ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model โรงเรียนหนองปรือประชาสรรค์ โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม

ชื่อเรื่อง การพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model

โรงเรียนหนองปรือประชาสรรค์ โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม

ชื่อผู้วิจัย นางสาวพัณณ์ชิตา จันทราภิรมย์

สถานศึกษา โรงเรียนหนองปรือประชาสรรค์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2563-6564

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model โรงเรียนหนองปรือประชาสรรค์ โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา โดยประยุกต์ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กลุ่มผู้เกี่ยวข้องในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหาร ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง ขั้นตอนการวิจัยมี 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 เพื่อศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการของการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ขั้นที่ 2 เพื่อพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model ขั้นที่ 3 เพื่อทดลองใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model รอบที่ 1 ขั้นที่ 4 เพื่อประเมินและการปรับปรุงระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model ในรอบที่ 1 ขั้นที่ 5 เพื่อทดลองใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model รอบที่ 2 และขั้นที่ 6 เพื่อประเมินและปรับปรุงระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model รอบที่ 2 ในการดำเนินการวิจัยผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมใน การดำเนินการทุกขั้นตอน

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพปัญหา และความต้องการของการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ก่อนการพัฒนาการดำเนินงานด้วยระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model พบว่า ครูประจำชั้นได้ดำเนินงานตามขั้นตอนระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนยังไม่ครบทั้ง 5 ขั้นตอน และไม่เป็นระบบ ครูประจำชั้นขาดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและยังขาดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ผู้อำนวยการสถานศึกษามีความประสงค์ให้ครูประจำชั้นทุกคนปฏิบัติภารกิจในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีเป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เรียน โดยมุ่งหวังว่าผู้เรียนจะเติบโตอย่างมีคุณภาพรอบด้าน ทั้งทางด้านสติปัญญา ความสามารถ คุณธรรมจริยธรรม และด้านการดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขในสังคม พร้อมด้วยสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี โดยการดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและความพร้อมของบุคลากรในโรงเรียน อีกทั้งจะต้องประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและหน่วยงานอื่นภายนอก อย่างใกล้ชิด เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานการพัฒนาการดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยการศึกษาแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การพัฒนาระบบ การประเมินเชิงปฏิบัติการ และการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการพัฒนากระบวนการดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและบริบทของโรงเรียน

2. ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า “ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน PSQS PAR Model” พัฒนาโดยการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครูทุกคน นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนประกอบด้วยระบบย่อยซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นวงจร 4 ระบบ ได้แก่ ระบบวางแผน (Plan) ระบบปฏิบัติการ (Act) ระบบตรวจสอบ (Observe) และระบบสะท้อนผล (Reflect)

3. ผลการทดลองใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ในรอบที่ 1 พบว่า ผลการดำเนินงานมีค่าสูงกว่าเกณฑ์เกือบทุกตัวชี้วัด และในการทดลองใช้ระบบในรอบที่ 2 พบว่า ผลการดำเนินงานมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ทุกตัวชี้วัด แสดงว่า ในการทดลองรอบที่ 2 ผลการดำเนินงานของโรงเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายโดยภาพรวมพัฒนามากกว่าการทดลองใช้ระบบในรอบที่ 1

4. ผลการประเมินและปรับปรุงระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในรอบที่ 1 และ 2 แล้วดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่งผลในด้านต่างๆ ดังนี้ 1) ด้านการใช้ประโยชน์ของระบบ ตอบสนองต่อความต้องการใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ซึ่งทำให้เกิดการดูแล ช่วยเหลือ ส่งเสริม พัฒนา ป้องกัน และแก้ไขปัญหานักเรียน 2) ได้รูปแบบกระบวนการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ภายใต้การมีส่วนร่วมของบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สามารถนำไปพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ แล้วรายงานผลการดูแลช่วยเหลือนักเรียนไปยังผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนำผลไปใช้ประโยชน์ 3)ด้านความเป็นไปได้ในการปฏิบัติจริง สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษา สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ครูที่ปรึกษาและผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงเป็นที่ยอมรับของผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน 4) ผลการจัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีความคุ้มค่า 5)ด้านความเหมาะสม สอดคล้องกับการประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน โดยอาศัยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม คำนึงถึงประโยชน์ ของนักเรียนเป็นหลัก ดำเนินการตามระบบฯ ด้วยความรับผิดชอบและมีจรรยาบรรณ 6)ด้านความถูกต้องน่าเชื่อถือ สอดคล้องกับความสำคัญและจำเป็นของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 7)กระบวนการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน แสดงด้วยแผนภาพที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย กำหนดตัวชี้วัดและเครื่องมือที่ใช้สอดคล้องกับกระบวนการดำเนินงานของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 8)เครื่องมือที่ใช้ในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ถูกต้องหลากหลาย และครบถ้วน 9)มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ไว้อย่างชัดเจน 10)ด้านผลที่เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้อง ด้านความพึงพอใจ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงาน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้เรียน ประเมินผู้เรียนในทิศทางเดียวกันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นทั้งด้านนักเรียน ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้ปกครองและชุมชน ด้านการดูแลนักเรียน นักเรียนได้รู้จักตนเอง สามารถปรับตัวมีทักษะทางสังคมและอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข ครูผู้สอน นำผลการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ไปพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ผู้บริหารโรงเรียนนำข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนไปใช้ ในการกำหนดแนวทางในการพัฒนานักเรียน หลักสูตร และคุณภาพการจัดการศึกษา นอกจากนี้ โรงเรียนได้รับการยอมรับการสนับสนุนและการร่วมมือจากผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง

โพสต์โดย ครูอู๊ด : [5 ส.ค. 2565 เวลา 09:07 น.]
อ่าน [2602] ไอพี : 125.25.235.159
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,960 ครั้ง
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"

เปิดอ่าน 12,662 ครั้ง
ชมคลิปฮา! นักเรียนแลกเปลี่ยนเม็กซิกัน พูดความ (จริง) ในใจ ถึงการเรียนในเมืองไทย
ชมคลิปฮา! นักเรียนแลกเปลี่ยนเม็กซิกัน พูดความ (จริง) ในใจ ถึงการเรียนในเมืองไทย

เปิดอ่าน 17,948 ครั้ง
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย

เปิดอ่าน 9,724 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง

เปิดอ่าน 12,135 ครั้ง
หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ
หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ

เปิดอ่าน 74,516 ครั้ง
แบบคำขอให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
แบบคำขอให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 13,417 ครั้ง
วิธีใช้น้ำในห้องน้ำอย่างประหยัด
วิธีใช้น้ำในห้องน้ำอย่างประหยัด

เปิดอ่าน 11,486 ครั้ง
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ

เปิดอ่าน 15,628 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ตะไคร้หอม"
ประโยชน์ของ "ตะไคร้หอม"

เปิดอ่าน 202,439 ครั้ง
ลำดับขั้นในการวิจัย
ลำดับขั้นในการวิจัย

เปิดอ่าน 12,535 ครั้ง
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้

เปิดอ่าน 14,631 ครั้ง
แผ่นดินไหว
แผ่นดินไหว

เปิดอ่าน 14,970 ครั้ง
กล้วยป่า
กล้วยป่า

เปิดอ่าน 19,109 ครั้ง
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา

เปิดอ่าน 23,963 ครั้ง
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ

เปิดอ่าน 13,047 ครั้ง
4 คุณสมบัติหลัก ที่ Netbook ควรมี
4 คุณสมบัติหลัก ที่ Netbook ควรมี
เปิดอ่าน 11,505 ครั้ง
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า
เปิดอ่าน 15,173 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เปิดอ่าน 9,317 ครั้ง
กังนัมสไตล์ ฮิตขนาดน้องหมาเลียนแบบ
กังนัมสไตล์ ฮิตขนาดน้องหมาเลียนแบบ
เปิดอ่าน 36,592 ครั้ง
ทำไมพระเรียกผู้หญิงว่า "สีกา"
ทำไมพระเรียกผู้หญิงว่า "สีกา"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ