ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้าง องค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษาเรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หาค่าดัชนี

ประสิทธิผลของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษาเรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ผู้วิจัยดำเนินการสร้างและพัฒนาแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน สังเคราะห์เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวแล้วกำหนดกรอบแนวคิดของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้าง องค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ โดยการกำหนดกรอบโครงร่างการจัดการเรียนรู้มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ กรอบแนวคิดทฤษฎีพื้นฐาน หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลและการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้

จำนวน 9 แผน ใช้เวลา 20 ชั่วโมง แล้วตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน จากการปรับปรุง/แก้ไข/พัฒนาแล้วนำไปทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพกับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านกาแป๊ะฮูลู) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จำนวน 3 ครั้ง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างในการทดลองใช้ครั้งที่ 1 แบบรายบุคคล (Individual Tryout)ครั้งที่ 2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) ครั้งที่ 3 แบบภาคสนาม (Field Tryout) แล้วนำไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านกาแป๊ะฮูลู) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) จำนวน 20 คน มีการจัดกิจกรรมเป็นกลุ่ม เป็นนักเรียนที่คละความสามารถ ขั้นตอนนี้ได้ดำเนินการตามแบบการวิจัยกึ่งทดลองโดยทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 1 กลุ่ม (One – Group Pre – test – Post– test Designs) เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายซึ่งมีแบบแผนการทดลอง และขั้นตอนที่ 3 การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา สุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้หนังสืออ่านเพิ่มเติม และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ประสิทธิภาพ (E1/E2) และค่าที

ผลการวิจัยพบว่า

1. นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมี6 องค์ประกอบ ได้แก่ กรอบแนวคิดทฤษฎีพื้นฐาน หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การวัดและประเมินผล และการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 แผน หนังสืออ่านเพิ่มเติม จำนวน 4 เล่ม ได้แก่ เล่มที่ 1 เรื่อง การเลือกใช้บริการสุขภาพในชีวิตประจำวันเล่มที่ 2 เรื่อง เทคโนโลยีทางสุขภาพและความเจริญ เล่มที่ 3 เรื่อง การช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดและเล่มที่ 4 เรื่อง การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังนี้คือ (1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (2) ขั้นสอน ขั้นที่ 1 : ขั้นกำหนดปัญหา (Define A Problem) ขั้นที่ 2 : ขั้นทำความเข้าใจปัญหา (Identify) ขั้นที่ 3 : ขั้นดำเนินการศึกษาค้นคว้า (Brainstorm Solutions) ขั้นที่ 4 : ขั้นการสังเคราะห์ความรู้(Make And Test The Best Solution) ขั้นที่ 5 : ขั้นสรุปและประเมินค่าของคำตอบ (Evaluate Results) ขั้นที่ 6 : ขั้นนำเสนอและประเมินผลงาน (Share Results) และ (3) ขั้นสรุป

2. ประสิทธิภาพของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้าง องค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 86.81/ 85.63 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้3. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยประสิทธิภาพของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ .5803 คิดเป็นร้อยละ 58.03 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียน คิดเป็นร้อยละ 58.03

5. นักเรียนมีความพึงพอใจหลังได้เรียนรู้ด้วยนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและการสร้างองค์ความรู้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวประกอบการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครู Pik : [8 ส.ค. 2565 เวลา 11:28 น.]
อ่าน [2648] ไอพี : 159.192.99.85
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,639 ครั้ง
ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์
ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์

เปิดอ่าน 20,107 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การพัฒนารูปแบบการนำครูใหม่เข้าสู่งาน ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
(ก.ค.ศ.)การพัฒนารูปแบบการนำครูใหม่เข้าสู่งาน ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 19,618 ครั้ง
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน

เปิดอ่าน 32,171 ครั้ง
ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด
ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด

เปิดอ่าน 86,560 ครั้ง
การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ
การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ

เปิดอ่าน 10,776 ครั้ง
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย

เปิดอ่าน 21,229 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม

เปิดอ่าน 10,504 ครั้ง
คลิปนี้ต้องดูคนเดียว "พนักงานร้านอาหารก็มีแม่"
คลิปนี้ต้องดูคนเดียว "พนักงานร้านอาหารก็มีแม่"

เปิดอ่าน 16,526 ครั้ง
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว

เปิดอ่าน 13,384 ครั้ง
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ

เปิดอ่าน 11,585 ครั้ง
คลิปเทคนิคการลดคาง 2 ชั้น ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง
คลิปเทคนิคการลดคาง 2 ชั้น ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง

เปิดอ่าน 2,539 ครั้ง
ใช้ถุงพลาสติกผิดประเภท…เสี่ยงมะเร็ง
ใช้ถุงพลาสติกผิดประเภท…เสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 43,987 ครั้ง
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้

เปิดอ่าน 20,683 ครั้ง
8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค
8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค

เปิดอ่าน 16,846 ครั้ง
การลำดับรุ่นเครื่องคอมพิวเตอร์
การลำดับรุ่นเครื่องคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 9,873 ครั้ง
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย
เปิดอ่าน 31,653 ครั้ง
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์
เปิดอ่าน 14,560 ครั้ง
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558
เปิดอ่าน 11,959 ครั้ง
ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็นเบาหวาน กินอย่างไรดี
ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็นเบาหวาน กินอย่างไรดี
เปิดอ่าน 37,848 ครั้ง
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ