ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาแ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา (2) พัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติ ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา (4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา และ (5) ขยายผลการพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา

การดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) การวิจัย 1 (Research: R1) เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน (2) การพัฒนา 1 (Development: D1) เป็นการออกแบบและพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) (3) การวิจัย 2 (Research: R2) เป็นการทดลองใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) และ (4) การพัฒนา 2 (Development: D2) เป็นการประเมินผลและขยายผลการใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 โรงเรียนเบ็ตตี้ ดูเมน 2 ช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) และกลุ่มขยายผลเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1/2 โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย (1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 ชุด และแผนการ

จัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 8 แผน (2) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) แบบ Dependent Sample และแบบ Independent Sample

ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน

1.1 สภาพการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา ของครูผู้สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.21, = 0.74) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า สอนโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหา ปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ( = 3.80, = 0.87) รองลงมาคือ ใช้กระบวนการกลุ่มและปฏิสัมพันธ์ในการเรียนรู้ ปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ( = 3.60, = 0.73) และใช้สื่อการเรียนที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม ปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3. 30, = 0.64) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ได้แก่ จัดการเรียนรู้ให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและการเรียนรู้ ปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง ( = 2.90, = 0.70)

1.2 สภาพการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เป็นปัญหาของครูโดยรวมและมีปัญหาในระดับปานกลาง ( = 3.22, = 0.71) สำหรับปัญหา 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) ครูขาดทักษะในการใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ( = 3.50, = 0.81) (2) ครูขาดทักษะในการสอนให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ ( = 3.35, = 0.85) และ (3) ครูขาดการพัฒนาเทคนิคหรือวิธีการสอนแบบใหม่ ๆ ( = 3.10, = 0.62) สำหรับปัญหาที่เกิดจากนักเรียนโดยรวมมีปัญหาในระดับปานกลาง ( = 3.21, = 0.75) โดยมีปัญหา 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) นักเรียนมุ่งความรู้มากกว่าการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ( = 3.55, = 0.74) (2) นักเรียนขาดทักษะในการสังเคราะห์และสร้างองค์ความรู้ ( = 3.40, = 0.80) และ (3) นักเรียนชอบการได้รับคำตอบมากกว่าการสร้างองค์ความรู้ ( = 3.15, = 0.79)

2. ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D)

2.1 ผลการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา โดยการประเมินความเหมาะสมของ ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า ค่าเฉลี่ย 4.57 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.50 อยู่ในเกณฑ์มีความเหมาะสมมากที่สุด

2.2 ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยการทดลองแบบสนาม (1:100) พบว่าชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากการทดสอบแบบเดี่ยว มีประสิทธิภาพ (E1/E2) 82.96/82.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง พบว่า

3.1 ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.58/84.42 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80

3.2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.29 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.61

4. ผลการขยายผลการใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า

4.1 ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายวิชา ส 21102 สังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.35/84.30 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80

4.2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4.3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.28 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.64

4.4 นักเรียนกลุ่มตัวอย่างและกลุ่มขยายผลมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้ ชุดกิจกรรมประกอบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

โพสต์โดย นพ : [4 ส.ค. 2565 เวลา 09:34 น.]
อ่าน [1981] ไอพี : 118.174.219.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 143,658 ครั้ง
อาถรรพณ์"นรกซานติก้า" ที่ดินนี้มีตำนาน..."เลือด"!!!
อาถรรพณ์"นรกซานติก้า" ที่ดินนี้มีตำนาน..."เลือด"!!!

เปิดอ่าน 15,811 ครั้ง
ระวัง! ท่านอาจจะทำร้ายสมองลูกโดยไม่รู้ตัว
ระวัง! ท่านอาจจะทำร้ายสมองลูกโดยไม่รู้ตัว

เปิดอ่าน 7,825 ครั้ง
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 144,011 ครั้ง
8 โรคห้ามรับราชการ
8 โรคห้ามรับราชการ

เปิดอ่าน 2,493 ครั้ง
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์

เปิดอ่าน 10,620 ครั้ง
บุหรี่ “ไม่สูบ” ไม่ได้เหรอ?
บุหรี่ “ไม่สูบ” ไม่ได้เหรอ?

เปิดอ่าน 23,246 ครั้ง
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ

เปิดอ่าน 15,567 ครั้ง
หนอนไหม
หนอนไหม

เปิดอ่าน 61,580 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธี e - market และด้วยวิธี e-bidding
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธี e - market และด้วยวิธี e-bidding

เปิดอ่าน 19,462 ครั้ง
เคล็ดเด็กเก่งวิชา เรขาคณิต-พีชคณิต
เคล็ดเด็กเก่งวิชา เรขาคณิต-พีชคณิต

เปิดอ่าน 18,564 ครั้ง
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก

เปิดอ่าน 6,856 ครั้ง
คู่มือหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.เขต
คู่มือหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.เขต

เปิดอ่าน 12,254 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเหม็น ภายในบ้าน
ขจัดกลิ่นเหม็น ภายในบ้าน

เปิดอ่าน 14,055 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

เปิดอ่าน 7,830 ครั้ง
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
"ฟุตบอล"...สอนอะไร

เปิดอ่าน 19,669 ครั้ง
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม
เปิดอ่าน 191,960 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 60,131 ครั้ง
กฏอัยการศึก ถูกประกาศใช้มาแล้ว 8 ครั้ง ประกาศโดย ผบ.ทบ.และสถานการณ์ใดบ้าง
กฏอัยการศึก ถูกประกาศใช้มาแล้ว 8 ครั้ง ประกาศโดย ผบ.ทบ.และสถานการณ์ใดบ้าง
เปิดอ่าน 10,891 ครั้ง
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์
เปิดอ่าน 10,696 ครั้ง
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ