ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
วิจัยเรื่องการพัฒนาทักษะการท่องสูตรคูณนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสะแร โดย นางอรทัย เปนนาม

บทที่ 1

บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของงานวิจัย

ในวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การคิดคำนวณ ได้แก่ การบวก การลบ การคูณ และการหาร ถ้านักเรียนมีทักษะการคิดคำนวณที่ไม่ดี การเรียนคณิตศาสตร์ให้ดีได้นั้นก็จะทำได้ยาก จากการได้ทดสอบนักเรียนรุ่นที่ผ่านๆ มา ได้พบปัญหา คือ นักเรียนมีทักษะการคูณเลข และ หารเลขที่ไม่ดี โดยส่วนมากจะคูณผิดและหารผิด หรือบางคนทำได้แต่ทำได้ช้ามาก จึงทำการสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับปัญหานี้ ปรากฏว่า นักเรียนส่วนน้อยไม่เข้าใจในวิธีการคิด แต่ส่วนมากทำไม่ได้เพราะ ท่องสูตรคูณไม่ได้ หรือท่องได้แต่ท่องได้ช้ามาก จึงทำให้เกิดความคิดที่จะแก้ปัญหาในเรื่องการท่องสูตรคูณนี้ นอกจากนักเรียนจะต้องใช้การท่องสูตรคูณในการคิดคำนวณแล้ว นักเรียนยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ในงานวิจัยชิ้นนี้จะศึกษาวิจัยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 22 คน

ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้พยายามหาแนวทางที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถท่องสูตรคูณได้ และสามารถนำไปใช้ในการเรียน และชีวิตประจำวันได้

จุดมุ่งหมาย

1. ให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญ และประโยชน์ของการท่องสูตรคูณ

2. นักเรียนสามารถท่องสูตรคูณได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว

3. นักเรียนสามารถนำไปใช้ในการเรียน และชีวิตประจำวันได้

ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรต้น

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 22 คน

ตัวแปรตาม

1. การท่องสูตรคูณ

2. ผลการทดสอบท่องสูตรคูณปากเปล่า และคะแนนจากการคิดเลขเร็วที่สร้างขึ้น

กรอบแนวคิดในการวิจัย

รูปแสดงกรอบแนวคิดในการวิจัย

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้

1. นักเรียนสามารถท่องสูตรคูณได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว

2. นักเรียนสามารถนำไปใช้ในการเรียน และชีวิตประจำวันได้

บทที่ 2

เอกสารและงานวิจัยอ้างอิง

งานวิจัยที่ใช้อ้างอิงไม่สามารถหาได้

บทที่ 3

วิธีดำเนินการวิจัย

ขอบเขตของการวิจัย

1. ประชากร คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านสะแร จำนวน 22 คน

2. เนื้อหาที่ใช้ในการทำวิจัย ได้แก่ บทท่องสูตรคูณ และแบบคิดเลขเร็วสูตรคูณ

วิธีดำเนินการวิจัย

ระยะเวลาในการดำเนินงาน

20 พฤษภาคม 2565 – 20 สิงหาคม 2565

ตารางดำเนินการวิจัย

วัน/เดือน/ปี กิจกรรม/ขั้นตอนการดำเนินงาน หมายเหตุ

20 พ.ค. 65 วางแผนการทำวิจัย และแบบคิดเลขเร็วสูตรคูณ

23-25 พ.ค. 65 ทดสอบการท่องสูตรคูณของนักเรียนโดยวิธีท่องปากเปล่า

และคัดเลือกตัวแทนในการรับท่องสูตรคูณของแต่ละห้องๆละ

6 คน บันทึกผลการท่องสูตรคูณ

26-27 พ.ค. 65 ดำเนินการทดสอบการท่องสูตรคูณทุกวัน และคิดเลขเร็วสูตรคูณทุกวัน

1 มิ.ย.65–22 ส.ค.65 ตัวแทนรับท่องสูตรคูณจะรับท่องสูตรคูณในกลุ่มของตน โดยทำการเช็คในตารางที่เตรียมไว้ให้ และกำหนดว่าใน 1 สัปดาห์ ต้องท่องตั้งแต่ แม่2 –แม่ 12 ให้ครบ และคิดเลขเร็วทุกวันโดยการจับเวลา ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์

10 มิ.ย.65–20 ก.ย.65 ทุกต้นสัปดาห์ในคาบแรกของแต่ละห้องตัวแทนจะต้องส่งใบเช็คการท่องสูตรคูณกับผู้วิจัย และรับใบเช็คใบใหม่ของสัปดาห์นั้น ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์

3 ก.ย.-13 ก.ย. 65 รวบรวมคะแนนการคิดเลขเร็ว สูตรคูณ

23 - 27 ก.ย. 65 ให้นักเรียนทดสอบกับเกมการศึกษาที่สร้างขึ้น บันทึกคะแนน

1-4 มี.ค. 65 รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

5-7 มี.ค. 65 สรุปผลการวิจัย

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1. บทท่องสูตรคูณ

2. ตารางบันทึกการท่องสูตรคูณ

3. แบบคิดเลขเร็วสูตรคูณที่สร้างขึ้น

บทที่ 4

ผลการวิจัย

สถิติที่ใช้ในการวิจัย

1. การหาค่าเฉลี่ย

2. การหาค่าร้อยละ

การวิเคราะห์ข้อมูล

จากการศึกษาวิจัยในชั้นเรียนได้ศึกษากลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านสะแรจำนวน 22 คน มีนักเรียนที่ขาดเรียนและไม่ได้ทดสอบแบบคิดเลขเร็วสูตรคูณ จำนวน 6 คน ผู้วิจัยได้ทำการทดสอบก่อนการวิจัยโดยการท่องสูตรคูณปากเปล่าของนักเรียน และเลือกนักเรียนห้องละ 6 คน เป็นตัวแทนรับท่องสูตรคูณ แล้วแบ่งกลุ่มนักเรียนที่เหลือให้กับตัวแทน และให้นักเรียนฝึกท่องสูตรคูณกับตัวแทนที่ถูกคัดเลือก โดยกำหนดว่า ในเวลา 1 สัปดาห์นักเรียนต้องท่องให้ครบตั้งแต่ แม่ 2 – แม่ 12 ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์ จนกระทั่งถึงเวลาที่กำหนดไว้ นักเรียนทุกคนต้องทำการทดสอบหลังการวิจัยกับเกมการศึกษาที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยเกมนี้จะเล่นเกมละ 10 ข้อ โจทย์ที่ปรากฏขึ้นจะอยู่ในบทสูตรคูณ แม่เท่านั้นคือ แม่2 – แม่12 ในการทำแต่ละข้อ จะมีการจับเวลาโดยจะให้เวลาข้อละ 10 วินาที ถ้าตอบผิด ก็ถือว่าผิด ถ้าทำไม่ทัน หมดเวลา ก็ถือว่าผิดเช่นกัน ใน 1 เกม ถ้าคะแนนตอบผิดรวมกับคะแนนหมดเวลาเท่ากับ 3 คะแนน เกมจะจบทั้งที นั่นถือว่านักเรียนสอบไม่ผ่าน จากการทดสอบสามารถวิเคราะห์ผลได้ดังนี้

โพสต์โดย Aon : [29 ก.ค. 2565 เวลา 10:20 น.]
อ่าน [5637] ไอพี : 182.232.83.127
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,843 ครั้ง
3 จุดหมายยอดฮิตที่คนไทยต้องทำประกันเดินทางก่อนไปเที่ยว
3 จุดหมายยอดฮิตที่คนไทยต้องทำประกันเดินทางก่อนไปเที่ยว

เปิดอ่าน 13,929 ครั้ง
ดีท็อกซ์ร่างกาย ล้างพิษสมอง ชำระขยะใจ รับ "สุขมหาศาล" ทั้งปี 2556
ดีท็อกซ์ร่างกาย ล้างพิษสมอง ชำระขยะใจ รับ "สุขมหาศาล" ทั้งปี 2556

เปิดอ่าน 43,546 ครั้ง
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?

เปิดอ่าน 27,905 ครั้ง
ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง
ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 24,171 ครั้ง
เยือนประเทศลาว เข้าเมืองเวียงจันทน์ สัมผัสวัฒนธรรมใกล้แหล่งที่พักเวียงจันทน์สุดชิล
เยือนประเทศลาว เข้าเมืองเวียงจันทน์ สัมผัสวัฒนธรรมใกล้แหล่งที่พักเวียงจันทน์สุดชิล

เปิดอ่าน 43,013 ครั้ง
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI  สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้

เปิดอ่าน 13,128 ครั้ง
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ

เปิดอ่าน 21,807 ครั้ง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง

เปิดอ่าน 304,622 ครั้ง
แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word
แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word

เปิดอ่าน 15,944 ครั้ง
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

เปิดอ่าน 83,894 ครั้ง
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 12,496 ครั้ง
6 วิธีแก้เครียด
6 วิธีแก้เครียด

เปิดอ่าน 13,057 ครั้ง
สีเสื้อผ้าเสริมดวงประจำวัน
สีเสื้อผ้าเสริมดวงประจำวัน

เปิดอ่าน 9,786 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่2
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่2

เปิดอ่าน 32,200 ครั้ง
วัฏจักรของเทคโนโลยี
วัฏจักรของเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 17,502 ครั้ง
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake
เปิดอ่าน 39,238 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)
เปิดอ่าน 17,425 ครั้ง
เตือนภัย ระวังไวรัสบน Facebook กำลังระบาด
เตือนภัย ระวังไวรัสบน Facebook กำลังระบาด
เปิดอ่าน 7,967 ครั้ง
แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
เปิดอ่าน 8,136 ครั้ง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ