การประยุกต์ใช้กระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและปัจจัยท้าทายในการเรียนภาษาอังกฤษของผู้เรียนที่มีความหลากหลายในบริบทโรงเรียนขนาดเล็ก
จากที่กระผมได้ปฏิบัติงานในตำแหน่งครูผู้สอนภาษาอังกฤษ และได้พบสภาพปัญหาหลายอย่างซึ่งจำเป็นต้องพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการเรียนของนักเรียนโรงเรียนศรีณรงค์พิทยาลัย อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีการใช้อย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับในฐานะภาษากลาง (Universal Language) ของคนทั่วโลก ภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญในการเป็นสื่อกลางในการสื่อสารของผู้คน ในการเรียนรู้ภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม คำศัพท์เป็นหัวใจสำคัญของสื่อสารไม่ว่าจะเป็น การอ่าน การฟัง การพูดหรือการเขียน ผู้ที่เรียนรู้คำศัพท์ได้ดีจะสามารถเรียนรู้ภาษาได้ดีตามไปด้วย จากการทำวิจัยในชั้นเรียนในด้านการเรียนภาษาอังกฤษและศึกษาสภาพบริบท สังคม โดยรอบโรงเรียนศรีณรงค์พิทยาลัย พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความหมาย (Meaning) และ ชนิดของคำศัพท์ (Part of speech) ยิ่งไปกว่านั้นผู้เรียนในระดับชั้นเดียวกันมีความสามารถทางภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน อีกทั้งการเรียนการสอนแบบปกติทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่ายและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ค่อนข้างต่ำ จากการสำรวจและทำความรู้จักกับผู้เรียนเป็นรายบุคคลพบว่า ผู้เรียนมีความแตกต่างกันด้านภูมิหลังทางการเรียนภาษาและมีกลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้จากการไปเยี่ยมบ้านนักเรียนส่วนใหญ่ พบว่า สภาพทั่วไปของชุมชนเป็นชุมชนชนบท ผู้ปกครองประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน หรือผู้ปกครองไปทำงานต่างจังหวัดปล่อยให้ลูกหลานอยู่กับญาติ หรือ ปู่ ย่า ตา ยาย นักเรียนขาดความอบอุ่น ตลอดระยะเวลาที่มีการจัดตั้งโรงเรียนจนถึงปัจจุบันจะมีปัญหากับนักเรียนในด้านต่างๆ มากมาย เช่น การออกกลางคัน การท้องก่อน วัยอันควร ยาเสพติด การทะเลาะวิวาท การมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ การมีผลการเรียนที่ไม่พึงประสงค์ การอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการในโรงเรียนและการจัดการเรียนการสอนของครู
ด้วยเหตุนี้ กระผมจึงได้นำระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมาประยุกต์ใช้กับรูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้กระบวนการ Active Learning โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้โอกาสทางการศึกษากับผู้เรียนอย่างเท่าเทียมกัน และไม่ทิ้งผู้เรียนคนใดไว้ข้างหลัง (No child left behind) ตามนโยบายของโรงเรียนศรีณรงค์พิทยาลัย กล่าวคือ ลูกใครไม่สำคัญ เราจะช่วยกันดูแล ดังนั้นกระผมได้นำกระบวนการของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ขั้นตอน มาใช้ในการบริหารชั้นเรียนและพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนโดยมีกระบวนการดังนี้คือ เริ่มจากการสื่อสารทำความเข้าใจ (Communication) กับผู้เรียนเสียก่อน ในขั้นตอนนี้กระผมได้พูดคุยสื่อสารทำความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของบทเรียน หรือกิจกรรมการเรียนการสอนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนรู้ว่าตนเองต้องทำอะไรและจะมีวิธีการบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร ขั้นต่อมาคือการจัดลำดับให้ความสำคัญ (Order) ในฐานะของครูผู้สอนจำเป็นต้องจัดลำดับผู้เรียน รู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคลตามความถนัดซึ่งรวมถึงภูมิสังคมของผู้เรียน อันจะมีผลต่อการรับรู้และเรียนรู้ภาษาของแต่ละคน กระผมได้แบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็นกลุ่มเก่ง กลุ่มกลาง และกลุ่มอ่อน และเลือกสื่อการเรียน (Materials) เนื้อหา (Contents) ที่สอดคล้องกัน ในกรณีที่นักเรียนอยู่ในกลุ่มปกติ (Normal) กระผมใช้การเสริมแรงและให้รางวัล อีกทั้งให้นักเรียนได้ตั้งคำถาม และเรียนรู้ในสิ่งที่ยากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อเป็นการท้าทายความสามารถตนเอง ในกรณีที่นักเรียนเป็นกลุ่มอ่อน หรือต้องได้รับความช่วยเหลือ (Needs) กระผมจะให้กำลังใจ และใช้วิธีการเพื่อนช่วยเพื่อน (Buddy) เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน (Cooperation) นอกจากนี้ทุกครั้งจะมีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม (Ethics) แก่ผู้เรียน ในด้านการเรียนภาษานักเรียนจำเป็นต้องเข้าใจเรื่องวัฒนธรรมของการสื่อสาร (Intercultural communication) ทั้งการพูดและการเขียนซึ่งมีความสำคัญในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่การสื่อสารไร้พรมแดนมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์และการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น สุดท้ายนี้การตั้งเป้าหมาย (Target) เป็นสิ่งที่ครูและนักเรียนต้องสร้างร่วมกัน โดยเฉพาะเป้าหมายในการเรียนภาษาอังกฤษ ในฐานะครูต้องตั้งเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ทุกครั้งที่จัดการเรียนการสอน และนักเรียนเองต้องมีเป้าหมายชีวิต (Life goal) ในการเรียนภาษาและมุ่งมั่นเพื่อไปถึงเป้าหมายนั้นให้ได้
กระผมได้นำรูปแบบกระบวนการ CONNECT-MODEL มาดำเนินการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน ด้วยข้าพเจ้าได้ทำการศึกษาและวิจัยผู้เรียน จากงานวิจัยเรื่อง กลยุทธ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เป็นผู้พูดหลายภาษา: กรณีศึกษา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เป็นผู้พูดภาษาเขมรสูง ลาวอีสานและกูย ณ โรงเรียนศรีณรงค์พิทยาลัย จังหวัดสุรินทร์ พบว่านักเรียนโรงเรียนศรีณรงค์มีความแตกต่างกันด้านภูมิหลังทางการเรียนภาษาและมีกลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน นอกจากนี้งานวิจัยชี้ให้เห็นว่านักเรียนที่มาจากภูมิสังคมที่แตกต่างกันส่งผลถึงรูปแบบ (styles) และกลยุทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียน (strategies) ด้วยการดำเนินตามกระบวนการ CONNECT-MODEL ช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน โดยมีวัตถุประสงค์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อ
1. ลดภาระงาน/การบ้านนักเรียนที่มากเกินไป
2. ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั้งในและนอกห้องเรียน (Communicative Language Teaching)
3. ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ (Learning Process) การสร้างผลงานที่เกิดการเรียนรู้ (Learning Products)
4. สร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ
5. ยกระดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษและผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน