ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของงานวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนธาตุทองอำนวยวิทย์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในประเด็นดังต่อไปนี้

3.1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนและหลังเรียนด้วย รูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชันนิซึมชันเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3.3) เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านใฝ่เรียนรู้ ด้านมุ่งมั่นในการทำงานระหว่างก่อนและหลังเรียน ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

3.4) เพื่อศึกษาทักษะปฏิบัติของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฏีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3.5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงานสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนธาตุทองอำนวยวิทย์ จำนวน 22 คน โดยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม ( Cluster Random Sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คู่มือรูปแบบแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดใฝ่เรียนรู้ แบบวัดมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงาน และแบบวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐาน t-test ( Dependent Sample

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนธาตุทองอำนวยวิทย์ พบว่า สภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ อยู่ในระดับปานกลาง ( X = 3.42,S.D. = 0.86) และในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ มี 3 ประเด็น คือ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและการสร้างสรรค์ชิ้นงาน ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพได้เสนอแนะวิธีแก้ไขปัญหาโดยพัฒนา

รูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าตามแนวทฤษฏีคอนสตรัคชันนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน ในเนื้อหา เรื่อง

งานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ให้มีแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าตามแนวทฤษฏี

คอนสตรัคชั่นนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และสร้างสรรค์

ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ผลการสังเคราะห์ร่างรูปแบบการเรียนการสอนงาน

ประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ประกอบด้วย

1) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการสอน (Syntax) 4) ระบบสังคม (Social

System) 5) หลักการตอบสนอง (Principle of reaction) 6) ระบบสนับสนุน (Support System)

โดยมีขั้นตอนการสอนดังนี้ 1) ขั้นทวนความรู้เดิม 2 ขั้นเรียนรู้เนื้อหาใหม่ 3) ขั้นปฏิบัติให้ชำนาญ 4)

ชั้นประเมินผลงาน และ 5) ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X =4.76.

S.D. =0.79) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด

(X =4.52, S.D.=0.07)

3. การศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีดังนี้

3.1 รูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าตามแนวทฤษฎีคอน

สตรัคชั่นนิซึมเพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและสร้างสรรค์ชิ้นงาน

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ (E1/E2) เท่ากับ 96.59/87.42

3.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการ

เรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าที่ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิซึม พบว่า ค่าเฉลี่ยของ

คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.3 การเปรียบเทียบด้านใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงานของนักเรียนที่เรียน

ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้าตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิซึม

คะแนนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.4 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิซึมมีทักษะปฏิบัติ ขั้นเตรียม ขั้นปฏิบัติ ขั้นผลงาน ขั้นกิจนิสัย อยู่ในระดับ

ดี คิดเป็นร้อยละ 83.55

3.5 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนงานประดิษฐ์สร้างสรรค์จากเศษผ้า ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิซึม อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.55

โพสต์โดย dk : [9 ส.ค. 2565 เวลา 10:04 น.]
อ่าน [3518] ไอพี : 1.2.179.97
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,466 ครั้ง
ลมมรสุม โดย นาวาเอกเจริญ เจริญรัชตภาคย์
ลมมรสุม โดย นาวาเอกเจริญ เจริญรัชตภาคย์

เปิดอ่าน 11,950 ครั้ง
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี

เปิดอ่าน 17,746 ครั้ง
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake

เปิดอ่าน 43,079 ครั้ง
"เสียงกู่จากครูใหญ่" หนังสั้นที่ปลุกพลังผู้เสียสละ เพื่อการศึกษา อนาคตของชาติ
"เสียงกู่จากครูใหญ่" หนังสั้นที่ปลุกพลังผู้เสียสละ เพื่อการศึกษา อนาคตของชาติ

เปิดอ่าน 10,251 ครั้ง
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 15,126 ครั้ง
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร

เปิดอ่าน 31,347 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?

เปิดอ่าน 13,309 ครั้ง
มั่งคั่งอย่างไร ... ไม่รู้จบ
มั่งคั่งอย่างไร ... ไม่รู้จบ

เปิดอ่าน 4,520 ครั้ง
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA

เปิดอ่าน 11,616 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยายในการประชุมสัมมนาการรับนักเรียนปีการศึกษา 2556
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยายในการประชุมสัมมนาการรับนักเรียนปีการศึกษา 2556

เปิดอ่าน 5,387 ครั้ง
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 1,783 ครั้ง
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย

เปิดอ่าน 121,331 ครั้ง
ตารางบัญชีเงินเดือนครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.เงินเดือนฯ (ฉบับที่2)พ.ศ.2554
ตารางบัญชีเงินเดือนครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.เงินเดือนฯ (ฉบับที่2)พ.ศ.2554

เปิดอ่าน 16,575 ครั้ง
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ

เปิดอ่าน 8,821 ครั้ง
เดินหน้า ปฏิรูปการศึกษา 2559
เดินหน้า ปฏิรูปการศึกษา 2559

เปิดอ่าน 25,123 ครั้ง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
เปิดอ่าน 14,738 ครั้ง
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เปิดอ่าน 11,389 ครั้ง
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป
เปิดอ่าน 29,545 ครั้ง
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
เปิดอ่าน 13,128 ครั้ง
"ผักติ้ว" ผักพื้นบ้านชาวอีสานที่ไม่ควรมองข้าม
"ผักติ้ว" ผักพื้นบ้านชาวอีสานที่ไม่ควรมองข้าม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ