หัวข้อการวิจัย : รายงานการศึกษาการพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกัน
คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2
ผู้วิจัย : นางฐิติพร จันทร์ลอย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภูเขต 2
ปีที่ดำเนินการวิจัย : ปีการศึกษา 2563 - 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความ
ต้องการจำเป็นในการพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกันคุณภาพการศึกษา
ของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2
2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้าน
โคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 3) เพื่อศึกษาผลการใช้
กลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจ
ต่อการใช้กลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านโคก
กะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บริหาร
ข้าราชการครูและบุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกกะทอ
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้าง
(Unstructured Interview) และแบบสอบถามความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการ
จำเป็นในการพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกันคุณภาพการศึกษาของ
โรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 มีจุดอ่อน
จุดแข็ง ในการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษา และได้จัดลำดับความต้องการจำเป็นที่ต้อง
พัฒนาเร่งด่วน ดังนี้ 1) จุดอ่อน ที่ต้องพัฒนาเร่งด่วนตามลำดับความต้องการจำเป็น คือ ด้านการ
จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ด้านการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัด
การศึกษาของสถานศึกษา ด้านการจัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน และ
ด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง 2) จุดแข็ง ที่โรงเรียนดำเนินการระบบงานประกัน
คุณภาพการศึกษาได้ดีอยู่แล้วคือ ด้านการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ด้านการข
จัดระบบบริหารและสารสนเทศ ด้านการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา และการประเมิน
คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ซึ่งใน 4 ด้านนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องเร่ง
พัฒนา เพราะทั้ง 4 ด้านนี้โรงเรียนมีผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่สูง
2) ผลการพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกันคุณภาพการศึกษา
ของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2
ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 6 กลยุทธ์ ดังนี้ กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาระบบและกลไกการประกันคุณภาพ
การศึกษาให้ทันสมัย เหมาะสมกับบริบทโรงเรียน กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาและสนับสนุนให้ครู บุคลากร
สร้างแนวปฏิบัติการดำเนินโครงการโดยใช้กระบวนการ PDCA ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาระบบฐานข้อมูลด้านการประกันคุณภาพการศึกษาสำหรับการตรวจประเมิน
กลยุทธ์ที่ 4 เสริมสร้างทัศนคติที่ดี และความรู้ความเข้าใจด้านการประกันคุณภาพการศึกษาให้กับครู
บุคลากรภายในโรงเรียน กลยุทธ์ที่ 5 การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และรายงานผลการ
ดำเนินงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียน กลยุทธ์ที่ 6 สร้างภาคีเครือข่ายความ
ร่วมมือการมีส่วนร่วมในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ผลการประเมินกลยุทธ์
พบว่า ด้านความเหมาะสม ด้านความเป็นไปได้ และด้านความเป็นประโยชน์ ของ วิสัยทัศน์ พันธกิจ
เป้าประสงค์ และกลยุทธ์ อยู่ในเกณฑ์การประเมินระดับมาก และมากที่สุด
3) ผลการใช้กลยุทธ์การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิผลระบบประกันคุณภาพการศึกษาของ
โรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 พบว่า
ผลการปฏิบัติงานตามกลยุทธ์ทั้ง 6 กลยุทธ์ ของกลยุทธ์การบริหารงานระบบประกันคุณภาพ
การศึกษาของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู
เขต 2 ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด
4) ความพึงพอใจต่อผลการใช้กลยุทธ์การบริหารงานระบบประกันคุณภาพการศึกษาของ
โรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 ของครู
บุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน โดยภาพรวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด