|
|
การพัฒนารูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 มีความมุ่งหมายของการวิจัย 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการการส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 และ 4) เพื่อขยายผลการใช้รูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เป็นการวิจัยและพัฒนา โดยดำเนินการเป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการการส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 238 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถาม ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 238 คน กลุ่มเป้าหมายในการสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 7 คน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญในการวิพากษ์และตรวจสอบร่างรูปแบบการนิเทศ จำนวน 21 คน และกุล่มผู้ทรงคุณวุฒิในการตรวจสอบรูปแบบการนิเทศ จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบประเมิน ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มเป้าหมายในการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศ ได้แก่ โรงเรียนกันทรวิชัย โรงเรียนผดุงนารี และโรงเรียนยางวิทยาคม ประกอบด้วย ครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หรือที่ได้รับมอบหมาย และครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ปีการศึกษา 2563 จำนวน 9 คน นักเรียนจำนวน 204 คน และกลุ่มเป้าหมายในการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการนิเทศ จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบทดสอบ แบบประเมินความสามารถในการนิเทศการสอนของครูผู้นิเทศ และครูผู้รับการนิเทศ แบบสอบถามความพึงพอใจของครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศ แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน ผู้ปกครองและนักเรียนและแบบประเมินผลรูปแบบการนิเทศ และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และระยะที่ 4 การขยายผลการใช้รูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หรือที่ได้รับมอบหมาย จำนวน 52 คน และครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่ทำการสอนรายวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 จำนวน 80 คน รวมทั้งหมดจำนวน 132 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 6 สหวิทยาเขต จำนวน 6 โรงเรียน รวมจำนวน 287 คน และผู้ปกครองและชุมชน จำนวน 160 คน
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการการส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 พบว่า โดยรวม สภาพปัจจุบันมีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีปัญหาอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนความต้องการ ต้องการให้มีการส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
2. ผลการพัฒนารูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 พบว่า รูปแบบการนิเทศ มีองค์ประกอบหลัก 6 ประการ คือ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 3 กลไกการดำเนินงาน องค์ประกอบที่ 4 กระบวนการนิเทศ PPDE มี 4 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ขั้นที่ 2 การวางแผนการนิเทศ ขั้นที่ 3 การอบรมให้ความรู้ ขั้นที่ 4 การปฏิบัติการนิเทศ และขั้นที่ 5 การประเมินผลการนิเทศ องค์ประกอบที่ 5 การประเมินรูปแบบ และองค์ประกอบที่ 6 เงื่อนไขความสำเร็จของการนำรูปแบบไปใช้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 พบว่า 1) ครูผู้นิเทศ ครูผู้รับการนิเทศมีความรู้สูงกว่าก่อนได้รับการอบรมพัฒนา 2) ครูผู้นิเทศ ครูผู้รับการนิเทศมีความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้หลังได้รับการนิเทศสูงกว่าก่อนได้รับการนิเทศ และมีความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับดีมาก 3) นักเรียนมีความสามารถในทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และนักเรียนมีความสามารถในทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ อยู่ในระดับดีมาก 6) ความพึงพอใจของครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศที่มีต่อรูปแบบการนิเทศที่ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 7) ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 8) ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนและชุมชนที่มีต่อการนำผลการนิเทศตามกระบวนการนิเทศไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 9) ผลการประเมินผลรูปแบบการนิเทศ โดยรวมอยู่ในระดับความคิดเห็นมากที่สุด
4. ผลการขยายผลการใช้รูปแบบการนิเทศที่ส่งเสริมการสอนทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 พบว่า 1) ความรู้ความเข้าใจของครูผู้นิเทศ ครูผู้รับการนิเทศ กลุ่มขยายผล มีความรู้สูงกว่าก่อนได้รับการอบรมพัฒนา 2) ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้นิเทศ ครูผู้รับการนิเทศ กลุ่มขยายผล หลังได้รับการนิเทศสูงกว่าก่อนได้รับการนิเทศ อยู่ในระดับดีมากทุกด้าน 3) ความสามารถในทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน กลุ่มขยายผล หลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมากทุกด้าน 4) ความพึงพอใจของครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศ ผู้ปกครองนักเรียนและชุมชน กลุ่มขยายผล โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 5) ความคิดเห็นของนักเรียน กลุ่มขยายผลที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 6) ผลการประเมินผลรูปแบบการนิเทศ โดยรวมอยู่ในระดับความคิดเห็นมากที่สุด และ 10) ผลการประเมินผลสำเร็จของการดำเนินงานตามรูปแบบการนิเทศ โดยรวมอยู่ในระดับความคิดเห็นมากที่สุด ซึ่งผลการวิจัยนี้ส่งผลให้นักเรียนมีทักษะหรือความสามารถในทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
|
โพสต์โดย เอมอร : [5 ส.ค. 2565 เวลา 07:29 น.] อ่าน [3643] ไอพี : 61.19.109.141
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 19,912 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,392 ครั้ง
| เปิดอ่าน 78,500 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,445 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,460 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,832 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,025 ครั้ง
| เปิดอ่าน 350,707 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,673 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,238 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,868 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,562 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,247 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,592 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,193 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 22,483 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,297 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,738 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,365 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,668 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|