ชื่อเรื่อง การมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านหนองไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1
ผู้วิจัย นภัสวรรณ คูหาทอง
ปีการศึกษา 2565
บทคัดย่อ
การมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านหนองไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) การมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านหนองไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1 2) แนวทางการพัฒนาในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในการจัดการศึกษาของโรงเรียนบ้านหนองไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1 เป็นการประเมินโครงการแบบพรรณนา(Describe) โดยใช้แนวคิดของ โคเฮน (Cohen) และอัฟฮอฟ (Uphoff) และประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครู จำนวน 10 คน ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองไผ่ จำนวน 42 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน รวม 61 คน สำหรับเครื่องมือเป็นแบบสอบถามจำนวน 2 ฉบับ โดยแบบสอบถามแต่ละฉบับแบ่งออกเป็น 2 ตอน แบบสอบถามฉบับที่ 1 เป็นแบบสอบถาม จำนวน 32 ข้อ แบบสอบถามฉบับที่ 2 เป็นแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( μ )และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( σ ) โดยใช้ค่าเฉลี่ยเปรียบเทียบ
ผลการวิจัย
1. การมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการจัดการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1 โดยรวมค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับปานกลาง ( μ = 3.40 , σ = 0.53 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านที่ 2 ด้านการดำเนินงาน( μ = 4.07 , σ = 0.60 ) รองลงมาด้านที่ 1 ด้านการตัดสินใจ (μ = 3.73 , σ = 0.64 ) และต่ำสุดด้านที่ 3 ด้านรับผลประโยชน์ ( μ = 2.40 , σ = 0.38 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อของแต่ละด้าน พบว่า
1.1) ด้านการตัดสินใจ (Decision-Making)โดยรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก ( μ = 3.73 , σ = 0.64 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ข้อที่ 3 การมีส่วนร่วมวางแผนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ( μ = 4.90 , σ = 0.30 ) รองลงมาข้อที่ 7 การมีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา ( μ = 3.92 , σ = 0.82 ) และต่ำสุดข้อที่ 10 การมีการวางแผนการบริหารทรัพยากรบุคคล ( μ = 3.34 , σ = 0.91 )
1.2) ด้านการดำเนินงาน (Implementation) โดยรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก ( μ = 4.07 , σ = 0.60 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ข้อที่ 1 การมีส่วนร่วมดำเนินงานด้านระดมทุนเพื่อการศึกษา ( μ = 4.23 , σ = 0.61) รองลงมาข้อที่ 6 การมีส่วนร่วมดำเนินการประชาสัมพันธ์การรับนักเรียน ( μ = 4.23 , σ = 0.71 ) และต่ำสุดข้อที่ 3 การมีส่วนร่วมให้คำแนะนำในการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น ( μ = 3.77 , σ = 0.73 )
1.3) ด้านการรับผลประโยชน์ (Benefits) โดยรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ น้อย ( μ = 2.40 , σ = 0.38 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ข้อที่ 4 การเคยเข้าร่วมการประชุมกับโรงเรียน ( μ = 2.70 , σ = 0.55 ) รองลงมาข้อที่ 1 การเคยได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากโรงเรียน ( μ = 2.57 , σ = 0.76 ) และต่ำสุดข้อที่ 3 การเคยได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากโรงเรียน ( μ = 1.87 , σ = 0.38 )
1.4) ด้านการประเมินผล (Evaluation) โดยรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ ปานกลาง ( μ = 3.42 , σ = 0.68 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ข้อที่ 4 การมีส่วนร่วมติดตาม ตรวจสอบ สื่อ เทคโนโลยี รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ( μ = 3.61 , σ = 0.86 ) รองลงมาข้อที่ 2 การมีส่วนร่วมติดตาม ตรวจสอบเงินรายได้ที่ได้รับจากการระดมทุนเพื่อการศึกษา ( μ = 3.44 , σ = 0.59 ) และต่ำสุดข้อที่ 3 การมีส่วนร่วมติดตาม ตรวจสอบการจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น ( μ =3.33 , σ = 0.74 )
จากการสัมภาษณ์ผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง และผู้แทนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยใช้ประเด็นในการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างเพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการจัดการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1 สรุปได้ดังนี้คือ
1) ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของโรงเรียน โดยการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนให้ผู้ปกครอง ผู้ที่เข้ามาติดต่อกับโรงเรียนได้เห็น ได้รับทราบ
2) นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น เสียงตามสาย รวมถึงสื่อ Social Media ที่นิยมมาใช้ในงานประชาสัมพันธ์
3) ประชาสัมพันธ์การยกย่องสรรเสริญในคุณความดีของครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้มากขึ้น และทำบ่อยครั้ง
4) จัดกิจกรรมที่ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถมีส่วนร่วมรับรู้ให้บ่อยขึ้น
5) จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ยกย่องชมเชยคุณความดี รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนให้ประชาชนหรือผู้ปกครองได้รับรู้
6) เชิญชวนบุคลากรทั้งภายใน ภายนอกโรงเรียนให้มีส่วนร่วม รวมถึงคัดเลือกครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้ารับรางวัลเชิดชูเกียรติเพื่อยกย่องสรรเสริญในคุณงามความดี
7) เชิญชวนผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง และผู้แทนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินงานการจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา รวมถึงร่วมเป็นคณะกรรมการในการนับจำนวนเงินและตรวจสอบเงินรายได้จากการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา และร่วมเป็นคณะกรรมการในการคัดเลือกครูอัตราจ้างของโรงเรียน
8) จัดตั้งสมาคมศิษย์เก่าของโรงเรียน
9) ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ศิษย์เก่า คณะครูอย่างสม่ำเสมอ