ชื่อเรื่อง : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด
ชื่อผู้ประเมิน : นางกัลยา อินปาน
ปีการศึกษา : 2563
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด มีวัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการเพื่อ 1) ประเมินบริบทของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด 2) ประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด 3) ประเมินกระบวนการดำเนินงานของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด และ 4) ประเมินผลผลิตของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด โดยพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้ 4.1) ผลการดำเนินงานโดยภาพรวมของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด ด้านคุณลักษณะของนักเรียน ประกอบด้วย ด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี สามารถเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม สามารถเรียนได้ตามศักยภาพ มีเจตคติต่อการเรียนรู้ และมีความเป็นอยู่ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับตนเอง 4.2) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง รวมจำนวน 169 คน ประกอบด้วย 1) ครู จำนวน 12 คน ยกเว้นผู้บริหารสถานศึกษา 2) กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ยกเว้นผู้แทนครู และผู้บริหารสถานศึกษา 3) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษา 4 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 75 คน 4) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 75 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินได้แก่ แบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ ฉบับที่ 1-3 สอบถามครูและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า และด้านกระบวนการของโครงการ ฉบับที่ 4 สอบถามครู ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับผลผลิตด้านคุณลักษณะของนักเรียนด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี และฉบับที่ 5 สอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการประเมิน
1. ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด ตามความคิดเห็นของครูและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านบริบทการดำเนินโครงการ โดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.38, S.D. = 0.213) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความเป็นไปได้ของโครงการมีความคิดเห็นสูงที่สุดอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.39, S.D. = 0.262) และด้านความสอดคล้องของวัตถุประสงค์กับนโยบายทางการศึกษาและความต้องการของสังคมมีความคิดเห็นต่ำที่สุด แต่ยังคงอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.37, S.D. = 0.3)
2. ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด ตามความคิดเห็นของครูและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านปัจจัยนำเข้าในการดำเนินโครงการ โดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.35, S.D. = 0.225) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านบุคลากรมีความคิดเห็นสูงที่สุดอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.37, S.D. = 0.231) เท่ากับด้านสถานที่ ("x" ̅ = 4.37, S.D. = 0.337) และด้านงบประมาณมีความคิดเห็นต่ำที่สุด แต่ยังคงอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.30, S.D. = 0.405)
3. ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด ตามความคิดเห็นของครูและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านกระบวนการโครงการ โดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.30, S.D. = 0.114) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหามีความคิดเห็นสูงที่สุดอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.36, S.D. = 0.231) และด้านการส่งต่อมีความคิดเห็นต่ำที่สุด แต่ยังคงอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.27, S.D. = 0.128)
4. ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด ตามความคิดเห็นของครู ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านคุณลักษณะของนักเรียนโดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.27, S.D. = 0.151) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านนักเรียนมีความเป็นอยู่ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับตนเองมีความคิดเห็นสูงที่สุดอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.34, S.D. = 0.309) และด้านนักเรียนมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดีสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมมีความคิดเห็นต่ำที่สุด แต่ยังคงอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.20, S.D. = 0.268)
5. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ด โดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.48, S.D. = 0.192) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด คือ ข้อที่ 2 การออกเยี่ยมบ้านของครูประจำชั้น ("x" ̅ = 4.73, S.D. = 0.475) รองลงมา คือ ข้อที่ 25 การอบรมให้ความรู้ในเรื่องการสังเกตพฤติกรรมนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ("x" ̅ = 4.71, S.D. = 0.514) ขณะที่ข้อที่ 18 นักเรียนได้รับการอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด แต่ยังคงอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.05, S.D. = 0.490)
ข้อเสนอแนะ
1. เกี่ยวกับหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ควรจัดกิจกรรมแบบบูรณาการคุณลักษณะอันพึงประสงค์ลงไปในทุกทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และนำกิจกรรมย่อยของโครงการไปฝึกปฏิบัติ เพื่อให้นักเรียนได้ซึมซับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไปโดยไม่รู้ตัว
2. รูปแบบของการจัดกิจกรรม ควรให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการกำหนดรูปแบบดำเนินงาน เพื่อให้เข้ากับสภาพชุมชน สังคม สื่อ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ควรระดมทรัพยากรจากทุกฝ่าย เพื่อนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการดำเนินงาน
3. การส่งเสริมนักเรียน ครูควรแนะนำนักเรียนได้ทุกเรื่องและหากนักเรียนมีปัญหาไปปรึกษาควรเก็บเป็นความลับ ไม่ซ้ำเติมนักเรียน
4. ควรมีมาตรการในการรักษามาตรฐาน การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและพัฒนาการดำเนินงานให้นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสังคมและประเทศชาติต่อไป
5. ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ควรสนับสนุนให้ครู ผู้ปกครองและชุมชน มีความรู้ความเข้าใจในการวิจัยหรือประเมิน เพื่อการเสริมสร้างและพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้เกิดขึ้นในครอบครัว ชุมชน และสังคม เพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วม และมีกระบวนการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต่อเนื่องและอยู่ในวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชน อย่างยั่งยืน
6. ผู้บริหารควรให้ความสำคัญและเป็นผู้นำในการดำเนินโครงการระบบการดูแล ช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้งจัดให้มีการอบรมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้ความรู้และเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
7. การดำเนินโครงการควรมีการประเมินพฤติกรรมนักเรียน โดยใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐานเพื่อตรวจสอบผลผลิตในการดำเนินการประเมินโครงการทุกปีการศึกษา และนำผลการประเมินมาเปรียบเทียบพัฒนาการในการดำเนินการโครงการต่อไป
8. ควรประเมินผลจากการจัดกิจกรรมย่อยของทุกกิจกรรม ของโครงการ เพื่อหาคุณภาพความสำเร็จของกิจกรรมให้ตรงประเด็นที่ต้องการ
9. ควรมีการศึกษา เรื่อง พฤติกรรมนักเรียนจากการใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน