ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก

ผู้วิจัย วธัญญา เตชะศรี

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก

ปีที่รายงาน 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม 2) สร้างรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม และ 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูโรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก แบบประเมินการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม แบบสอบถามความพึงพอใจ เก็บรวบรวบข้อมูลโดยการวิเคราะห์เอกสารสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญประเมินการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม และสอบถามความพึงพอใจของครู การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม พบว่า งานวิชาการเป็นภารกิจหลักของสถานศึกษา ประกอบด้วย 1) การพัฒนาหลักสูตร 2) การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 3) การวัดผลประเมินผล 4)การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา 5) การพัฒนาสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา 6) การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ 7) การนิเทศการศึกษา 8) การแนะแนวการศึกษา 9) การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 10) การส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการ 2) กระบวนการบริหารงานวิชาการ มี 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย (1) การวางแผน (2) การดำเนินงาน และ (3) การประเมินผล การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ประกอบไปด้วย 1) การวางแผนกลยุทธ์ขององค์การ 2) การกำหนดตัวบ่งชี้วัดผลการดำเนินงาน 3) การวัดและการตรวจสอบผลการดำเนินงาน และ 4) การให้รางวัลตอบแทน และขั้นตอนการสร้างทีมงานต้องประกอบไปด้วย 1) การรับรู้ ค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้น 2) การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 3) การวินิจฉัยข้อมูล 4) การวางแผนแก้ปัญหา 5) การนำแผนไปปฏิบัติ และ 6) การติดตามประเมินผล

2. รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก 5 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 ชื่อของรูปแบบ รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก องค์ประกอบที่ 2 หลักการของรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ โดยการมีส่วนร่วมของครู องค์ประกอบที่ 3 วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงาน เป็นทีมโรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก องค์ประกอบที่ 4 วิธีดำเนินการของรูปแบบ ประกอบด้วยองค์ประกอบ 8 ขั้นตอนได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดตัวบ่งชี้วัดผลการดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 2 ขั้นการวางแผน ขั้นตอนที่ 3 ขั้นการดำเนินการ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นการพัฒนาโดยการให้ความรู้ ขั้นตอนที่ 5 ขั้นการออกแบบและพัฒนากิจกรรม ขั้นตอนที่ 6 ขั้นการส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพ ขั้นตอนที่ 7 ขั้นประเมินผล ขั้นตอนที่ 8 การให้รางวัลตอบแทน ผ่านกระบวนการ H : Heart ใจแลกใจ I : Inside-out blasting ระเบิดจากข้างใน N : Networking เครือข่าย T : TEAM ทำงานเป็นทีม O : Opportunities โอกาส K : Knowledge มีการบริหารความรู้ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือเรียกว่า HINTOK MODEL องค์ประกอบที่ 5 แนวทางการประเมินผล ได้แก่ ประเมินการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก และการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก และผลการประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และมีประโยชน์ ของรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก จากการประเมินการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีมของครู พบว่าก่อนและหลังทดลองใช้แตกต่างกัน

4. ผลการประเมินและปรับปรุงการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก พบว่าครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยยึดหลักการทำงานเป็นทีม โรงเรียนสาธิตเทศบาลตำบลหินตก โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ควีน : [26 ก.ค. 2565 เวลา 11:00 น.]
อ่าน [3745] ไอพี : 118.175.244.69
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,532 ครั้ง
เข้าใจธรรมชาติของเด็ก มิติใหม่ครูไทยยุคดิจิตอล
เข้าใจธรรมชาติของเด็ก มิติใหม่ครูไทยยุคดิจิตอล

เปิดอ่าน 16,366 ครั้ง
เฮ ! ปรับลดค่าไฟลงอีก 1.05 สตางค์/หน่วย เริ่มพฤศจิกายนนี้
เฮ ! ปรับลดค่าไฟลงอีก 1.05 สตางค์/หน่วย เริ่มพฤศจิกายนนี้

เปิดอ่าน 15,783 ครั้ง
สูตรดีท็อกซ์ทำเองได้! ง่าย ๆ แค่ 7 วัน
สูตรดีท็อกซ์ทำเองได้! ง่าย ๆ แค่ 7 วัน

เปิดอ่าน 43,273 ครั้ง
ปากเหี่ยวเป็นรอยย่น แก้ไขอย่างไรดีนะ
ปากเหี่ยวเป็นรอยย่น แก้ไขอย่างไรดีนะ

เปิดอ่าน 24,679 ครั้ง
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว

เปิดอ่าน 3,400 ครั้ง
"ไซยาไนด์" คืออะไร อันตรายแค่ไหน
"ไซยาไนด์" คืออะไร อันตรายแค่ไหน

เปิดอ่าน 15,706 ครั้ง
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า

เปิดอ่าน 10,320 ครั้ง
ลดการสอบเพื่ออะไร ?
ลดการสอบเพื่ออะไร ?

เปิดอ่าน 8,758 ครั้ง
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง

เปิดอ่าน 11,689 ครั้ง
"พระโค"เสี่ยงทายกินหญ้าน้ำท่า-อาหารบริบูรณ์
"พระโค"เสี่ยงทายกินหญ้าน้ำท่า-อาหารบริบูรณ์

เปิดอ่าน 17,755 ครั้ง
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1

เปิดอ่าน 10,567 ครั้ง
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน

เปิดอ่าน 16,742 ครั้ง
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 15,661 ครั้ง
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์

เปิดอ่าน 16,017 ครั้ง
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.

เปิดอ่าน 12,852 ครั้ง
ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์
ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์
เปิดอ่าน 10,214 ครั้ง
แนวปฏิบัติการจัดทำสัญญาค้ำประกันที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนชำระของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ใหม่
แนวปฏิบัติการจัดทำสัญญาค้ำประกันที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนชำระของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ใหม่
เปิดอ่าน 14,396 ครั้ง
นี่คือ 5 เหตุผล ทำไมผู้ใหญ่เล่นโซเชียล แล้วอันตรายกว่าวัยรุ่น
นี่คือ 5 เหตุผล ทำไมผู้ใหญ่เล่นโซเชียล แล้วอันตรายกว่าวัยรุ่น
เปิดอ่าน 18,129 ครั้ง
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต
เปิดอ่าน 11,003 ครั้ง
ปริญญาโทกับคนทำงาน ….สำคัญจริงหรือ?
ปริญญาโทกับคนทำงาน ….สำคัญจริงหรือ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ