S.D. = .47) ส่วนข้อที่มีค่าต่ำสุดคือข้อที่ 3.โครงการมีความทันสมัยและมีความจำเป็นในสถานการณ์โควิด-19 ( = 4.23, S.D. = .67)
2. ด้านปัจจัยนำเข้า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.40, S.D. = .60) รายข้อพบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.21 4.57 ข้อที่มีค่าสูงสุดคือ ข้อที่ 9. กิจกรรมมีความหลากหลายและเหมาะสมกับผู้เรียนในการส่งเสริมพัฒนาทักษะการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ( = 4.57, S.D. = .56) ส่วนข้อที่มีค่าต่ำสุดคือข้อที่ 8. กิจกรรมที่เกี่ยวข้องช่วยให้ครูและผู้เรียนพัฒนาทักษะด้านการเรียนการสอน ( = 4.21, S.D. = .54)
3. ด้านกระบวนการ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.35, S.D. = .60) รายข้อพบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.13 4.60 ข้อที่มีค่าสูงสุดคือข้อที่ 9. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ( = 4.60, S.D. = .49) และข้อที่17. เกิดองค์ความรู้ความเข้าใจและการนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมโครงการ ( = 4.60, S.D. = .49) ส่วนข้อที่มีค่าต่ำสุดคือข้อที่ 19. มีการกำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาในการประเมินผลโครงการชัดเจนและเหมาะสม ( = 4.13, S.D. = .72)
4. ด้านผลผลิต เกี่ยวกับความคิดเห็นของครูและนักเรียน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.44, S.D. = .59) รายข้อพบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.20 4.77 ข้อที่มีค่าสูงสุดคือข้อที่ 29. ผู้เรียนสามารถลงปฏิบัติด้วยตนเองอย่างถูกต้องตามกระบวนการ ( = 4.77, S.D. = .42) ส่วนข้อที่มีค่าต่ำสุดคือข้อที่ 17. ผู้เรียนเข้าใจ เข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีของครูได้อย่างง่าย ( = 4.20, S.D. = .87)
5. ด้านผลผลิต เกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครอง ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.50, S.D. = .64) รายข้อพบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.30 4.73 ข้อที่มีค่าสูงสุดคือข้อที่ 6. รูปแบบวิธีการดำเนินงานเป็นระบบขั้นตอนและนำไปปฏิบัติได้จริง และข้อที่ 11. กิจกรรมที่เกี่ยวข้องช่วยให้ครูและผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและทักษะการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ( = 4.73, S.D. = .44) ส่วนข้อที่มีค่าต่ำสุดคือข้อที่ 5. มีกระบวนการที่เหมาะสมและมีความจำเป็นในการส่งเสริมครูและผู้เรียน ( = 4.30, S.D. = .64)
6. ด้านผลผลิต เกี่ยวกับความพึงพอใจของครูและคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53, S.D. = .59) รายข้อพบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.23 4.70 ข้อที่มีค่าสูงสุดคือข้อที่ 9. วิธีการดำเนินงานโครงการมีความชัดเจนตามเป้าหมายคุณภาพ( = 4.70, S.D. = .69) ส่วนข้อที่มีค่าต่ำสุดคือข้อที่ 12.กิจกรรมมีความหลากหลายและเหมาะสมกับส่งเสริมทักษะครูและผู้เรียนจริง ( =4.23, S.D.=.67)