การประเมินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ ปีการศึกษา 2563 การประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนและผลผลิตของการดำเนินการตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ ผู้ประเมินได้ใช้วิธีการประเมินตามแนวคิดรูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) นำมาใช้ในการประเมินกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 8 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 7 คน (ไม่รวมตัวแทนครูและผู้บริหาร) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 จำนวน 16 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 13 คน โดยใช้วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) รวมทั้งสิ้น 44 คน ของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ ปีการศึกษา 2563 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการประเมินครั้งนี้เป็นแบบสอบถามมีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม โดยหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (α-Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach) ได้ค่าความเชื่อมั่น 0.97 0.93 0.95 0.94 0.95 0.94 และ 0.98 ตามลำดับและแบบสอบถามวัดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน บ้านห้วยไผ่ มีค่าความเชื่อมั่น 0.64 ผู้ประเมินวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินพบว่า 1) การประเมินบริบทของการประเมินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าสถานศึกษามีแผนงานการดำเนินการของโครงการเศรษฐกิจพอเพียงที่ผู้เรียนสามารถปฏิบัติได้จริงมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ หลักการและเหตุผลของโครงการเศรษฐกิจพอเพียงมีความสอดคล้องกับนโยบายในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ส่วนสถานศึกษานำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลสอดคล้องกับการจัดกิจกรรมมาใช้ในการตัดสินความสำเร็จของโครงการมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด 2) การประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ คือ การประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการและการประเมินความเหมาะสมของแต่ละกิจกรรมตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีผลการประเมินดังนี้ 2.1) การประเมินปัจจัยนำเข้าของการประเมินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า สถานศึกษามีการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมได้อย่างเพียงพอ เหมาะสมและสถานศึกษากำหนดงบประมาณในแต่ละกิจกรรมได้อย่างเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาสถานศึกษามีผู้รับผิดชอบโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โดยคำนึงถึงความสามารถอย่างเหมาะสม ส่วนสถานศึกษา
ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากชุมชนและท้องถิ่น มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด 2.2) การประเมินปัจจัยนำเข้าของการประเมินความเหมาะสมของแต่ละกิจกรรมตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียงโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า กิจกรรมที่จัดก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียรู้ซึ่งกันและกัน และความเหมาะสมในการจัดเตรียมแปลงปลูกผักและคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่จะใช้ปลูกมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาความเหมาะสมของเนื้อหาในการจัดกิจกรรมให้ความรู้ ความเหมาะสมในการดูแลรักษา กำจัดศัตรูพืชและวัชพืชของนักเรียน ความเหมาะสมในการนำผลผลิตสู่โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน ความเหมาะสมในการบันทึกผลผลิตที่นำส่งโครงการอาหารกลางวันนักเรียน และความเหมาะสมของเนื้อหาในการจัดกิจกรรมให้ความรู้ การถ่ายทอดความรู้ของวิทยากรมีความชัดเจน เข้าใจง่าย ส่วนวิทยากรมีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการอบรมมีส่วนในการทำกิจกรรมและแสดงความคิดเห็นมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด 3) การประเมินกระบวนการของการประเมินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า สถานศึกษามีการแต่งตั้งคณะทำงาน ผู้รับผิดชอบโครงการเศรษฐกิจพอเพียงโดยคำนึงถึงความรู้ความสามารถอย่างเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาสถานศึกษามีการจัดทำแผนงานและโครงการเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นระบบ โดยการกำหนดผู้รับผิดชอบโครงการ ระยะเวลาดำเนินการ สถานที่ดำเนินการและงบประมาณอย่างชัดเจน ส่วนสถานศึกษามีการประชาสัมพันธ์โครงการเศรษฐกิจพอเพียงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลอย่างเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด 4) การประเมินผลผลิตของโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ ได้แก่ การวัดความรู้ความเข้าใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินการตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ทักษะการปฏิบัติงานทางด้านกิจกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง คุณลักษณะของนักเรียนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ความพึงพอใจของนักเรียน และความพึงพอใจของครูและบุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีผลการประเมินดังนี้ 4.1) การทำแบบทดสอบก่อนทำกิจกรรมและหลังทำกิจกรรมเพื่อวัดความรู้ของนักเรียนที่ได้ทำแบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจต่อการดำเนินกิจกรรมโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ ปีการศึกษา 2563 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 16.31 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.56 แสดงว่าประสิทธิภาพในการทำแบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจต่อการดำเนินกิจกรรมโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ มีค่าเท่ากับ 81.56 4.2) ทักษะการปฏิบัติงานทางด้านกิจกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยรวมอยู่ในระดับร้อยละ 86.88 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า นักเรียนมีทักษะด้านการเก็บรักษาอุปกรณ์มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดร้อยละ 100 รองลงมาด้านการทำงานตามขั้นตอน ร้อยละ 87.50 ด้านคุณภาพของงาน ร้อยละ 84.38 ด้านการเลือกใช้อุปกรณ์และด้านการสร้างสรรค์ผลงาน ร้อยละ 81.25 ตามลำดับ 4.3) คุณลักษณะของนักเรียนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยรวมอยู่ในระดับร้อยละ 88.75 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความพอประมาณมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดร้อยละ 96.88 รองลงมาด้านเงื่อนไขความรู้ ร้อยละ 93.75 ด้านความมีเหตุผล ร้อยละ 87.50 ด้านการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีร้อยละ 84.38 และด้านเงื่อนไขคุณธรรม ร้อยละ 81.25 ตามลำดับ 4.4) การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นราย
ข้อพบว่า การจัดกิจกรรมที่มีความหลากหลายได้เรียนรู้โดยการปฏิบัติจริงมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนมีความน่าสนใจและเรียนรู้ได้อย่างสนุก ส่วนมีการจัดกิจกรรมได้เรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด 4.5) การประเมินความพึงพอใจต่อการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยไผ่โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมจริงมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือการนำความรู้ที่ได้ของนักเรียนไปใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนมีการประชาสัมพันธ์โครงการเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด
สรุปผลการประเมินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ ปีการศึกษา 2563 ผ่านเกณฑ์การประเมินในทุกด้าน
ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้
จากผลการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ ปีการศึกษา 2563 ควรดำเนินการต่อไปโดยนำผลการประเมินไปปรับใช้และสรุปเป็นข้อเสนอแนะได้ดังนี้
1. จากผลการประเมิน ด้านบริบท พบว่าสถานศึกษานำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลสอดคล้องกับการจัดกิจกรรมมาใช้ในการตัดสินความสำเร็จของโครงการมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดดังนั้น สถานศึกษาควรจัดให้บุคลากรได้นำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลสอดคล้องกับการจัดกิจกรรมมาใช้ในการตัดสินความสำเร็จของโครงการ
2. จากผลการประเมิน ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า สถานศึกษาได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากชุมชนและท้องถิ่น มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ดังนั้นสถานศึกษาควรวางแผนในการส่งเสริมให้บุคคลภายนอกได้เข้ามามีส่วนในการสนับสนุน ช่วยเหลือ ขับเคลื่อนสถานศึกษาทั้งใดด้านความร่วมมือ การช่วยเหลือ งบประมาณในด้านต่างๆ
3. จากผลการประเมิน ด้านกระบวนการ พบว่า สถานศึกษามีการประชาสัมพันธ์โครงการเศรษฐกิจพอเพียงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลอย่างเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ดังนั้น สถานศึกษาควรส่งเสริมให้บุคลากรได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสม่ำเสมอ
4. จากผลการประเมิน ด้านผลผลิต การประเมินความพึงพอใจในการดำเนินกิจกรรมของนักเรียนในการดำเนินการโครงการเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า มีการจัดกิจกรรมได้เรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ดังนั้นสถานศึกษาควรส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้การทำงานแบบกลุ่ม เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
5. จากผลการประเมิน ด้านผลผลิต การประเมินความพึงพอใจในการดำเนินกิจกรรมของครูและบุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักเรียน พบว่าการประชาสัมพันธ์โครงการเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ดังนั้นโรงเรียนควรส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับข้อมูลข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้มากขึ้น
คำสำคัญ : การประเมินโครงการ, เศรษฐกิจพอเพียง , โครงการเศรษฐกิจพอเพียงโรงเรียนบ้านห้วยไผ่