ชื่อเรื่อง : รายงานการบริหารจัดการสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ผู้ประเมิน : นางสาวมยุรี แก้วภู่ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนบ้านทุ่งเสม็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่
ปีที่ดำเนินงาน : 2564
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
รายงานการบริหารจัดการสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 เป็นแบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการบริหารจัดการสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการกำหนดข้อคำถามเพื่อเป็นแนวทางในการสอบถามผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน กำหนดหัวข้อการประเมินการบริหารแบบมีส่วนร่วม 4 ด้าน คือ การมีส่วนร่วมในการประเมินผล การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการผลรับประโยชน์ และการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ฉบับที่ 2 แบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ กลุ่มเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้ เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วยผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองของนักเรียน ปีการศึกษา 2564 รวมทั้งหมด 103 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ฉบับ เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูล ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ( ) ร้อยละ (Percentage) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์การบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู บุคลากรศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน โดยภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.24 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล มีค่าเฉลี่ย 4.17 ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ มีค่าเฉลี่ย 4.20 ด้านการมีส่วนร่วมในการผลรับประโยชน์ มีค่าเฉลี่ย 4.28 และด้านการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน มีค่าเฉลี่ย 4.29 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ปรากฏผลดังนี้
1.1 ผลการประเมินการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล โดยภาพรวมมีระดับความคิดเห็นมาก มีค่าเฉลี่ย 4.17
1.2 ผลการประเมินการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ โดยภาพรวมมีระดับความคิดเห็นมาก มีค่าเฉลี่ย 4.20
1.3 ผลการประเมินการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านการมีส่วนร่วมในการผลรับประโยชน์ โดยภาพรวมมีระดับความคิดเห็นมาก มีค่าเฉลี่ย 4.28
1.4 ผลการประเมินการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ด้านการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน
2. ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้บริหาร ครู และบุคลากร ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม TSM Model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยภาพรวมมีระดับความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.76
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการวิจัยไปใช้
1. ผลการวิจัยพบว่า ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ผู้บริหารสถานศึกษา เมื่อมีกิจกรรมใด หรือจะทำโครงการอะไรผู้บริหารก็จะให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาภายในโรงเรียนมาร่วมประเมินผล ในการทำงานนั้นๆ ไม่ว่าจะปัญหา สาเหตุ และความต้องการ ร่วมคิดค้นแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหา ร่วมในการตรวจสอบและประเมินผลทางเลือกของการตัดสินใจ ให้เกิดผลที่ดีตามบริบทสถานที่ต่าง ๆ
ข้อเสนอแนะสำหรับการศึกษาครั้งต่อไป
ผู้วิจัยได้มีข้อเสนอแนะของการวิจัยต่อไป และเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
และเป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า จึงขอเสนอแนะวิธีการวิจัยต่อไป ดังนี้
1. ควรศึกษาการบริหารสถานศึกษาแบบอื่น ๆ ที่จะส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา
2. ควรศึกษาปัจจัยในด้านอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา
3. ควรศึกษาปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารจัดการสถานศึกษา
4. ควรศึกษาการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา