ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1

การประเมินครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 ในด้าน 1) บริบทของโครงการ 2) ปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ 3)ระบวนการดำเนินงานตามโครงการ 4) ผลผลิตของโครงการพิจารณา รวมถึง ผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายโยงการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมิน คือ ข้าราชการครู จ านวน 11 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 จ านวน 165 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จ านวน 7 คน (ไม่นับรวมผู้อานวยการ โรงเรียนและตัวแทนครูผู้สอน) ผู้ปกครองนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 จ านวน 148 คน รวมจ านวนกลุ่มเป้าหมาย 331 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง มี 2 ชนิดคือ 1) แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จ านวน 3 ฉบับ ฉบับที่ 1 ส าหรับข้าราชการครู ที่มีรายละเอียดสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อโครงการลด เวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง ประเด็นค าถามเกี่ยวกับด้านบริบท ด้านปัจจัยน าเข้า ดา้น กระบวนการ ด้านผลผลิต โดยพิจารณารวมถึง ผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายโยงการ เรียนรู้ ฉบับที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียน วัดทุ่งสว่าง ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 ส าหรับผู้ปกครอง และ กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับที่ 3 เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนในการเข้าร่วมโครงการลดเวลา เรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง ลักษณะของข้อค าถามเป็นแบบมาตราส่วน ประเมินค่า 5 ระดับ (Five Rating Scales) โดยประเมินความเหมาะสมมากที่สุดถึงน้อยที่สุด 2) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ที่มีเนื้อหาครอบคลุมถึงการด าเนินงานตามโครงการ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง ผู้ประเมินเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการประเมินพบว่า 1. ด้านบริบท (Context) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากัน จ านวนสองข้อ คือ รูปแบบในการจัดท าโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เหมาะสมกับสภาพโรงเรียน , การจัดบรรยากาศในการด าเนินงานเหมาะสมและสอดคล้องกับการด าเนิน โครงการ รองลงมามีค่าเฉลี่ยเท่ากัน จ านวนสี่ข้อ คือ หลักการ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ มีความเหมาะสม และสอดคล้องกัน , การก าหนหดเป้าหมายวิธีการด าเนินการและระยะเวลาด าเนินการ

2

มีความเหมาะสมและปฏิบัติจริงได้ , วัตถุประสงค์สอดคล้องกับพันธกิจ และเป้าหมายของโรงเรียน และ ผู้บริหารมีความเข้าใจและส่งเสริมในหลักการและรูปแบบกิจกรรมที่ด าเนินงานตามโครงการ ส่วนข้อที่ค่าเฉลี่ยล าดับสุดท้าย คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนโครงการ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจ บริษัทเอกชน องค์การบริหารส่วนต าบล 2. ด้านปัจจัยน าเข้า (Input) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากัน จ าวนวนหกข้อ คือ มีการก าหนดนโยบายและการวางแผนกิจกรรมได้ อย่างเหมาะสม , ด าเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนและตัวชี้วัดความส าเร็จตามนโยบาย “ลดเวลา เรียน เพิ่มเวลารู้” ด้วย 4H ระดับสถานศึกษาที่ชัดเจนและสามารถน าไปสู่การปฏิบัติได้ , ครูผู้สอนได้จัดท า แผนการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้”ด้วย 4H ที่มี องค์ประกอบครบสมบูรณ์ทั้งวัตถุประสงค์ ของกิจกรรม ขั้นตอน สื่อ แหล่งเรียนรู้และการวัดและการประเมินผล , โรงเรียนมีเอกสารสรุปและรายงาน ผลการด าเนินการ , จัดให้มีการท ารายงานทบทวน หลังการปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) และจัดให้น าผลการทบทวนหลังการปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) และผลการประเมินไปใช้ ในการพัฒนาการบริหารจัดการเวลาเรียนและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อท าให้ผู้เรียน มีคุณภาพสูงขึ้น รองลงมามีค่าเฉลี่ยเท่ากัน จ านวนห้าข้อ คือ มีการตั้งคณะกรรมการด าเนินงาน , การมอบหมายงานมี ความเหมาะสมกับบุคคลากร , มีการด าเนินการนิเทศ ก ากับ ตดิตาม และประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ , ผู้บริหารเป็นผู้นาในการขับเคลื่อนนโยบาย และบริหารจัดการเวลาเรียนในระดับ โรงเรียน และ ผู้บริหาร ท าหน้าที่อ านวยความสะดวกและ สนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ ที่ท าให้นโยบาย ประสบความส าเร็จ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยล าดับสุดท้าย คือ ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจตามนโยบายและ ให้ความร่วมมือกับโรงเรียนในด้านเวลาเรียน 3. ด้านกระบวนการ (Process) พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากัน จ านวนสองข้อ คือ บุคลากรในโรงเรียนได้ท าความเข้าใจนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้วย 4H ได้ถูกต้อง และ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มุ่งให้นักเรียน เกิดกระบวนการเรียนรู้มากกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รองลงมามีค่าเฉลี่ยเท่ากัน จ านวนแปดข้อ คือ มีการด าเนินกิจกรรมที่ท าให้ผู้เรียน สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยเชื่อมโยงความรู้เดิมที่มีอยู่ กับการได้ลงมือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความถนัดและตามความต้องการ , แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความสนใจ มีการกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ไม่เน้นแต่เพียงเนื้อหาความรู้ที่จะสอน เท่านั้น ,) จัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญและบูรณาการกิจกรรมเรียนรู้อย่างหลากหลาย , กิจกรรม เรียนรู้ที่จัดขึ้นส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติอันจะก่อให้เกิดประสบการณ์ตรงกับนักเรียน , กิจกรรม การเรียนที่ท่านจัดขึ้นส่งเสริมทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือการท างานเป็นทีมการเรียนรู้ด้วยตนเองและ/ หรือ ทักษะส าคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง , ท่านได้ออกแบบ สร้างสรรค์กิจกรรมการเรียนรู้จัดสภาพแวดล้อม ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองของผู้เรียนมากกว่าการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เพียงอย่างเดียว , ออกแบบ การจัดกิจกรรม โดยค านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียน และ มีการจัดท ารายงานผลการ เรียนรู้ของนักเรียนเพื่อแจ้งผลการด าเนินกิจกรรม ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ประเมินและพัฒนา นักเรียนเต็มตามศักยภาพของนักเรียนแต่ละคน 4. ด้านผลผลิต (Product) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าข้อที่มี ค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความสามารถของนักเรียนได้รับการพัฒนาและเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ รองลงมามีค่าเฉลี่ย เท่ากันสองข้อ คือ นักเรียนกระตือรือร้นและปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพและขีด ความสามารถของตนเอง , นักเรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบและเลือกกิจกรรมตามความสนใจ

3

ความต้องการและศักยภาพของตนเอง รองลงมา คือ เมื่อนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ แล้วนักเรียนเกิดความรัก ความหวงแหนและอยากจะปฏิบัติกิจกรรมนั้นต่อไป และข้อที่มีค่าเฉลี่ยล าดับ สุดท้าย คือ ในการปฏิบัติกิจกรรม ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้นักเรียนสามารถน าไปเป็น ประโยชน์ หรือ น าไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ 4.1 ด้านผลกระทบ (Impact) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณา รายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ สามารถเชื่อมั่นว่าโรงเรียนสามารถจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ตาม นโยบายได้และจะท าให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นนักเรียนมีความสุขกับการเข้าร่วม กิจกรรม “ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ รองลงมามีค่าเฉลี่ยเทากัน จ านวนสองข้อ คือ ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วม และให้ความร่วมมือกับโรงเรียนในการด าเนินงานตามนโยบายลด เวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ด้วย 4H เช่น การเข้าร่วมประชุม เป็นต้น , ผู้ปกครองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ข้อมูลป้อนกลับเกี่ยวกับการปฏิบัติ กิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้วย 4H กับโรงเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยล าดับสุดท้าย คือ ผู้เรียนมีผลงานที่เป็นรูปธรรมจากโครงการ 4.2 ด้านประสิทธิผล (Effective) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณา รายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ก ากับ ติดตามการจัดกิจกรรมอย่างเป็นระบบ รองลงมา คือ นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนสอนตามโครงการ ส่วนข้อที่มี ค่าเฉลี่ยล าดับสุดท้าย คือ มีการก าหนดตัวชี้วัดภาพความส าเร็จอย่างชัดเจน 4.3 ด้านความยั่งยืน (Sustainability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมจริงและ เกิดผลผลิตจากการปฏิบัติ สามารถเห็นผล เช่น ปลูกผักสวนครัว รองลงมา คือ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการ ประเมินผลงานของตนเอง เช่น กิจกรรมปีหน้าต้องต่อยอดจากกิจกรรมเดิมเนื่องจากเห็นข้อบกพร่องของ ตนเองซึ่งเป็นผลจากการร่วมกิจกรรม ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยล าดับสุดท้าย คือ ผู้เรียนและชุมชนมีส่วนร่วม ในการก าหนดกิจกรรม 4.4 ด้านการถ่ายโยงการเรียนรู้ (Transportability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ เป็นโครงการที่พัฒนาความสามารถด้านการใช้ทักษะ ชีวิตของนักเรียนรองลงมา คือเป็นโครงการที่พัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยล าดับสุดท้าย คือ เป็นโครงการที่สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้พัฒนา ความสามารถด้านการสื่อสารพัฒนาความสามารถด้านการคิดและการพัฒนากรอบความคิดแบบเปิดกว้าง (Growth Mindset) ส่วนด้านความพึงพอใจของนักเรียนพบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณา รายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ได้เรียนอย่างมีความสุข รองลงมา คือ ได้ช่วยเหลือเพื่อน ส่วนข้อที่มี ค่าเฉลี่ยล าดับสุดท้าย คือ ได้เลือกเรียนตามความต้องการ

โพสต์โดย หน่อย : [7 ส.ค. 2565 เวลา 15:55 น.]
อ่าน [3380] ไอพี : 183.88.6.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,680 ครั้ง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 21,973 ครั้ง
วิธีดูแลเล็บให้สวยงามแข็งแรง
วิธีดูแลเล็บให้สวยงามแข็งแรง

เปิดอ่าน 35,695 ครั้ง
ว1/2559 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสพผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ฯ
ว1/2559 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสพผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ฯ

เปิดอ่าน 2,733 ครั้ง
คำขอขมาพระแม่คงคา ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง วันลอยกระทง 2566
คำขอขมาพระแม่คงคา ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง วันลอยกระทง 2566

เปิดอ่าน 13,401 ครั้ง
คลิปน่ารัก 2ขวบดีดกีต้าร์ร้องเพลง "เดอะบีทเทิ้ลส์"
คลิปน่ารัก 2ขวบดีดกีต้าร์ร้องเพลง "เดอะบีทเทิ้ลส์"

เปิดอ่าน 75,839 ครั้ง
กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ
กลอนปีใหม่ SMSปีใหม่ กลอนน่ารักๆ

เปิดอ่าน 48,237 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 18 การเตะจากมุม
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 18 การเตะจากมุม

เปิดอ่าน 14,496 ครั้ง
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร

เปิดอ่าน 32,664 ครั้ง
ประโยชน์ของ e-Learning
ประโยชน์ของ e-Learning

เปิดอ่าน 15,534 ครั้ง
กรมการขนส่งทางบก   เตรียมนําแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่ออกให้บริการประชาชน หลังจากหมวด ฆฮ เริ่มต.ค.
กรมการขนส่งทางบก เตรียมนําแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่ออกให้บริการประชาชน หลังจากหมวด ฆฮ เริ่มต.ค.

เปิดอ่าน 53,125 ครั้ง
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้

เปิดอ่าน 52,327 ครั้ง
หลักเกณฑ์สอบ ผอ.และรอง ผอ.
หลักเกณฑ์สอบ ผอ.และรอง ผอ.

เปิดอ่าน 19,696 ครั้ง
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 15,345 ครั้ง
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 24,080 ครั้ง
การเขียนกราฟ
การเขียนกราฟ

เปิดอ่าน 51 ครั้ง
เดินเร็ว มีประโยชน์ช่วยให้ห่างไกลโรค
เดินเร็ว มีประโยชน์ช่วยให้ห่างไกลโรค
เปิดอ่าน 10,316 ครั้ง
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"
เปิดอ่าน 11,460 ครั้ง
การจัดการความรู้ในโรงเรียน (ศน.ชัด บุญญา)
การจัดการความรู้ในโรงเรียน (ศน.ชัด บุญญา)
เปิดอ่าน 2,959 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
เปิดอ่าน 260,186 ครั้ง
ประวัติเครื่องหมายหาร  (÷)
ประวัติเครื่องหมายหาร (÷)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ