ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑”

รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน“ราชานุเคราะห์ ๑” มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินด้านบริบทของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” 2) เพื่อประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” 3) เพื่อประเมินด้านกระบวนการของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน ราชานุเคราะห์ ๑” และ 4) เพื่อประเมินด้านผลผลิตของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑”ได้ประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินซิปป์ (CIPP Model) ประกอบด้วย ประเด็นการประเมิน 4 ด้าน คือ ประกอบด้วย การประเมินด้านบริบท การประเมินด้านปัจจัยนำเข้า การประเมินด้านกระบวนการ และการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 4 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 69 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน นักเรียน จำนวน 224 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 224 คน และรวมทั้งหมด จำนวน 534 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินเป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นฉบับที่ 1 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .902 ฉบับที่ 2 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .878 ฉบับที่ 3 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .934 ฉบับที่ 4 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .915 ฉบับที่ 5 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .915 และฉบับที่ 6 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .900 การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินโครงการ พบว่า

การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” สรุปผลได้ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” ในภาพรวม ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.34, S.D. = 0.79) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีระดับความคิดเห็นในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ความต้องการจำเป็น (x̄ = 4.40, S.D. = 0.73) รองลงมา คือ ความเป็นไปได้ของโครงการ ( x̄ = 4.37, S.D. = 0.74) ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ( x̄ = 4.33, S.D. = 0.83) ส่วนด้านที่มีระดับความคิดเห็นต่ำสุด คือ ความสอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด ( x̄ = 4.25, S.D. = 0.84) มีระดับความคิดเห็นในระดับมาก ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ เกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” โดยภาพรวมตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีระดับความพร้อมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.73, S.D. = 0.55) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีระดับความพร้อมในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ การบริหารจัดการ ( x̄ = 4.83, S.D. = 0.39) รองลงมา คือ ความพร้อมของบุคลากร ( x̄ = 4.79, S.D. = 0.48) สื่อ และเครื่องมือในการดำเนินงานโครงการ ( x̄ = 4.69,S.D. = 0.61) ความเพียงพอของงบประมาณ ( x̄ = 4.68, S.D. = 0.64) ส่วนด้านที่มีระดับต่ำสุด คือ หน่วยงานที่สนับสนุนโครงการ (x̄ = 4.67, S.D. = 0.64) มีระดับระดับความพร้อมในระดับมากที่สุด ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” โดยภาพรวม ตามการปฏิบัติของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียน มีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.78, S.D. = 0.43) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีระดับการปฏิบัติ ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการจัดกิจกรรมแนะแนว (x̄ = 4.84, S.D. = 0.39) รองลงมา คือ ด้านการนิเทศ ติดตามประเมินผล และรายงานผล (x̄ = 4.83, S.D. = 0.38) ด้านการส่งต่อนักเรียน (x̄ = 4.82, S.D. = 0.39) ด้านการวางระบบบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน (x̄ = 4.79, S.D. = 0.40) การส่งเสริมพัฒนานักเรียนหลากหลาย (x̄ = 4.80, S.D. = 0.43) ด้านการป้องกันช่วยเหลือและแก้ไข (x̄ =4.73, S.D. = 0.46) ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล (x̄ = 4.71, S.D. = 0.48) ส่วนด้านที่มีระดับการปฏิบัติต่ำสุด คือ ด้านการจำแนก คัดกรองนักเรียน (x̄ = 4.70, S. D. = 0.58) มีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ผลประเมินด้านผลผลิตของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” หลังเสร็จสิ้นโครงการ ในภาพรวมมีระดับความคิดเห็นและความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.86, S.D. = 0.32) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ระดับความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ( x̄ = 4.88, S.D. = 0.27) รองลงมา คือ ระดับความคิดเห็นของนักเรียน (x̄ = 4.87, S.D. = 0.30) และความพึงพอใจ ของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียน (x̄ = 4.84, S.D. = 0.38) ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน มีรายละเอียดดังนี้

4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับความคิดเห็นของนักเรียนจากการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” หลังเสร็จสิ้นโครงการ โดยรวมมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.87, S.D. = 0.30) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ นักเรียนมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการส่งเสริมความปลอดภัยในโรงเรียน / สถานศึกษา (x̄ = 5.00, S.D. = 0.00) รองลงมา คือ นักเรียนทุกกลุ่มได้รับการดูแล ช่วยเหลือ ปกป้อง คุ้มครอง ความปลอดภัย แก้ไขและพัฒนาตามศักยภาพ (x̄ = 4.97, S.D .= 0.16) และนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( x̄ = 4.96, S.D. = 0.25) ส่วนรายการที่มีระดับความคิดเห็นต่ำสุด คือนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมตามความสนใจของแต่ละคนตามหลักสูตรที่กําหนดไว้ ( x̄ = 4.67, S.D. = 0.53) มีระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุด ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” หลังเสร็จสิ้นโครงการโดยภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.88, S.D. = 0.27) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่มีการบูรณาการทักษะชีวิตการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และโรงเรียนให้การช่วยเหลือนักเรียนด้านเงินทุนด้านการเรียน ด้านสุขภาพและอื่นๆ ( x̄ = 5.00, S.D. = 0.00) รองลงมา คือ โรงเรียนติดตามพฤติกรรมจากการช่วยเหลือ ส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ( x̄ = 4.97, S.D. = 0.18) และมีการประเมินผลการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามระยะเวลา ที่กำหนด (x̄ = 4.96, S.D. = 0.20) ส่วนรายการที่มีระดับความคิดเห็นต่ำสุด คือ มีการจัดประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย ( x̄ = 4.65, S.D. = 0.52) มีระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุด ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อ การดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้นวัตกรรม CARE System ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” หลังเสร็จสิ้นโครงการ โดยภาพรวมมีระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.84, S.D. = 0.38) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยเรียงจากมาก ไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนช่วยให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถได้รับการพัฒนาตามความสนใจ และนักเรียนไม่เสพสิ่งเสพติด ไม่ยุ่งเกี่ยว และไม่แสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งเสพติด (x̄ = 4.93, S.D. = 0.26) รองลงมา คือ นักเรียนได้รับการตรวจสุขภาพจากครูประจำชั้นที่ปรึกษาหรือโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียนมีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและครูประจำชั้นได้ออกเยี่ยมบ้านนักเรียน ( x̄ = 4.96, S.D. = 0.19) และครูประจำชั้นให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และให้การช่วยเหลือนักเรียนในด้านต่างๆ ( x̄ = 4.91, S.D. = 0.31) ส่วนรายการที่มีระดับความพึงพอใจต่ำสุด คือ ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนทำให้นักเรียนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ( x̄ = 4.74, S.D. = 0.49) มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดตามลำดับ เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมิน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน

โพสต์โดย สมรักษ์ : [4 ก.ค. 2565 เวลา 09:54 น.]
อ่าน [3350] ไอพี : 171.97.48.121
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 43,911 ครั้ง
โมเดลกระดาษ
โมเดลกระดาษ

เปิดอ่าน 103,490 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลข้อต่อเคล็ดหรือแพลง
วิธีปฐมพยาบาลข้อต่อเคล็ดหรือแพลง

เปิดอ่าน 56,623 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 72,080 ครั้ง
คลื่นความร้อนหรือ "ฮีทเวฟ" (Heat wave)
คลื่นความร้อนหรือ "ฮีทเวฟ" (Heat wave)

เปิดอ่าน 23,102 ครั้ง
สัตว์เลี้ยงมงคล เกื้อหนุนชะตา 12 ราศี
สัตว์เลี้ยงมงคล เกื้อหนุนชะตา 12 ราศี

เปิดอ่าน 12,066 ครั้ง
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล

เปิดอ่าน 9,706 ครั้ง
เตือนคนไทยระวัง "โรคลมร้อน"
เตือนคนไทยระวัง "โรคลมร้อน"

เปิดอ่าน 17,684 ครั้ง
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท

เปิดอ่าน 5,870 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาที่ 4 – มัธยมศึกษาที่ 6
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาที่ 4 – มัธยมศึกษาที่ 6

เปิดอ่าน 14,912 ครั้ง
โลก 360 องศา ซีรีส์การศึกษาในฟินแลนด์ ตอน คนเบาบาง แต่คุณภาพเข้มข้น
โลก 360 องศา ซีรีส์การศึกษาในฟินแลนด์ ตอน คนเบาบาง แต่คุณภาพเข้มข้น

เปิดอ่าน 29,399 ครั้ง
ประโยชน์ใกล้ตัว พืชผักสวนครัวใกล้บ้าน
ประโยชน์ใกล้ตัว พืชผักสวนครัวใกล้บ้าน

เปิดอ่าน 49,418 ครั้ง
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้

เปิดอ่าน 20,680 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า

เปิดอ่าน 17,792 ครั้ง
อภิชาติ หาลำเจียก
อภิชาติ หาลำเจียก

เปิดอ่าน 16,456 ครั้ง
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 21,186 ครั้ง
เจ๋งอ่ะ! 20 วิธีลดน้ำหนัก ผลาญ 500 แคลอรี่ต่อวัน
เจ๋งอ่ะ! 20 วิธีลดน้ำหนัก ผลาญ 500 แคลอรี่ต่อวัน
เปิดอ่าน 9,669 ครั้ง
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้
เปิดอ่าน 38,761 ครั้ง
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!
เปิดอ่าน 886 ครั้ง
ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี
ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี
เปิดอ่าน 55,038 ครั้ง
ความหมายของเทคโนโลยี
ความหมายของเทคโนโลยี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ