|
|
ภาษาไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝน จนเกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริง การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนิดต่าง ๆ การอ่านในใจเพื่อสร้างความเข้าใจ และการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้จากสิ่ที่อ่าน เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน การเขียน การเขียนสะกดคำ ตามอักขรวิธี การเขียนรูปแบบสื่อสารต่าง ๆ การเขียนเรียงความ ย่อความ เขียนรายงานจาก การศึกษาค้นคว้า เขียนตามจินตนาการ เขียนวิเคราะห์และเขียนเชิงสร้างสรรค์การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดลำดับเรื่อองราวต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และการพูดเพื่อโน้มน้าวใจ หลักการใช้ภาษาไทย ศึกษาธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาสและบุคคล การแต่งบทประพันธ์ต่างๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณค่าของงานประพันธ์และเพื่อความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทำความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพื้นบ้านที่เป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยมขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้เกิดความซาบซึ้งและภูมิใจในบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน (กรมวิชาการ. 2551 : 37) การจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ในปัจจุบันยังประสบปัญหามาก เพราะคนไทยส่วนใหญ่มีปัญหาในด้านการอ่านและการเขียน ไม่ว่าจะเป็นการสะกดคำ การเว้นวรรคตอนหรือการใช้ภาษาไม่เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนสรุปความไม่เป็น อ่านหรือฟ้งจบใจความไม่ได้ล้วนแต่ขาดทักษะในการอ่านและการเขียนทั้งสิ้น จึงเป็นการ สื่อสารไม่สัมฤทธิ์ผลตามจุดมุ่งหมาย ส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ทางด้านคุณภาพการศึกษา (พริ้มเพราวดี หันตรา. 2545: 45)
สภาพปัญหาปัจจุบันการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประสบปัญหาหลายอย่างทั้งนี้เนื่องจากประสบการณ์ของนักเรียนมีเพียง การฝึกความพร้อมทางด้านการพูด การฟังภาษาไทย ขาดการฝึกทักษะด้านการอ่าน และการเขียน ทำให้เกิดปัญหาในด้าน ทักษะภาษา อ่านหนังสือไม่คล่อง เขียนไม่ถูกต้องฟังไม่เข้าใจและพูดไม่ชัดเจน ดังนั้นการสอนภาษาไทยจึงเป็นเรื่องยาก สำหรับเด็กเล็ก ๆ เพราะภาษาไทยเป็นระบ สัญลักษณ์ที่มีความซับซ้อน มีพยัญชนะถึง 44 ตัว รูปสระ 32 เสียง และวรรณยุกต์ 4 รูป แต่มี 5 เสียง ซึ่งผู้เรียนต้องอาศัยอวัยวะต่าง ๆ ที่ใช้ในการรับรู้ภาษาและประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหูตา ปาก ลิ้น และมือ (สนิท สัตโยภาส. 2532 ; อ้างอิงมาจาก Boyd. 1970) การที่จะสอนภาษาไทยให้บรรลุวัตถุประสงค์และมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ให้สัมพันธ์กันทั้งทักษะการรับเข้ามา คือการอ่านและการฟังกับทักษะการถ่ายทอดออกไปคือการพูดและการเขียน ในการเขียนถือว่าเป็นทักษะที่ยุ่งยาก ซับซ้อนและเป็นทักษะถ่ายทอดที่สำคัญต่อการสื่อสารเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทั้งในเรื่องการอ่านและการเขียนนั้นย่อมจะต้องมีการสะกดคำรวมอยู่ด้วยจึงทำให้การอ่านและการสะกดคำมีความสัมพันธ์กันในแง่ของการใช้ทักษะภาษามีนักวิจัยทางภาษา
ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้รายงานถึงความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการสะกดคำ และ ความสามารถในการอ่านว่ามีอยู่ค่อนข้างสูงมากในระดับประถมศึกษาที่เด็กไม่สามารถเรียนรู้ได้ เด็กที่สะกดคำเก่งมักเป็นเด็กที่อ่านเก่ง และเด็กที่อ่านไม่เก่งก็มักเป็นเด็กที่สะกดไม่เก่งด้วยเสมอ แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า เด็กที่สะกดคำไม่เก่งจะต้องอ่านไม่เก่งไปเสียทั้งหมด การอ่านคำกับการสะกดจึงมีความสัมพันธ์กันมาก วิธีสอนภาษาไทยสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพนั้นครูต้อง หมั่นฝึกฝนให้นักเรียนมีโอกาสฝึก ย้ำ ซ้ำ ทวน อยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกสะกดคำการฝึก แจกลูก ซึ่งต้องทำให้ผู้เรียนจำได้ฟังเข้าใจ พูดอ่านและเขียนได้ถูกต้องคล่องแคล่ว จากความสำคัญและสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยเห็นว่าน่าจะหาแนวทางในการพัฒนา ความสามารถการเขียนสะกดคำ และการอ่านให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยการใช้หลักการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานสมองของมนุษย์มีศักยภาพในการเรียนรู้สูงสุด ข้อมูลที่สัมพันธ์กับพัฒนาการต่าง ๆ ที่เข้ามาสู่สมองจะมีช่วงเวลาที่เหมาะสม (Windows) ที่จะเปิดและปิด ณ ช่วงเวลาต่าง ๆ กัน การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าและมีความหมายมากขึ้นถ้าหากข้อมูลเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมกับ การพัฒนานั้น ๆ ดังเช่น ช่วงหน้าต่างแห่งโอกาสทองของการเรียนรู้หรือ (Windows of Opportunity) (อลิศรา ชูชาติ และคณะ. 2549 : 155) ถ้าพัฒนาศักยภาพสมองของเด็กให้ได้เรียนรู้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีความสมบูรณ์พร้อมเป็นคนดี คนเก่ง ที่มี ความสุขและมีความใฝ่รู้ การเรียนรู้ที่มีความสุขส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้กระตือรือร้น สนใจไขว่คว้า อยากที่จะเรียนรู้ เกิดพลังที่จะทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย มีพลังที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ทำให้มีการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นในทางตรงข้ามถ้าผู้เรียนเกิดความเครียด ความกังวล ความเหนื่อยล้า ความเศร้า รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีความสุข อันเนื่องมากจากสาเหตุใดก็ตามไปสกัดกั้นกระบวนการเรียนรู้ในสมองทำให้ผู้เรียนไม่มีการเก็บสิ่งที่เรียนรู้ไว้เป็นความจำและไม่เกิดการเรียนรู้ทำให้ ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง ความจริงสมองพร้อมที่จะทำงานตลอดเวลา เพราะเส้นใยประสาทและระบบประสาทมีพร้อมอยู่แล้ว ต้องการเพียงแค่สิ่งกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมเท่านั้น ก็จะเกิดการเรียนรู้ภาษาขึ้นกับการเรียนรู้ ภาษาจะเป็นไปโดยอัตโนมัติแต่ที่สำคัญ เด็กจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการพูดคุย มีข้อมูลทางด้านภาษาป้อนเข้าไปอยู่ตลอดเวลา ผู้สอนจึงควรนำ ความรู้เรื่องการเรียนรู้ภาษากับการทำงานของสมองมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงและประสบความสำเร็จในการเรียนการสอนโดบใช้ชื่อนวัตกรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มาช่วยพัฒนาความสามารถการเขียนสะกดคำและการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาที่ 1 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งพบว่านักเรียนมีปัญหาในการอ่านและเขียนสะกดคำ การอ่านแจกลูก การอ่านออกเสียง ในประโยคผิดเป็นส่วนมาก สื่อสารไม่ค่อยเข้าใจ อ่านตะกุกตะกัก ทำให้การสื่อสาร ไม่ต่อเนื่องไม่สามารถใช้ภาษาไทยเพื่อถ่ายทอดเนื้อหาสาระอย่างง่าย ๆ ได้เหมาะสมกับระดับชั้น ซึ่งนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ควรที่จะอ่าน และเขียนได้ในกรอบและขอบเขตของผลการเรียนรู้ที่คาดหวังตามที่หลักสูตรกำหนดไว้ให้แต่จากการตรวจสอบความรู้พื้นฐานการใช้ภาษาไทย พบว่า นักเรียนสวนมากมีปัญหาด้านการอ่านและเขียน เนื่องจากสะกดไม่ถูกต้อง ทั้งนี้อาจเกิดจาก ครูผู้สอนใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่ไม่เหมะสม กิจกรรมซ้ำซาก จึงทำให้นักเรียนขาดความสนใจ ขาดแรงจูงใจในการเรียน หรืออาจเป็นเพราะนักเรียนมีโอกาสฝึกกิจกรรมการใช้ภาษาน้อยไป ทำให้ไม่มีพื้นฐานความรู้เพียงพอที่จะร่วมกิจกรรมทางภาษา จากความสำคัญดังกล่าว ผู้วิจัยในฐานะเป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้ศึกษาแนวคิ
|
โพสต์โดย ศน.ปิ๋ม : [6 ก.ค. 2565 เวลา 12:34 น.] อ่าน [3630] ไอพี : 61.90.32.204
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,929 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 6,068 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 50,837 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,976 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,493 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,270 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,616 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,200 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 94,286 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,052 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,341 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,858 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,048 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 104,372 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 10,383 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,854 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,647 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,390 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,056 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|