ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

งานวิจัยในชั้นเรียน

ชื่อเรื่อง การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้สู่งานอาชีพโดยใช้โครงงานเป็นฐานเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการงานอาชีพ

กลุ่มสาระ การงานอาชีพ

ผู้วิจัย ณัฐภัทร สุภารัตน์ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย

โรงเรียน โรงเรียนเขื่องในพิทยาคาร อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ

1. แนวคิดความเป็นมา

หลักสูตรแกนกลางศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ ที่มีความสมดุลทั้งร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในการเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการ ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติ ที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐาน ความเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียน ได้คิด ค้นคว้าหาความรู้และลงมือปฏิบัติหรือกระทำจริงทุกขั้นตอน จนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง การพัฒนาครู เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาครูให้มี ความรู้ความสามารถในการวางแผนจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และเป็นคนที่อยู่ในสังคมได้ อย่างมีความสุข การจัดการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญมีหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้ แบบโครงงาน เป็นการจัดการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงในลักษณะการวิจัย สำรวจ ทดลอง ประดิษฐ์คิดค้น โดยมีครูเป็นผู้คอยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ดังนั้น การเรียนรู้ แบบโครงงานจึงเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างห้องเรียนกับโลกภายนอกที่จะช่วยให้นักเรียนได้นำความรู้ ในชั้นเรียนไปบูรณาการกับกิจกรรมที่จะกระทำเพื่อนำไปสู่ความรู้ใหม่ ๆ ด้วยการสร้างความหมาย การแก้ปัญหาและการค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น การสอบแบบโครงงานจึงเป็นการสอนที่ให้นักเรียน ได้รู้จักวิธีทำโครงงานวิจัยเล็กๆ (Mini Research) ที่นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติเพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะและ การสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ จุดประสงค์หลักของการสอนแบบโครงงาน เพื่อต้องการกระตุ้นให้นักเรียน รู้จักสังเกต รู้จักตั้งคำถาม รู้จักตั้งสมมุติฐาน รู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเองเพื่อหาคำตอบที่ตนอยากรู้ รู้จักสรุป และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ค้นพบ (สุพล วังสิทธ์. 2543 : 11)

2. วัตถุประสงค์

1. เพื่อยกระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ในรายวิชาการงานอาชีพของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียนเขื่องในพิทยาคารให้สูงขึ้น

2. เพื่อการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียน

เขื่องในพิทยาคาร โดยใช้การเรียนรู้แบบโครงงาน

3. เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของอาชีพสุจริตและเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต

3. แนวคิด ทฤษฎีที่ใช้

กระบวนการจัดการเรียนรู้สู่งานอาชีพโดยใช้โครงงานเป็นฐาน ใช้หลักการตามแนวคิดของ John Dewey, Kemmis และ MC Taggart (Kemmis and MC Taggart, 1988 : 11-15) และเป็นการเรียนรู้ที่ เชื่อมโยงหลักการพัฒนาการคิดของบลูม (Bloom) ทั้ง 6 ขั้น กล่าวคือ

- ความรู้ความจำ (Knowledge)

- ความเข้าใจ (Compare hension)

- การนำไปใช้ (Application)

- การวิเคราะห์ (Analysis)

- การสังเคราะห์ (Synthesis)

- การประเมินค่า (Evaluation)

และยังเป็นกระบวนการเรียนรู้ตั้งแต่การวางแผนการเรียนรู้ การออกแบบการเรียนรู้ การสร้างสรรค์

ประยุกต์ใช้ผลผลิต และการประเมินผลงานโดยมีผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้จัดการเรียนรู้มาใช้ในการจัดการเรียน การสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้โครงงาน ได้ดำเนินการ 2 วงรอบ ในแต่ละวงรอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้

1) ขั้นการวางแผน (Planning)

2) ขั้นปฏิบัติงาน (Action)

3) ขั้นการสังเกต (Observation)

4) ขั้นการสะท้อนผล (Reflection) (สุวิมล ว่องวานิช. 2544 : 13)

4. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การปรับประยุกต์ ดัดแปลง

คิดค้นกระบวนการจัดการเรียนรู้สู่งานอาชีพโดยใช้โครงงานเป็นฐาน เป็นการออกแบบกระบวนการ จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเข้ากับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ คิดริเริ่มสร้างสรรค์ และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงหลักการพัฒนาการคิดของ บลูม (Bloom) ทั้ง 6 ขั้น

- ความรู้ความจำ (Knowledge)

- ความเข้าใจ (Comprehension)

- การนำไปใช้ (Application)

- การวิเคราะห์ (Analysis)

- การสังเคราะห์ (Synthesis)

- การประเมินค่า (Evaluation)

โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน ดังนี้

1) ขั้นการวางแผน (Planning)

2) ขั้นปฏิบัติงาน (Action)

3) ขั้นการสังเกต (Observation)

4) ขั้นการสะท้อนผล (Reflection)

กรอบการจัดการเรียนรู้สู่งานอาชีพโดยใช้โครงงานเป็นฐาน

5.กระบวนการพัฒนา/ขั้นตอน

5.1 ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2/1 , 2/2 , 2/8 และ 2/12 โรงเรียนเขื่องในพิทยาคาร

ปีการศึกษา 2564 จำนวน 120 คน

5.2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2/8 โรงเรียนเขื่องในพิทยาคาร

ปีการศึกษา 2564 จำนวน 33 คน

5.3 ตัวแปรที่ศึกษา

5.3.1 ตัวแปรต้น คือ กระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน

5.3.2 ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

5.3.3 แนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต

5.4 ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565

5.5 กรอบเนื้อหาการพัฒนานักเรียน

5.5.1 ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบ ประเภทของโครงงาน

5.5.2 ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน

5.6 กลยุทธ์การพัฒนา การศึกษาครั้งนี้ได้จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนานักเรียนในการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรม โครงงาน โดยมีกลยุทธ์ดำเนินการดังนี้

5.6.1 การศึกษาเอกสาร การพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน

5.6.2 การศึกษาดูงานโรงเรียนต้นแบบจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน

5.6.3 การปฏิบัติการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน

5.6.4 การแลกเปลี่ยนความรู้

5.7 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

5.7.1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

5.7.2 แบบทดอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์

5.7.3 แบบสอบถาม

5.8 วิธีวิจัย

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) โดยใช้หลักการตามแนวคิดของ John Dewey, Kemmis และ MC Taggart (Kemmis and MC Taggart, 1988 : 11-15) และเป็นการเรียนรู้ที่ เชื่อมโยงหลักการพัฒนาการคิดของบลูม (Bloom) ทั้ง 6 ขั้น เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้โครงงาน ได้ดำเนินการ 2 วงรอบ ในแต่ละวงรอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นการวางแผน (Planning) 2) ขั้นปฏิบัติงาน (Action) 3) ขั้นการสังเกต (Observation) 4) ขั้นการสะท้อนผล (Reflection) (สุวิมล ว่องวานิช. 2544 : 13)

5.9 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 6. ผลการดำเนินงาน

1. ผู้เรียนร้อยละ 93.26 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการงานอาชีพ สูงขึ้น

2. ผู้เรียนมีพัฒนาด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์สูงขึ้นเมื่อใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ โครงงาน

3. ผู้เรียนเห็นคุณค่าของอาชีพสุจริตและเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคตอยู่ในระดับดีมาก

7. การเผยแพร่ผลงาน

7.1 จัดนิทรรศการนำเสนอผลงาน

7.2 รูปเล่มรายงาน

โพสต์โดย เก่ง : [30 ก.ค. 2565 เวลา 12:04 น.]
อ่าน [3710] ไอพี : 49.230.178.100
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 293,478 ครั้ง
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่

เปิดอ่าน 9,846 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทยเปิดศักราช งานแสตมป์เอเชีย 2010
ไปรษณีย์ไทยเปิดศักราช งานแสตมป์เอเชีย 2010

เปิดอ่าน 42,528 ครั้ง
วิจัยและสถิติ
วิจัยและสถิติ

เปิดอ่าน 41,362 ครั้ง
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?

เปิดอ่าน 11,030 ครั้ง
แนะนำแอพลิเคชัน escivocab : พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สสวท.
แนะนำแอพลิเคชัน escivocab : พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สสวท.

เปิดอ่าน 24,991 ครั้ง
12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0
12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0

เปิดอ่าน 23,499 ครั้ง
จุดที่เย็นที่สุดในโลก
จุดที่เย็นที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 30,023 ครั้ง
การยอมรับนวัตกรรมและเทคโนโลยี
การยอมรับนวัตกรรมและเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 19,649 ครั้ง
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา

เปิดอ่าน 10,214 ครั้ง
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด

เปิดอ่าน 9,471 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 11,918 ครั้ง
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ

เปิดอ่าน 8,962 ครั้ง
How to งานถูกจิต เงินเดือน ถูกใจ
How to งานถูกจิต เงินเดือน ถูกใจ

เปิดอ่าน 30,049 ครั้ง
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา

เปิดอ่าน 313 ครั้ง
วิธีการลงทุนทองคำสำหรับมือใหม่: เริ่มต้นอย่างไรให้ปลอดภัย
วิธีการลงทุนทองคำสำหรับมือใหม่: เริ่มต้นอย่างไรให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 10,483 ครั้ง
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 14,275 ครั้ง
ลายมือมีพลัง
ลายมือมีพลัง
เปิดอ่าน 20,457 ครั้ง
ยูทูป ห้องเรียนใหม่ พลังการเรียนรู้ ที่ไม่รู้จบ
ยูทูป ห้องเรียนใหม่ พลังการเรียนรู้ ที่ไม่รู้จบ
เปิดอ่าน 22,493 ครั้ง
ขยันอย่างไร?...จึงจะประสบความสำเร็จ
ขยันอย่างไร?...จึงจะประสบความสำเร็จ
เปิดอ่าน 177,191 ครั้ง
หลักการออกแบบของ ADDIE model
หลักการออกแบบของ ADDIE model

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ