ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

บทสรุปสำหรับผู้บริหารในรายงานการวิจัย

(Executive summary in research report)

คำชี้แจง

บทสรุปสำหรับผู้บริหารในรายงานการวิจัยนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ผลงานวิจัยที่เป็นผู้บริหารซึ่งไม่มีเวลามากพอในการอ่านรายงานผลการวิจัยทั้งฉบับหรือไม่เคยชินกับคำศัพท์ทางการวิจัย แต่สะดวกในการเลือกอ่านเฉพาะบทสรุปและสามารถเข้าใจถึงความสำคัญของข้อค้นพบจากการวิจัยพร้อมที่จะตัดสินใจตามข้อเสนอแนะของผู้วิจัย หรือใช้เป็นคู่มือในการนำผลการวิจัยไปสู่การนำไปใช้ได้จริง เป็นประโยชน์ต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจ

กลุ่มเป้าหมาย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บทสรุปสำหรับผู้บริหารในรายงานการวิจัย ได้แก่

1. ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

2. ศึกษานิเทศก์

3. ผู้บริหารสถานศึกษา

4. หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

5. ครูผู้สอนวิทยาการคำนวณ

ขอบข่ายเนื้อหา

1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย

3. ระเบียบวิธีวิจัย (โดยย่อ)

4. ผลการวิจัย

5. ข้อเสนอแนะ

แนวทางการใช้บทสรุปสำหรับผู้บริหารในรายงานการวิจัย

1. ให้ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ครูผู้สอนวิทยาการคำนวณและผู้ที่เกี่ยวข้อง ศึกษาบทสรุปสำหรับผู้บริหารในรายงานการวิจัยนี้อย่างละเอียดให้เข้าใจ เพื่อให้สามารถนำขั้นตอนรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา

2. ในระหว่างการดำเนินการการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายควรอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรม สังเกต แก้ไขปัญหา กระตุ้นให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเกิดการเรียนรู้ เกิดความตระหนัก

3. หลังจากนำการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราชไปประยุกต์ใช้แล้ว ให้ผู้เกี่ยวข้องประเมินผลด้วยการสังเกต การมีส่วนร่วม การแสดงออกซึ่งพฤติกรรมการสอนของครู และการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อเป็นการนำผลการประเมินไปปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม เกิดประสิทธิภาพต่อไป

บทสรุปสำหรับผู้บริหารในรายงานการวิจัย

(Executive Summary in Research Report)

ชื่อเรื่อง : รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

ผู้วิจัย : นางภัคนันท์ สุวรรณรัตน์

ปีที่วิจัย : 2564

1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

จากเป้าหมาย การพัฒนาประเทศ นับตั้งแต่ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา แผนการศึกษาแห่งชาติและมาตรฐานการศึกษาของชาติ ล้วนมีเป้าหมาย ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีทักษะในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีความหมายรวมถึงทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม ทักษะด้านการสื่อสารและการรู้เท่าทันสื่อ ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งทักษะต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นทักษะที่กำหนดไว้ในเป้าหมายของวิชาวิทยาการคำนวณ ซึ่งเป็นวิชาใหม่ ที่กระทรวง ศึกษาธิการ ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เมื่อปี พ.ศ.2560 อันรวมถึงการปรับปรุงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 เนื่องจากวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญ ต่อสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มสาระทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีสาระย่อยประกอบด้วย การออกแบบและเทคโนโลยี และวิทยาการคำนวณ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการฝึกฝนกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ อันเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล เพื่อการเตรียมเข้าสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

วิทยาการคำนวณเป็นวิชาใหม่ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ได้ปรับปรุงแนวทางกระบวนการสอนใหม่ ให้เป็นการสอนวิธีคิดและบูรณาการความรู้วิชาการต่าง ๆ โดยใช้ Coding เป็นส่วนหนึ่งของวิทยาการคำนวณ สภาพการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ พบว่าทั้งในหน่วยงานสถานศึกษาและหน่วยงานสนับสนุนอันได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ยังมีปัญหาและอุปสรรคอยู่หลายด้าน เช่น คุณภาพการจัดการเรียนการสอน การขาดทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจหลักการของวิชาวิทยาการคำนวณ ความรู้และทักษะเชิงเทคนิคของการเขียนโปรแกรมและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ความเหมาะสมของงบประมาณและอุปกรณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนการสอน การคิดตาม ประเมินผลและการนิเทศ เป็นต้น (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ, 2564, หน้า 110)

ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการสนับสนุนส่งเสริมให้การจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณให้เป็นไปตามเป้าหมายของหลักสูตร ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่จะต้องให้มีการนิเทศ ติดตาม และสนับสนุนกิจกรรมการดำเนินงาน ทั้งนี้เพราะการนิเทศการศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาการเรียนการสอนให้ดีขึ้น ด้วยการร่วมมือกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องโดยใช้หลักประชาธิปไตย ที่ผู้บริหารจะต้องดำเนินการเพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามมาตรฐานของสถานศึกษา จนส่งผลให้เกิดการพัฒนาระดับคุณภาพ การจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาเป็นที่ยอมรับของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย การนิเทศการศึกษา นับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาพฤติกรรมการสอนของครูให้สามารถจัดกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ให้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรได้

การนิเทศการศึกษาจึงเป็นกระบวนการที่เกิดจากความร่วมมือของคณะครู บุคลากรทางการศึกษา โดยการแนะนำให้คำปรึกษาหารือช่วยเหลือและเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับการนิเทศได้พัฒนาความรู้ความสามารถและพฤติกรรมการสอนด้วยตนเองให้สามารถปฏิบัติ ภารกิจทางด้านการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนส่งเสริมให้บุคลากรที่ได้รับการนิเทศ มีความรู้ที่ทันสมัยสามารถนำไปบูรณาการใช้เพื่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นอกจากนี้การนิเทศการศึกษายังเป็นกระบวนการสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ช่วยปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และประสิทธิภาพการบริหาร การจัดการ เพื่อนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ทั้งนี้เพราะการนิเทศการศึกษาเป็นกระบวนการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น การนิเทศการศึกษาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยเหลือ และสนับสนุนกระบวนการบริหารและกระบวนการสอนให้มีคุณภาพและบรรลุเป้าหมาย (พงษ์ศักดิ์ ทองไชย, 2558, หน้า 2) แต่ทั้งนี้การนิเทศการศึกษาจากศึกษานิเทศก์นั้น ไม่สามารถที่จะทำได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากจำนวนศึกษานิเทศก์มีน้อยไม่เพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับความต้องการของครูผู้สอนในสถานศึกษา ตลอดจนความรู้ของศึกษานิเทศก์ก็ไม่สามารถครอบคลุมได้ทุกสาขาวิชาซึ่งหน่วย การนิเทศไม่เป็นไปตามแผนปฏิบัติการนิเทศและการนิเทศ ขาดความต่อเนื่องเพราะมีงานอื่นแทรกซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเร่งด่วนเฉพาะกิจ ขาดแคลนเครื่องมือ การนิเทศติดตามงานที่ครอบคลุมทุกกิจกรรม ศึกษานิเทศก์ซึ่งอยู่ภายนอกสถานศึกษาไม่สามารถรับรู้สภาพปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของสถานศึกษา (ภัทรภรณ์ น้อยกอ, 2561, หน้า 2) โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณในสถานศึกษา ซึ่งเป็นวิชาใหม่ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ที่ศึกษานิเทศก์ต้องร่วมมือกับสถานศึกษา ครูผู้รับผิดชอบการเรียนการสอน ร่วมมือกันส่งเสริม ช่วยเหลือ สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ ในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะในศตวรรษที่ 21 ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น หลักสูตร บุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น

ดังนั้น ผู้วิจัยในฐานะที่เป็นศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช เป็นผู้รับผิดชอบในงานส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ จึงศึกษา รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ให้มีความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ ที่จะทำให้การดำเนินงานการนิเทศการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวทางการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ พัฒนาครูให้มีทักษะทางวิทยาการคำนวณ มีทักษะการคิด สามารถออกแบบการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและวิถีการดำรงชีวิตแบบใหม่ (New Normal)

2. วัตถุประสงค์การวิจัย

1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

2. เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

3. เพื่อประเมินรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

4. เพื่อนำรูปแบบไปใช้และศึกษาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราชหลังการใช้รูปแบบ

3. ระเบียบวิธีวิจัย (โดยย่อ)

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and development) แบ่งการศึกษาเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

ตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช โดย 1) ศึกษาตัวชี้วัดและวิเคราะห์จำแนกองค์ประกอบตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช การดำเนินการในขั้นตอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาตัวชี้วัดและวิเคราะห์จำแนกองค์ประกอบตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู โดยการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี จากเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดและองค์ประกอบความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู และประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบและตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 15 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการนิเทศการศึกษา ครูปฏิบัติงานวิชาการหรือครูผู้สอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสังเคราะห์เอกสาร และแบบประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบและตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู 2) การศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช เป็นการศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช จากการสอบถามครูผู้สอนวิทยาการคำนวณ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช จำนวน 96 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามสภาพปัจจุบันความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

ตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช โดยนำผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาข้อมูลในตอนที่ 1 โดยการสร้างข้อสรุปจากการศึกษาเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ของความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นของความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู สังเคราะห์เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยและพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช กำหนดเป็นโครงร่างขั้นตอนและองค์ประกอบของกระบวนการการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู การดำเนินการในตอนที่ 2 นี้ แบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การศึกษาองค์ประกอบกระบวนการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู โดย 1) การสังเคราะห์แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบกระบวนการนิเทศการศึกษา 2) การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับตัวแปรของการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู จำแนกตามองค์ประกอบของกระบวนการนิเทศ โดยสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เกี่ยวกับตัวแปรของการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านการนิเทศระดับนโยบายหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นักวิชาการทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสังเคราะห์เอกสาร และแบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับองค์ประกอบของกระบวนการนิเทศ และตัวแปรของการนิเทศ และขั้นที่ 2 การสร้างรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช โดย 1) การยกร่างรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบ ด้วยวิธีการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการศึกษาการวิจัย และการนิเทศการศึกษา จำนวน 8 คน พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะ วิพากษ์ เพื่อปรับปรุงรูปแบบให้เหมาะสม ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารระดับนโยบายหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการวิจัย ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการนิเทศการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่แบบตรวจสอบความเหมาะสมของร่างรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบความเหมาะของร่างรูปแบบ 2) การปรับปรุงรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ

ตอนที่ 3 การประเมินรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบกลุ่มเป้าหมายในการประเมินรูปแบบ โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 20 คน ผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ศึกษานิเทศก์ที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการนิเทศการศึกษา เครื่องที่ใช้ในการวิจัยเป็นประเมินด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ ของรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

ตอนที่ 4 การนำรูปแบบไปใช้และศึกษาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราชหลังการใช้ โดย 1) การนำรูปแบบไปใช้ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ปัญหาและความต้องการการนิเทศ การวางแผนการนิเทศ การปฏิบัติการนิเทศ การสร้างหรือใช้เครื่องมือ สื่อนวัตกรรม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การติดตามและประเมินผล 2) การศึกษาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช หลังการนำรูปแบบไปใช้ โดยดำเนินการ ศึกษาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช หลังการนำรูปแบบไปใช้ และ เปรียบเทียบความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูระหว่างก่อน และหลังการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ที่สอนวิชาวิทยาการคำนวณ จำนวน 96 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช

4. ผลการวิจัย

ตอนที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช สามารถสรุปได้ดังนี้

1.1 ผลการศึกษาตัวชี้วัดและวิเคราะห์จำแนกองค์ประกอบตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู ได้จำนวน 3 ด้าน จำนวน 29 ตัวชี้วัด ได้แก่ ด้านการวิเคราะห์หลักสูตร มีจำนวน 5 ตัวชี้วัด ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีจำนวน 17 ตัวชี้วัด ด้านการวัดและประเมินผล มีจำนวน 7 ตัวชี้วัด

1.2 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช พบว่า สภาพปัจจุบันความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู อยู่ในระดับมาก ทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน สภาพที่พึงประสงค์ความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู อยู่ในระดับมากที่สุด ทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน

ตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช สามารถสรุปได้ดังนี้

2.1 ผลการศึกษาองค์ประกอบกระบวนการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู พบว่า กระบวนการนิเทศ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ปัญหาและความต้องการการนิเทศ (Problem and Need) องค์ประกอบที่ 2 การวางแผนการนิเทศ (Planning) องค์ประกอบที่ 3 การปฏิบัติการนิเทศ (Implement) องค์ประกอบที่ 4 การสร้างหรือใช้เครื่องมือ สื่อนวัตกรรม (Tools) องค์ประกอบที่ 5 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Educational Exchange) องค์ประกอบที่ 6 การติดตามและประเมินผล (Evaluating)

2.2 ผลการสร้างรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช พบว่า มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่

ส่วนที่ 1 ส่วนนำ ประกอบด้วย หลักการพื้นฐานของรูปแบบ และวัตถุประสงค์ของรูปแบบ

ส่วนที่ 2 กระบวนการนิเทศ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ปัญหาและความต้องการการนิเทศ (Problem and Need) องค์ประกอบที่ 2 การวางแผนการนิเทศ (Planning) องค์ประกอบที่ 3 การปฏิบัติการนิเทศ (Implement) องค์ประกอบที่ 4 การสร้างหรือใช้เครื่องมือ สื่อนวัตกรรม (Tools) องค์ประกอบที่ 5 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Educational Exchange) องค์ประกอบที่ 6 การติดตามและประเมินผล (Evaluating)

ส่วนที่ 3 เงื่อนไขความสำเร็จของการนิเทศ

ตอนที่ 3 ผลการประเมินรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ พบว่า รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมากที่สุด และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด

ตอนที่ 4 การนำรูปแบบไปใช้และศึกษาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราชหลังการใช้ สามารถสรุปได้ดังนี้

4.1 การใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช โดยการจัดกิจกรรมการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ปัญหาและความต้องการการนิเทศ (Problem and Need) องค์ประกอบที่ 2 การวางแผนการนิเทศ (Planning) องค์ประกอบที่ 3 การปฏิบัติการนิเทศ (Implement) องค์ประกอบที่ 4 การสร้างหรือใช้เครื่องมือ สื่อนวัตกรรม (Tools) องค์ประกอบที่ 5 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Educational Exchange) และองค์ประกอบที่ 6 การติดตามและประเมินผล (Evaluating)

4.2 ผลการศึกษาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช หลังการนำรูปแบบไปใช้ พบว่า

1) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู อยู่ในระดับมากที่สุด ทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน

2) ผลเปรียบเทียบความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูระหว่างก่อนและหลังการใช้รูปแบบ พบว่า ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณหลังการใช้รูปแบบ สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน

5. ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะจากผลงานวิจัย

1.1 ผลการวิจัยที่ค้นพบในการพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช มีความเหมาะสม เป็นประโยชน์และเป็นองค์ความรู้ที่ผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ ครู ในสถานศึกษา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะใช้เป็นแนวทางเพื่อประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานการนิเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

1.2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาควรมีการกำหนดเป็นนโยบายเกี่ยวกับการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ และกำหนดตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูให้สอดคล้องกัน

1.3 การนำรูปแบบไปใช้ ควรศึกษาองค์ประกอบของรูปแบบการนิเทศ ตัวชี้วัดความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครูอย่างละเอียด และสร้างความเข้าใจแก่ครูในการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ

2. ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยต่อไป

2.1 ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู ซึ่งผลการวิจัยทำให้ได้รูปแบบการนิเทศที่เป็นประโยชน์ และสามารถนำรูปแบบไปใช้ได้ จึงควรนำรูปแบบและกรอบแนวคิดการวิจัยนี้ไปเป็นแนวทางในการ พัฒนาความสามารถของครูด้านอื่น ๆ ต่อไป

2.2 ควรมีการทำวิจัยหาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ เกี่ยวกับการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการนิเทศจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณของครู

2.3 ควรมีการทำวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาต่างๆ และนำไปทดลองใช้ในสถานการณ์จริงเพื่อให้มีการพัฒนา ปรับปรุงรูปแบบที่เหมาะสม และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการนิเทศการศึกษาต่อไป

โพสต์โดย paptdee : [14 ก.ค. 2565 เวลา 14:49 น.]
อ่าน [3470] ไอพี : 58.11.94.16
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,307 ครั้ง
ยก เฟซบุ๊ก เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในสหรัฐ
ยก เฟซบุ๊ก เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในสหรัฐ

เปิดอ่าน 17,323 ครั้ง
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ

เปิดอ่าน 16,302 ครั้ง
ยอดวิวเยอะมาก รายการ "ดูให้รู้ ตอน คุณครูฮาร์ดคอร์"
ยอดวิวเยอะมาก รายการ "ดูให้รู้ ตอน คุณครูฮาร์ดคอร์"

เปิดอ่าน 13,529 ครั้ง
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่

เปิดอ่าน 13,925 ครั้ง
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!

เปิดอ่าน 19,892 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การศึกษาตัวแปรที่สัมพันธ์กับความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพครู
(ก.ค.ศ.)การศึกษาตัวแปรที่สัมพันธ์กับความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 15,077 ครั้ง
7 รายชื่อ นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ 2552
7 รายชื่อ นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ 2552

เปิดอ่าน 21,023 ครั้ง
กินรสจืด ยืดชีวิต
กินรสจืด ยืดชีวิต

เปิดอ่าน 86,954 ครั้ง
ดินสอทำไมมีตัว H กับตัว B
ดินสอทำไมมีตัว H กับตัว B

เปิดอ่าน 11,335 ครั้ง
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่
10 วิธีง่ายๆ ห่างไกลไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 14,479 ครั้ง
มาอัพเดทดวงของคุณในรอบ 2 สัปดาห์
มาอัพเดทดวงของคุณในรอบ 2 สัปดาห์

เปิดอ่าน 15,182 ครั้ง
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้

เปิดอ่าน 15,959 ครั้ง
การถวายสังฆทาน
การถวายสังฆทาน

เปิดอ่าน 2,137 ครั้ง
"ขุนหลวงท้ายสระ" พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา
"ขุนหลวงท้ายสระ" พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา

เปิดอ่าน 6,981 ครั้ง
ไพรเวทคลาวด์ เอ็นเตอร์ไพรซ์คลาวด์ และระบบอื่นๆ
ไพรเวทคลาวด์ เอ็นเตอร์ไพรซ์คลาวด์ และระบบอื่นๆ

เปิดอ่าน 44,222 ครั้ง
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
เปิดอ่าน 113,320 ครั้ง
LMS คืออะไร
LMS คืออะไร
เปิดอ่าน 29,698 ครั้ง
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย
เปิดอ่าน 29,449 ครั้ง
5 เทคนิคการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี และประสบความสำเร็จ
5 เทคนิคการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี และประสบความสำเร็จ
เปิดอ่าน 17,798 ครั้ง
ร่ม ประโยชน์ที่มากกว่าการกันฝน
ร่ม ประโยชน์ที่มากกว่าการกันฝน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ