โรงเรียนบ้านทับวัง อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
กระทรวงมหาดไทย
ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและ
อัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิด
ของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้ศึกษา นางเรณู รัตนประเสริฐ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนบ้านทับวัง สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนา
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
2) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) ทดลองใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนบ้านทับวัง สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 33 คน ได้มาโดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วน จำนวน 12 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 12 แผน รวมเวลาที่ใช้ในการทดลอง 24 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วน จำนวน 30 ข้อ 4 ) แบบประเมินความสามารถในการคิดแก้ปัญหา เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วน 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ การทดสอบค่า t (t-test แบบ Independent)และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียน ผู้ปกครอง และครูผู้สอนมีความเห็นว่ามีปัญหาในด้านการคิดแก้ปัญหาร้อยละ 66.67 ด้านทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วน ร้อยละ 66.67 และนักเรียนส่วนใหญ่มีความต้องการสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบฝึกที่มีขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาชัดเจน ร้อยละ 65.00 และต้องการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เรื่องราวใกล้ตัว และสามารถนำทักษะการแก้โจทย์ปัญหาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ร้อยละ 61.67
2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.00/84.95 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ผู้ศึกษากำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ผลการพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วน มีคะแนนเฉลี่ยจากการประเมิน คิดเป็นร้อยละ 84.62 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ประเมินความสามารถการคิดแก้ปัญหาอยู่ในระดับดีมาก ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 80 ที่ตั้งไว้
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละและอัตราส่วนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการตามแนวคิดของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในรวม ระดับมากที่สุด ( x-dar =4.62, S.D.=0.04)