นวัตกรรมเรื่อง การจัดการเรียนรู้เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ โดยใช้เทคนิคบาร์โมเดลร่วมกับแบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละทั้งก่อนและหลังการใช้เทคนิคบาร์โมเดลร่วมกับแบบฝึก ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ สร้างกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค Bar Model ร่วมกับแบบฝึก ผู้จัดทำได้นำข้อมูลผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
ตอนที่ 1 การหาประสิทธิภาพของ แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบความสามารถด้านการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ตอนที่ 1 การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ดังแสดงในตาราง
ตารางผลการหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามเกณฑ์ 80/80
คะแนน คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย ร้อยละของคะแนนเฉลี่ย E1/E2
คะแนนระหว่างใช้แบบฝึก 50 42.97 85.94 85.94/82.02
คะแนนจากการทำ
แบบทดสอบหลังเรียน 10 8.20 82.02
จากตาราง พบว่า คะแนนจากการทำกิจกรรมระหว่างเรียนเฉลี่ย 42.97 จาก 50 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 85.94 และคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียนเฉลี่ย 8.20 จาก 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.02 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ เท่ากับ 85.94/82.02 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบความสามารถด้านการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดังแสดงในตาราง
ตารางผลการเปรียบเทียบความสามารถด้านการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละทั้งก่อนและหลังการใช้เทคนิคบาร์โมเดลร่วมกับแบบฝึก ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
การทดสอบ N คะแนนเฉลี่ย S.D.
ก่อนเรียน 94 3.99 1.34
หลังเรียน 94 8.20 1.01
จากตาราง พบว่า ก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยรวม 3.99 หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยรวม 8.20 ความต่างของคะแนนเฉลี่ยหลังการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ย 4.21 และคะแนนของร้อยละความต่างมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 38.30 เมื่อนำคะแนนมาเปรียบเทียบพบว่า ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้ใช้แบบฝึกทักษะ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน จากข้างต้นสรุปได้ว่า นักเรียนทุกคนมีพัฒนาการการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น