ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทับใหม่ ปีการศึกษา 2564

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทับใหม่

ผู้จัดทำ : นางอรวรรณ สีจง

หน่วยงาน : โรงเรียนบ้านทับใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี

เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ปีการศึกษา : 2564

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทับใหม่ ปีการศึกษา 2564 ในครั้งนี้ ใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model เป็นแนวทางในการประเมินโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทับใหม่ ซึ่งประเมินใน4 ด้าน ได้แก่ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ โดยกลุ่มตัวอย่างมีจำนวนทั้งสิ้น 453 คน ประกอบด้วย ครูผู้สอนจำนวน 18 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 13 คน นักเรียน 211 คน ผู้ปกครองนักเรียน 211 คน และ เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน จำนวน 6 ฉบับ ประกอบด้วย แบบสอบถามจำนวน 5 ฉบับแบบบันทึกข้อมูล 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินและข้อเสนอแนะสรุปได้ดังนี้

ผลการประเมิน

1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า โดยภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด

( 4.67) ซึ่งตัวชี้วัดที่ได้ระดับมากที่สุดมี 3 ตัวชี้วัดคือ ความต้องการความจำเป็นในการจัดทำโครงการ (4.81) รองลงมาคือความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการ(4.64) ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติโครงการ (4.56) ตามลำดับ

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า โดยภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( 3.97) และผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด ซึ่งตัวชี้วัดที่ได้ระดับมากมี 3 ตัวชี้วัดคือวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินโครงการ (4.08)รองลงมาคือ งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการ (4.05) ความพร้อมของบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการ (3.79) ตามลำดับ

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า โดยภาพรวม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก

( =4.50) และผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด โดยตัวชี้วัดที่ได้คะแนนในระดับมากที่สุด มี 2 ตัวชี้วัด คือ การจัดกิจกรรมดำเนินงานตามโครงการ (4.62) และการบริหารจัดการการดำเนินงานตามโครงการ (4.53) ส่วนตัวชี้วัดที่ได้คะแนนในระดับมาก มี 2 ตัวชี้วัด คือ การมีส่วนร่วมของบุคลากรในการดำเนินโครงการ (4.44) และ การนิเทศ กำกับ ติดตาม (4.41) ตามลำดับ

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า โดยภาพรวม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด

( =4.58) และผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด โดยตัวชี้วัดที่ได้คะแนนในระดับมากที่สุด มี 4 ตัวชี้วัด คือ ความพึงพอใจของผู้บริหารและครูผู้สอน (4.64) รองลงมาคือความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษา(4.59) ความพึงพอใจของนักเรียน (4.56) และ ความพึงพอใจของผู้ปกครอง (4.52) ตามลำดับ

5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่มีต่อโครงการ

5.1 ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการ

5.1.1 ครูผู้รับผิดชอบกิจกรรมมีภาระงานอื่นๆที่ต้องรับผิดชอบนอกเหนือจากงานสอน

ทำให้ไม่มีเวลาดำเนินกิจกรรมอย่างเต็มที่ส่งผลให้มีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศไม่เป็นระบบ

5.1.2 ผู้บริหารขาดการกำกับติดตามผลการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

5.1.3 นักเรียนและผู้ปกครองบางส่วนขาดการมีส่วนร่วมในการดำเนินการตาม

กระบวนการในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

5.2 ความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะที่มีต่อโครงการ

5.2.1 ผู้บริหารควรมีการมอบหมายงานให้ครูมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบการดำเนินกิจกรรมอย่างทั่วถึงมีการรายงานผลการดำเนินกิจกรรม

5.2.2 สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

5.2.3 ผู้บริหารควรมีการกำกับติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีข้อมูลสารสนเทศที่เป็นระบบ

5.2.4 ผู้บริหาร ครู บุคลากรและผู้ปกครองทุกฝ่ายต้องร่วมมือเพื่อช่วยกันผลักดันส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งต่อไป

5.2.5 คณะทำงาน ผู้รับผิดชอบโครงการควรมีการวางแผน การปฏิบัติตามแผนการกำกับติดตามการวัดและประเมินผลโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อพัฒนานักเรียนเต็มตามศักยภาพ

5.2.6 ครูและบุคลากรภายใน สถานศึกษาต้องตระหนักถึงความสำคัญและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างถูกต้อง

5.2.7 ผู้บริหารส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือ เพื่อแก้ปัญหานักเรียนได้ตรงตามสภาพที่แท้จริง

โพสต์โดย orawan khoomchamnan : [12 ส.ค. 2565 เวลา 12:12 น.]
อ่าน [62828] ไอพี : 110.168.249.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,236 ครั้ง
แห่กดไลค์ ด.ญ.จิตราภา พูดอังกฤษหน้าชั้น ผู้ใหญ่ยังอาย
แห่กดไลค์ ด.ญ.จิตราภา พูดอังกฤษหน้าชั้น ผู้ใหญ่ยังอาย

เปิดอ่าน 16,787 ครั้ง
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ขอสินเชื่อใหม่ไม่ยากอย่างที่คิด
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ขอสินเชื่อใหม่ไม่ยากอย่างที่คิด

เปิดอ่าน 17,476 ครั้ง
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา

เปิดอ่าน 22,364 ครั้ง
มวลอะตอม : เคมี
มวลอะตอม : เคมี

เปิดอ่าน 29,303 ครั้ง
พระกฤษณะ
พระกฤษณะ

เปิดอ่าน 19,855 ครั้ง
ประวัติจังหวัดนครพนม
ประวัติจังหวัดนครพนม

เปิดอ่าน 11,012 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง

เปิดอ่าน 53,932 ครั้ง
วิจัยคืออะไร
วิจัยคืออะไร

เปิดอ่าน 21,817 ครั้ง
LearnSquare e-Learning Management System
LearnSquare e-Learning Management System

เปิดอ่าน 537 ครั้ง
เปิดขั้นตอนการวางระบบสระว่ายน้ำ มีอะไรบ้าง
เปิดขั้นตอนการวางระบบสระว่ายน้ำ มีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 39,886 ครั้ง
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC

เปิดอ่าน 16,425 ครั้ง
เทคนิคการแก้ปัญหา "รูขุมขนกว้าง"
เทคนิคการแก้ปัญหา "รูขุมขนกว้าง"

เปิดอ่าน 15,047 ครั้ง
วันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)
วันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)

เปิดอ่าน 9,561 ครั้ง
คนอดนอนกลับยิ่งทำให้กินอาหารจุขึ้น
คนอดนอนกลับยิ่งทำให้กินอาหารจุขึ้น

เปิดอ่าน 16,806 ครั้ง
เรื่องกล้วย ๆ
เรื่องกล้วย ๆ

เปิดอ่าน 24,144 ครั้ง
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย
เปิดอ่าน 16,660 ครั้ง
ล้างพิษด้วยตนเองใน 1 วัน‏
ล้างพิษด้วยตนเองใน 1 วัน‏
เปิดอ่าน 10,577 ครั้ง
จริง...หรือ ?
จริง...หรือ ?
เปิดอ่าน 13,738 ครั้ง
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ
เปิดอ่าน 49,517 ครั้ง
การซ่อมแซมเสื้อผ้า
การซ่อมแซมเสื้อผ้า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ