บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของงานวิจัย
ในวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การคิดคำนวณ ได้แก่ การบวก การลบ การคูณ และการหาร ถ้านักเรียนมีทักษะการคิดคำนวณที่ไม่ดี การเรียนคณิตศาสตร์ให้ดีได้นั้นก็จะทำได้ยาก จากการได้ทดสอบนักเรียนรุ่นที่ผ่านๆ มา ได้พบปัญหา คือ นักเรียนมีทักษะการคูณเลข และ หารเลขที่ไม่ดี โดยส่วนมากจะคูณผิดและหารผิด หรือบางคนทำได้แต่ทำได้ช้ามาก จึงทำการสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับปัญหานี้ ปรากฏว่า นักเรียนส่วนน้อยไม่เข้าใจในวิธีการคิด แต่ส่วนมากทำไม่ได้เพราะ ท่องสูตรคูณไม่ได้ หรือท่องได้แต่ท่องได้ช้ามาก จึงทำให้เกิดความคิดที่จะแก้ปัญหาในเรื่องการท่องสูตรคูณนี้ นอกจากนักเรียนจะต้องใช้การท่องสูตรคูณในการคิดคำนวณแล้ว นักเรียนยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ในงานวิจัยชิ้นนี้จะศึกษาวิจัยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 22 คน
ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้พยายามหาแนวทางที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถท่องสูตรคูณได้ และสามารถนำไปใช้ในการเรียน และชีวิตประจำวันได้
จุดมุ่งหมาย
1. ให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญ และประโยชน์ของการท่องสูตรคูณ
2. นักเรียนสามารถท่องสูตรคูณได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว
3. นักเรียนสามารถนำไปใช้ในการเรียน และชีวิตประจำวันได้
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 22 คน
ตัวแปรตาม
1. การท่องสูตรคูณ
2. ผลการทดสอบท่องสูตรคูณปากเปล่า และคะแนนจากการคิดเลขเร็วที่สร้างขึ้น
กรอบแนวคิดในการวิจัย
รูปแสดงกรอบแนวคิดในการวิจัย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้
1. นักเรียนสามารถท่องสูตรคูณได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว
2. นักเรียนสามารถนำไปใช้ในการเรียน และชีวิตประจำวันได้
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยอ้างอิง
งานวิจัยที่ใช้อ้างอิงไม่สามารถหาได้
บทที่ 3
วิธีดำเนินการวิจัย
ขอบเขตของการวิจัย
1. ประชากร คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านสะแร จำนวน 22 คน
2. เนื้อหาที่ใช้ในการทำวิจัย ได้แก่ บทท่องสูตรคูณ และแบบคิดเลขเร็วสูตรคูณ
วิธีดำเนินการวิจัย
ระยะเวลาในการดำเนินงาน
20 พฤษภาคม 2565 20 สิงหาคม 2565
ตารางดำเนินการวิจัย
วัน/เดือน/ปี กิจกรรม/ขั้นตอนการดำเนินงาน หมายเหตุ
20 พ.ค. 65 วางแผนการทำวิจัย และแบบคิดเลขเร็วสูตรคูณ
23-25 พ.ค. 65 ทดสอบการท่องสูตรคูณของนักเรียนโดยวิธีท่องปากเปล่า
และคัดเลือกตัวแทนในการรับท่องสูตรคูณของแต่ละห้องๆละ
6 คน บันทึกผลการท่องสูตรคูณ
26-27 พ.ค. 65 ดำเนินการทดสอบการท่องสูตรคูณทุกวัน และคิดเลขเร็วสูตรคูณทุกวัน
1 มิ.ย.6522 ส.ค.65 ตัวแทนรับท่องสูตรคูณจะรับท่องสูตรคูณในกลุ่มของตน โดยทำการเช็คในตารางที่เตรียมไว้ให้ และกำหนดว่าใน 1 สัปดาห์ ต้องท่องตั้งแต่ แม่2 แม่ 12 ให้ครบ และคิดเลขเร็วทุกวันโดยการจับเวลา ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์
10 มิ.ย.6520 ก.ย.65 ทุกต้นสัปดาห์ในคาบแรกของแต่ละห้องตัวแทนจะต้องส่งใบเช็คการท่องสูตรคูณกับผู้วิจัย และรับใบเช็คใบใหม่ของสัปดาห์นั้น ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์
3 ก.ย.-13 ก.ย. 65 รวบรวมคะแนนการคิดเลขเร็ว สูตรคูณ
23 - 27 ก.ย. 65 ให้นักเรียนทดสอบกับเกมการศึกษาที่สร้างขึ้น บันทึกคะแนน
1-4 มี.ค. 65 รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
5-7 มี.ค. 65 สรุปผลการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1. บทท่องสูตรคูณ
2. ตารางบันทึกการท่องสูตรคูณ
3. แบบคิดเลขเร็วสูตรคูณที่สร้างขึ้น
บทที่ 4
ผลการวิจัย
สถิติที่ใช้ในการวิจัย
1. การหาค่าเฉลี่ย
2. การหาค่าร้อยละ
การวิเคราะห์ข้อมูล
จากการศึกษาวิจัยในชั้นเรียนได้ศึกษากลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านสะแรจำนวน 22 คน มีนักเรียนที่ขาดเรียนและไม่ได้ทดสอบแบบคิดเลขเร็วสูตรคูณ จำนวน 6 คน ผู้วิจัยได้ทำการทดสอบก่อนการวิจัยโดยการท่องสูตรคูณปากเปล่าของนักเรียน และเลือกนักเรียนห้องละ 6 คน เป็นตัวแทนรับท่องสูตรคูณ แล้วแบ่งกลุ่มนักเรียนที่เหลือให้กับตัวแทน และให้นักเรียนฝึกท่องสูตรคูณกับตัวแทนที่ถูกคัดเลือก โดยกำหนดว่า ในเวลา 1 สัปดาห์นักเรียนต้องท่องให้ครบตั้งแต่ แม่ 2 แม่ 12 ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์ จนกระทั่งถึงเวลาที่กำหนดไว้ นักเรียนทุกคนต้องทำการทดสอบหลังการวิจัยกับเกมการศึกษาที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยเกมนี้จะเล่นเกมละ 10 ข้อ โจทย์ที่ปรากฏขึ้นจะอยู่ในบทสูตรคูณ แม่เท่านั้นคือ แม่2 แม่12 ในการทำแต่ละข้อ จะมีการจับเวลาโดยจะให้เวลาข้อละ 10 วินาที ถ้าตอบผิด ก็ถือว่าผิด ถ้าทำไม่ทัน หมดเวลา ก็ถือว่าผิดเช่นกัน ใน 1 เกม ถ้าคะแนนตอบผิดรวมกับคะแนนหมดเวลาเท่ากับ 3 คะแนน เกมจะจบทั้งที นั่นถือว่านักเรียนสอบไม่ผ่าน จากการทดสอบสามารถวิเคราะห์ผลได้ดังนี้