ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้กลยุทธ์ “KP HAPPY Model”

ชื่อนวัตกรรม : การพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้กลยุทธ์

“KP HAPPY Model”

ชื่อผู้จัดทำ : นางธรินทร์รัษฎิ์ ทองสุข

ปีการศึกษา : 2564

บทคัดย่อ

นวัตกรรมนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับคุณภาพการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนัก เรียน การพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้กลยุทธ์ “KP HAPPY Model” 2) เพื่อศึกษาระดับคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้กลยุทธ์ “KP HAPPY Model” 3) เพื่อศึกษาระดับคุณภาพคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง 4) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและเครือข่ายชุมชนที่มีต่อการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้กลยุทธ์ “KP HAPPY Model” เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่น 0.95-0.99 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรม SPSS for Window version 22

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้กลยุทธ์ “KP HAPPY Model” ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.59, S.D. = 0.49) รองลงมาได้แก่ และกลุ่มผู้ปกครอง (x̄ = 4.57, S.D. = 0.50 ) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x̄ = 4.55, S.D. = 0.50) อยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้ กลยุทธ์ “KP HAPPY Model” ตามความคิดเห็นของครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมสองกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครู (= 4.65, = 0.45 ) มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มผู้ปกครอง (x̄ = 4.57, S.D. = 0.46) อยู่ในระดับมากที่สุด

3. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลคุณภาพคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียน บ้านควนปริง ตามความคิดเห็นของครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมสองกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครู (= 4.66, = 0.46 ) มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มผู้ปกครอง (x̄ = 4.63,S.D. = 0.46) อยู่ในระดับมากที่สุด

4. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านควนปริง โดยใช้กลยุทธ์ “KP HAPPY Model” โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.66, S.D. = 0.48) รองลงมาคือกลุ่มนักเรียน (x̄ = 4.59, S.D. = 0.51 ) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่ำสุด (= 4.56,= 0.51) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปใช้

1.1 การพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ประสบผลสำเร็จและเกิดความยั่งยืน สถานศึกษาควรจัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยมีการกำหนดเป้าหมายให้ ทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจ เข้าถึง ในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีการดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบ มีการบูรณาการเรียนรู้ ทุกกลุ่มสาระทุกกิจกรรม มีการใช้เครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ จากชุมชน มีการสร้างขวัญกำลังใจ ส่งเสริม สนับสนุน แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นักเรียนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ทั้งร่างกายและจิตใจรวมทั้งมิติสุขภาพ ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันทางจิตใจ มีทักษะชีวิต สมรรถนะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และควรนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ในการเก็บข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนอย่างมีระบบถูกต้องและมีความเชื่อถือได้ และมีการเผยแพร่ผลงานของโรงเรียนเพื่อเป็นแบบอย่างแก่หน่วยงานภายนอก

1.2 สถานศึกษาควรชี้แจงและทำความเข้าใจเพื่อสร้างความตระหนักให้ นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานถึงความสำคัญของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และควรใช้หลักการมี ส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน อีกทั้งใช้การวิจัยเป็นฐานในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือ

1.3 หลังการพัฒนาโรงเรียนควรมีการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอันจะส่งผลต่อคุณภาพคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน

2. ข้อเสนอแนะในการดำเนินการครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน

2.2 ควรศึกษารูปแบบหรือกลยุทธ์การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนหรือการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาในลักษณะอื่น

โพสต์โดย
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,230 ครั้ง
แรงบิดและแรงม้า
แรงบิดและแรงม้า

เปิดอ่าน 27,726 ครั้ง
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..

เปิดอ่าน 37,956 ครั้ง
ประณีตศิลป์ไทย
ประณีตศิลป์ไทย

เปิดอ่าน 59,684 ครั้ง
ความแตกต่างของการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนกับการวิจัยเชิงวิชาการ
ความแตกต่างของการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนกับการวิจัยเชิงวิชาการ

เปิดอ่าน 32,081 ครั้ง
วิธีการเรียนรู้ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ
วิธีการเรียนรู้ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ

เปิดอ่าน 16,805 ครั้ง
การพิจารณาค่าความจริง (Truth value)
การพิจารณาค่าความจริง (Truth value)

เปิดอ่าน 9,995 ครั้ง
"นิทานก่อนนอน"กิจกรรมยามดึกที่หนูๆชื่นชอบ
"นิทานก่อนนอน"กิจกรรมยามดึกที่หนูๆชื่นชอบ

เปิดอ่าน 55,900 ครั้ง
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)

เปิดอ่าน 253,238 ครั้ง
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก

เปิดอ่าน 18,188 ครั้ง
Best of Web เด็ดๆโดนๆ คลิปบนโลกออนไลน์
Best of Web เด็ดๆโดนๆ คลิปบนโลกออนไลน์

เปิดอ่าน 27,290 ครั้ง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 13,092 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 38,222 ครั้ง
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)

เปิดอ่าน 25,582 ครั้ง
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"

เปิดอ่าน 26,219 ครั้ง
นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้
นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้

เปิดอ่าน 36,542 ครั้ง
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
เปิดอ่าน 29,157 ครั้ง
3 แหล่งเรียนรู้เด็ดให้เก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ
3 แหล่งเรียนรู้เด็ดให้เก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ
เปิดอ่าน 20,648 ครั้ง
รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
เปิดอ่าน 20,487 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
เปิดอ่าน 14,714 ครั้ง
หมอเตือนเชื้อปนเปื้อน"ข้าวมันไก่"ถึงตาย ระบุ ทั้งเนื้อไก่และเลือดไก่บูดเน่าได้ง่าย
หมอเตือนเชื้อปนเปื้อน"ข้าวมันไก่"ถึงตาย ระบุ ทั้งเนื้อไก่และเลือดไก่บูดเน่าได้ง่าย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ